In News

สรรพสามิตปลื้มรายได้ทะลุเป้า5.35แสนล. ชี้รถอีวีดึงภาษีฮวบเร่งเก็บ45%รถโบราณ



กรุงเทพฯ-กรมสรรพสามิตมั่นใจปิดยอดจัดเก็บรายได้ปี 2568 ตามเป้า 5.35 แสนล้านบาท ขณะที่มาตรการสนับสนุนรถอีวีทำภาษีลดฮวบ พร้อมเตรียมจัดเก็บภาษีรถโบราณนำเข้าในอัตรา 45% คาดช่วยเพิ่มรายได้ 1-2 พันล้านบาท

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค. 2567-ส.ค. 2568) กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้รวม 4.89 แสนล้านบาท เติบโต 1.6% จากปีก่อน คาดทั้งปีจะสามารถเก็บภาษีได้ตามเป้าหมาย 5.35 แสนล้านบาท หรือสูงกว่าปีก่อน 2.17% โดยเป็นเป้าที่ปรับสอดคล้องกับสถานการณ์ จากเอกสารงบประมาณที่กำหนดกว่า 609,000 ล้านบาท

แรงหนุนสำคัญมาจากการปรับโครงสร้างภาษีน้ำมันเบนซินและดีเซล เพิ่มขึ้น 1 บาทต่อลิตร โดยไม่กระทบราคาขายปลีก ช่วยดันรายได้เพิ่ม 2,800 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่การจัดเก็บภาษีสถานบริการเติบโตต่อเนื่อง หลังรัฐบาลขยายเวลาลดภาษีจาก 10% เหลือ 5% เพื่อกระตุ้นท่องเที่ยว ทำให้ 11 เดือนแรกของปีนี้เก็บได้ 199.73 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่ 138.77 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี กรมสรรพสามิตยอมรับว่าการจัดเก็บภาษีรถยนต์โดยรวมลดลง จากมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้าขนาดใหญ่ ปัจจุบันมียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าสะสม 2.33 แสนคัน กรมจ่ายเงินชดเชยไปแล้ว 7.55 หมื่นคัน รวมวงเงิน 1.12 หมื่นล้านบาท ขณะที่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามียอดจดทะเบียนสะสม 7.16 หมื่นคัน

โดยล่าสุดได้มีการกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตเตรียมจัดเก็บภาษีรถยนต์โบราณนำเข้าในอัตรา 45% คาดช่วยเพิ่มรายได้ 1-2 พันล้านบาท พร้อมผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางจัดแสดงรถโบราณในภูมิภาค รถที่เข้าข่ายต้องมีอายุ 30 ปีขึ้นไป จดทะเบียนแบบพิเศษ และอนุญาตให้วิ่งเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เว้นแต่ได้รับอนุญาตพิเศษสำหรับงานแสดง ทั้งนี้ ภาษีดังกล่าวไม่รวมรถจักรยานยนต์โบราณ และจะไม่เกี่ยวข้องกับรถยนต์โบราณที่อยู่ในประเทศอยู่แล้ว ส่วนกรณีของรถโบราณที่มีการสวมทะเบียนนั้น เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามตามกฎหมาย