In News
เกาะติดเหตุการณ์ถนนทรุดตัวลึก50เมตร กทม.ตั้ง7มาตรการ/นายกฯชี้ซ่อมเป็นปี
อัพเดตสถานการณ์ เหตุถนนทรุดตัว หน้าวชิรพยาบาล ลึก 50 เมตร อัพเดตล่าสุด นายกฯ ยันควบคุมเหตุได้แล้ว เร่งหาสาเหตุ-คืนสภาพพื้นที่ คาดใช้เวลาซ่อมอุโมงค์เชื่อมรถไฟฟ้า อย่างต่ำ 1 ปี
ที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30×30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เวลา 07.24 น. เหตุถนนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ลักษณะการทรุดตัวเป็นบริเวณกว้าง ใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียงออกจากจุดที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครรายงานมาล่าสุด กรณี ถนนทรุดตัว บริเวณหน้าวชิรพยาบาล เขตดุสิต24 กันยายน 2568 เวลา 13. 25 น. กรณี ถนนทรุดตัว บริเวณหน้าวชิรพยาบาล เขตดุสิต ในพื้นที่เกิดเหตุมีฝนตก ทำให้เกิดดินสไลด์และโครงสร้างอาคารของ สน. สามเสน บางส่วนเริ่มมีการทรุดตัว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้วยความระมัดระวังอย่างสูง ยังไม่มีการยืนยันขนาดของพื้นที่ทรุดตัว (หลุม) ที่ชัดเจน หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป

สำนักงานเขตดุสิตรายงานว่า เวลา 07.40 น. ปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล-แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัว ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เวลา 07.45 น. เหตุถนนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ในที่เกิดเหตุมีเสาไฟฟ้าตกลงไปจำนวน 2 ต้น และมีรถยกของสถานีตำรวจสามเสนได้ตกลงไป และการทรุดตัวได้ขยายวงกว้างไปเรื่อย ๆ ขณะนี้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงถึงที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างดำเนินการ
ทั้งนี้ มีการปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล-แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัว ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียง
สำหรับการจราจรและเส้นทางเลี่ยง จากเหตุถนนทรุดตัว พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม ผู้บังคับการตำรวจจราจร ได้สั่งการให้ฝ่ายจราจร สน.สามเสน ปิดการจราจรถนนสามเสน ตั้งแต่แยกศรีย่าน มุ่งหน้าแยกซังฮี้ และถนนขาว โดยให้มีเส้นทางเลี่ยงดังนี้ 1.แยกบางพลัด ข้ามสะพานกรุงธน-ให้ตรงไปแยกซังฮี้ ใช้ถนนราชวิถี 2. ถนนสุโขทัย ขาเข้า-ให้เลี้ยวซ้ายแยกสวนรื่นฤดี ใช้ถนนราชวิถี 3.ถนนสามเสน ขาเข้า-จากแยกเกียกกาย มุ่งหน้าแยกศรีย่าน ให้เลี้ยวซ้ายถนนนครไชยศรี
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง เพื่อดูแลสั่งการในการประสานงาน รวมทั้งดูแลความปลอดภัย และอำนวยการจราจรให้กับพี่น้องประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 09.58 น. ระบุว่าเบื้องต้นตัวแทนรัฐบาล มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางลงพื้นที่ตรวจเหตุถนนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
คาดรอยต่ออุโมงค์รถไฟฟ้าเสียหาย
นายชัชขาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากดินไหลเข้าไปในอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟฟ้า รอยต่อระหว่างอุโมงค์และสถานี ซึ่งมีจำนวนมาก เมื่อรอยต่อเกิดความเสียหาย ดินด้านบนจึงไหลเข้าไปสู่ตัวอุโมงค์ และช่องว่างใต้ดินที่กำลังก่อสร้าง จึงทำให้สิ่งก่อสร้างใกล้เคียงบริเวณดังกล่าวทรุดตัวลงไปด้วย

ส่วนความเคลื่อนไหวจากกระทรวงคมนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แจ้งให้ นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ร่วมกับ นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อกำกับดูแลการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด
โดยในเบื้องต้น ผู้ว่าการ รฟม. พร้อมด้วยผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ และทีมงาน ได้สั่งการให้หยุดการก่อสร้างบริเวณพื้นที่เกิดเหตุในทันที เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ พร้อมทั้งปิดกั้นพื้นที่ก่อสร้างบางส่วน และอพยพประชาชนโดยรอบออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
รฟม. ได้ประสานหน่วยงานสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง ทั้งการประปานครหลวง การไฟฟ้านครหลวง บริษัทโทรคมนาคม และตำรวจในพื้นที่ เพื่อเร่งแก้ไขสถานการณ์ รวมถึงจัดการจราจรในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้สัญจร ทั้งนี้ โรงพยาบาลวชิรพยาบาลได้แจ้งปิดรับผู้ป่วยนอกเป็นเวลา 2 วัน และคงเหลือเฉพาะการให้บริการผู้ป่วยใน
นอกจากนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุหลุมยุบถนนสามเสน
โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้กล่าวว่า รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า จึงรีบเดินทางมา
จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ขึ้นไปยังชั้น 6 อาคารเพชรรัตน์ วชิรพยาบาล เพื่อติดตามสถานการณ์จากมุมสูง และร่วมประชุมวอร์รูมติดตามสถานการณ์ โดยผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บรรยายสรุปเหตุการณ์
ผู้ว่าฯชัชชาติสั่ง 7 มาตรการด่วน จากเหตุถนนทรุดตัว

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงเหตุผิวจราจรทรุดตัว บริเวณหน้าวชิรพยาบาล ถ.สามเสน เขตดุสิต ว่า จุดเกิดเหตุคือบริเวณไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ บริเวณสถานีโรงพยาบาลวชิระ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอุโมงค์รถไฟฟ้ากับสถานี ส่งผลให้เกิดการยุบตัวของดิน และท่อประปาขนาดใหญ่ชำรุด มีดินไหลเข้าพื้นที่ก่อสร้าง และมีน้ำรั่วไหลเข้าสถานี เบื้องต้น กทม. การประปานครหลวง (กปน.) และการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ได้ตัดน้ำ-ไฟ เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแล้ว
นอกจากนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเร่งด่วน 7 ข้อ ประกอบด้วย 1.ตัดน้ำประปาและจัดระบบจ่ายน้ำสำรองให้ประชาชนในพื้นที่ 2.ตัดกระแสไฟฟ้าและสายไฟโดยรอบเพื่อความปลอดภัย 3.อุดรอยรั่วของอุโมงค์ที่ทำให้ดินไหลเข้าสถานี 4.ประเมินความปลอดภัยของอาคารโดยรอบ 5.ติดตั้งระบบมอนิเตอร์ ติดตั้งกล้อง CCTV รอบพื้นที่ และตรวจสอบการเคลื่อนตัวของดิน 6.ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคารหลักใกล้เคียง 7.จัดการจราจรโดยประสานตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ข้อสำคัญอีกข้อคือเรื่องฝนตก ถ้ามีฝนตกจะทำให้มีน้ำเพิ่มในระบบ อาจจะชะดินลงไปในช่องที่เปิด ซึ่งได้สั่งให้ตั้งทีมงานขึ้นมาพิจารณาตอนฝนตกว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อป้องกันการไหลของดินเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีเพียงความเสียหายต่อยานพาหนะจำนวน 3 คัน โดยพื้นที่ที่เสี่ยงอันตรายได้ถูกประกาศเป็นเขตห้ามเข้าแล้ว
สำหรับโรงพยาบาลวชิระ ได้ปรับรูปแบบการให้บริการ โดยงดบริการผู้ป่วยนอกชั่วคราวเป็นเวลา 2 วัน เพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ส่วนการรักษาผู้ป่วยในยังคงดำเนินการตามปกติ และมีโรงพยาบาลเครือข่ายในสังกัดกรุงเทพมหานครรองรับผู้ป่วยนอกในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะเดียวกัน กทม. และ รฟม. ได้ตั้งศูนย์บัญชาการในพื้นที่เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ และจะมีการประชุมในเวลา 12.00 น. และ 18.00 น. เพื่อติดตามความคืบหน้า โดยขอย้ำว่า ความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของโครงสร้างเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
เหตุการณ์ทั้งหมดควบคุมได้แล้ว เร่งหาสาเหตุ-คืนสภาพ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังตรวจสอบจุดเกิดเหตุดินสไลด์หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ว่า เช้าวันนี้มีเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นที่บริเวณถนนสามเสน หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เหตุที่เกิดคือการทรุดตัวของถนน อันเนื่องมาจากการสไลด์ของดิน ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วงใต้ แต่ยังโชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่เกิดความเสียหายทางทรัพย์สิน
และคาดว่าในส่วนที่มีคนอาศัยอยู่ เช่น ในตัวอาคารโรงพยาบาลวชิรฯ หากหันไปด้านใต้ที่ติดถนนไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากการทรุดตัวคงหยุดเพียงเท่านี้ ส่วนด้านที่อยู่กลางถนนซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้า มีโครงสร้างคอนกรีตที่รับการสไลด์ได้อยู่แล้ว แต่ที่น่าห่วงคืออาคารของสถานีตำรวจนครบาลสามเสน มีความสูง 5-6 ชััน ส่วนตัวเสาเข็มลึกลงไป 26 เมตร การสไลด์ของดินทำให้เข็มขาดไป 2-3 ต้น แต่มีการอพยพเจ้าหน้าที่ผู้คนออกจากอาคารหมดแล้ว
ขณะนี้เราควบคุมสถานการณ์ไว้ได้หมดแล้ว จากนี้เป็นเรื่องทางเทคนิคโดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีความรู้ด้านวิศวกรรม และผู้ว่าการการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะชี้แจงเชิงเทคนิค และรายละเอียดต่อไป ส่วนรัฐบาลจะร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ที่สังกัดกรุงเทพมหานคร
แต่เท่าที่ทราบเพื่อความปลอดภัยทางวชิรพยาบาลได้ขอปิดการให้บริการผู้ป่วยนอก (OPD) ในช่วงวันถึงสองวันนี้ก่อน แต่มีการประสานงานกับโรงพยาบาลเครือข่าย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข มาประสานความร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลของกรุงเทพมหานคร เช่น โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิศสิน ซึ่งอยู่กลางเมือง มั่นใจว่าสามารถรองรับ และให้บริการผู้ป่วยได้โดยที่ไม่มีอุปสรรคใด ๆ
เมื่อถามว่าจะต้องมีเจ้าภาพในการดูแลความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นทรัพย์สินของ รฟม. ที่จะเป็นผู้รวบรวม และจะต้องไล่เช็กว่าใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง
นอกจากนี้ ต้องดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ทั้งทางธรรมชาติหรือการออกแบบ ซึ่งจะมีทีมงานเข้ามาตรวจสอบ โดยได้ขอความร่วมมือไปครบทุกที่ ทั้งวิศวกรรมสถาน สภาวิศวกร กรมโยธาธิการและผังเมือง และสำนักโยธาธิการและผังเมือง กรุงเทพมหานคร รวมถึงอาจต้องใช้คณะวิศวกรรมที่เราเคยแสวงหาความร่วมมือเหมือนช่วงที่มีเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ซึ่งต้องระดมกำลังมีรูปแบบที่คล้ายกัน ที่สำคัญต้องเคลียร์พื้นที่ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด และเยียวยาผู้เสียหาย ทั้งยานพาหนะ และการพิสูจน์สาเหตุ ซึ่งขณะนี้ขออย่าเพิ่งพูดว่าเกิดหรือผิดพลาดจากอะไร ยืนยันว่าเราต้องหาสาเหตุได้แน่นอนเพราะเป็นเรื่องทางวิศวกรรมศาสตร์ล้วน ๆ
ส่วนที่มีการระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ถนนทรุดเกิดจากมีดินสไลด์เข้าไปในสถานีรถไฟฟ้า นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้น ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการที่มีคนเห็นน้ำเอ่อขึ้นมาบนพื้นถนน มีความผิดปกติ และถนนสุดตัว ซึ่งต้องไล่ความผิดปกติไปเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันมีอุโมงค์ถึงสองชั้นที่ซ้อนกัน และอยู่กันคนละระดับ จะต้องมาดูว่าชั้นดินที่คั่นระหว่างอุโมงค์ในช่วงของการถมดินแน่นหรือไม่ และปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามามาได้อย่างไร
“ตอนที่ที่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ผมเชื่อ รฟม. จะเร่งสำรวจแนวเส้นรถไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมด ทั้งที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังก่อสร้างอยู่ เราต้องเร่งดำเนินการให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่พี่น้องประชาชน วันสองวันนี้ต้องหาสาเหตุที่ทำให้เกิดดินทรุดตัวให้ได้ว่าเกิดจากอะไร” นายกรัฐมนตรีระบุ
เมื่อถามว่า เร่งตรวจสอบ และซ่อมแซมให้เสร็จภายในกี่วัน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากจะต้องมีการใช้งานต่อไป ซึ่งไม่เหมือนกับอาคาร สตง. ที่ถล่มลงมาทั้งหมด ที่เราสามารถปิดจ็อบ และดูเรื่องของการค้นหา แต่ส่วนนี้เป็นส่วนที่ชำรุดเสียหายซึ่งเราต้องเร่งบูรณะ และเชื่อมต่อเพื่อให้โครงการสามารถใช้งานต่อไป ส่วนทางด้านเทคนิคยังไม่มีใครสามารถฟันธงได้ โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองจะต้องเป็นเจ้าภาพ ในการรวบรวมนักวิชาการ และมีความรู้ด้านเทคนิคการเจาะอุโมงค์ใต้ดินเพื่อเร่งหาสาเหตุ
ส่วนกำหนดการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไม่ทราบ ขออย่าเพิ่งถามรายละเอียด และต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยสนับสนุนแน่นอน
นายกฯคาด1ปีซ่อมอุโมงค์เชื่อมรถไฟฟ้าเสร็จ

นายกฯ อนุทิน ให้สัมภาษณ์หลังหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาถนนสามเสน ทรุดตัว ว่า ตนสั่งงานไปแล้ว ขอให้รอถามทางผู้ว่าฯ รฟม. ส่วนหลังจากนี้จะเตรียมตัวเพื่อเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ เลยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะไปสะสางงาน โดยในวันนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ซึ่งจะมีการนำเรื่องถนนทรุดตัวเข้าที่ประชุมเป็นเรื่องด่วนอีกด้วย
โดยนายอนุทิน ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังดีหน่อย ที่สถานการณ์ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่เป็นเรื่องของทรัพย์สิน ซึ่งเราต้องไปไล่เบี้ยดูว่า ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง ส่วนความกังวลในพื้นที่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ได้กำชับให้ตรวจตราทุกอย่างให้เรียบร้อย โดยต้องเร่งหาสาเหตุให้ได้ก่อนว่าถนนทรุดตัวเกิดจากอะไร
ส่วนสัปดาห์นี้สถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติได้หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ต้องมีการเร่งคืนสภาพ และแก้ไขความเสียหายให้เร็วที่สุด เพราะเป็นช่วงที่เชื่อมต่อกัน ตนก็เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่เร็ว เพราะกว่าจะซ่อมแซมโครงสร้างอุโมงค์เชื่อมต่อกลับไปใหม่ได้ ก็อาจจะใช้เวลา อย่างต่ำก็ 1 ปี
