In Global
จีน-อาเซียนกระชับความร่วมมือผ่านเวที CAEXPO2025เดินหน้าสู่ยุคการค้าเสรี3.0

งานมหกรรมแสดงสินค้าจีน–อาเซียนครั้งที่ 22 (China-ASEAN Expo : CAEXPO 2025) และการประชุมสุดยอดการค้าและการลงทุนจีน–อาเซียน ที่นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ปิดฉากลงเมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา โดยงาน CAEXPO 2025 ปีนี้มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงงานกว่า 3,260 บริษัท จากกว่า 60 ประเทศ มีผู้เข้าชมงานกว่า 221,000 คน มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยการลงนามข้อตกลงด้านเศรษฐกิจและการค้ากว่า 500 รายการ อาทิ การลงทุนด้านอุตสาหกรรมการผลิตเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และพลังงานใหม่ ตอกย้ำบทบาทของนครหนานหนิงในฐานะประตูเชื่อมโยงเศรษฐกิจจีนและอาเซียน และสะท้อนพลังเศรษฐกิจที่เติบโตของจีนและอาเซียน
ผู้เชี่ยวชาญจากอาเซียนชี้ว่า CAEXPO 2025 ยังเป็นเวทีการค้าที่ช่วยต่อยอดแรงส่งจากการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรีจีน–อาเซียนฉบับปรับปรุง (CAFTA 3.0) เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่ง CAFTA 3.0 นี้ ขยายขอบเขตมากกว่ามาตรการลดภาษี ไปสู่การกำหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ที่จะเป็นแรงขับสำคัญในการลดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี สร้างความชัดเจนด้านกฎเกณฑ์สำหรับการค้าดิจิทัล ซึ่งช่วยเปิดโอกาสให้อีคอมเมิร์ซ บริการคลาวด์ และแพลตฟอร์มดิจิทัลในภูมิภาคเติบโตอย่างก้าวกระโดด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มูลค่าการค้ารวมระหว่างจีน–อาเซียนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ แตะระดับ 4.93 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 22,678 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นเกือบ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการค้าระหว่างจีนและอาเซียนยังปรับจากสินค้าเกษตรมาสู่กลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจดิจิทัลและบริการที่มีศักยภาพสูง
หนึ่งในไฮไลต์ของ CAEXPO 2025 คือ การเปิดโซนจัดแสดงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นครั้งแรก โดยมีบริษัทด้าน AI กว่า 200 แห่งเข้าร่วมงาน มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์กว่า 1,200 รายการ อาทิ โมเดลภาษาขนาดใหญ่กว่า 20 แบบ หุ่นยนต์อัจฉริยะกว่า 60 ตัว ทำให้สัดส่วนของเทคโนโลยีไฮเทคในงานเพิ่มสูงอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ 25 รายการ ทั้งด้านเศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานใหม่ และยานยนต์อัจฉริยะ แสดงถึงทิศทางการพัฒนา “กำลังการผลิตคุณภาพใหม่” ที่จีนและอาเซียนต้องการผลักดันร่วมกัน
เว่ย เจ๋าฮุย เลขาธิการสำนักเลขาธิการ CAEXPO ระบุว่า มีการลงนามโครงการลงทุน 155 โครงการ โดย 74 โครงการเป็นด้านการผลิต คิดเป็น 88% ของการลงทุนทั้งหมด เช่น การลงทุนด้านเครื่องจักรกล ปิโตรเคมี โลหะ วัสดุใหม่ อุตสาหกรรมเบา สิ่งทอ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่น่าสนใจ คือ มีโครงการกว่า 40 รายการที่ใช้ AI เป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม แสดงถึงแนวโน้มการประยุกต์เทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตของภูมิภาค
ในบริบทที่โลกเผชิญแรงกดดันจากการกีดกันทางการค้าและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความร่วมมือระหว่างจีนและอาเซียนจึงถูกมองว่าเป็นกลไกสร้างเสถียรภาพที่สำคัญ กรอบกติกาที่ชัดเจนของ CAFTA 3.0 ยังจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีนและอาเซียนให้เติบโต
โดยปีหน้าฟิลิปปินส์ได้รับเกียรติเป็น “ประเทศเกียรติยศ” ในงาน CAEXPO ครั้งที่ 23 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17–21 กันยายน 2026 เพื่อต่อยอดพลังความร่วมมือทางเศรษฐกิจของจีนและอาเซียนให้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งต่อไป
บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย
ภาพ : CGTN