Digitel Tech & AI

อาลีบาบาคลาวด์ประกาศแผนขยายธุรกิจ สู่นานาชาติกับขับเคลื่อนนวัตกรรมAI



กรุงเทพฯ - 25 กันยายน 2568 – อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศแผนกลยุทธ์ล่าสุดในการเปิดศูนย์ข้อมูลแห่งแรกในประเทศบราซิล ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ พร้อมทั้งมีแผนเพิ่มศูนย์ข้อมูลในเม็กซิโก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และดูไบในปีหน้า การขยายตัวเชิงกลยุทธ์นี้ประกาศในงานประชุมเทคโนโลยีประจำปี Apsara Conference 2025 โดยจะรวมถึงการจัดตั้งศูนย์บริการระดับภูมิภาคแห่งใหม่ในอินโดนีเซียและเยอรมนี เพื่อให้การสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงในหลายภาษา ต่อยอดจากปัจจุบันที่อาลีบาบา คลาวด์ มี availability zones จำนวน 91 แห่งใน 29 ภูมิภาคทั่วโลก 

ดร. เฟยเฟย ลี ประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศและรองประธานอาวุโสของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป กล่าวว่า “AI กำลังปฏิวัติไม่เพียงแค่เทคโนโลยี แต่ยังรวมถึงรากฐานสำคัญของวิธีการที่องค์กรสร้างคุณค่าทางธุรกิจและขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรอีกด้วย กลยุทธ์การขยายโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกของเราออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากลูกค้าที่มองการณ์ไกล อาลีบาบา คลาวด์ อยู่ในแนวหน้าของนวัตกรรมด้าน AI และได้ร่วมกับลูกค้าของเราพัฒนาโซลูชัน AI และคลาวด์แบบครบวงจรที่สนับสนุนธุรกิจได้ทุกที่ทุกเวลา เราพร้อมช่วยเหลือพันธมิตรและลูกค้าในการออกแบบ เปิดตัว และขยายขนาดของ AI agents และแอปพลิเคชัน AI ที่ก้าวล้ำ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัลรุ่นใหม่และปลดล็อกคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ในตลาดโลก”  

อาลีบาบา คลาวด์ ได้เปิดโครงการ AI Catalyst Program เพื่อส่งเสริมระบบนิเวศเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเติบโตและขยายขนาดของบริษัทด้าน AI ทั่วโลก บริษัทที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญระดับอุตสาหกรรม เข้าถึงผลิตภัณฑ์และเครื่องมือด้าน AI รวมถึงทรัพยากรอื่นสำหรับการเข้าสู่ตลาด ซึ่งรวมถึงโทเค็นฟรีสูงสุด 2 พันล้านโทเค็นบนแพลตฟอร์ม Model Studio ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการพัฒนา generative AI แบบครบวงจรของอาลีบาบา คลาวด์ และเครดิตคลาวด์สูงสุด 120,000 เหรียญสหรัฐฯ จากอาลีบาบา คลาวด์ ด้วย 

ขับเคลื่อนนวัตกรรม AI ของพันธมิตรและลูกค้าทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยี AI และคลาวด์แบบครบวงจร

บริษัทระดับโลกจำนวนมากกำลังร่วมมือกับอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อใช้ AI ขยายขอบเขตการดำเนินงาน แอปพลิเคชันที่ล้ำสมัยที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น กีฬา ยานยนต์ เภสัชกรรม การตลาด และเทคโนโลยี ได้แสดงให้เห็นคุณค่าของ AI ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโต  

อาลีบาบา คลาวด์ ประกาศรวม Platform for AI (PAI) ของบริษัทฯ เข้ากับชุดซอฟต์แวร์ Physical AI ของ NVIDIA เต็มรูปแบบ ซึ่งนับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับ Physical AI ความร่วมมือนี้ช่วยให้นักพัฒนามีแพลตฟอร์มคลาวด์เนทีฟที่ครบวงจร ช่วยเร่งความก้าวหน้าในงานพัฒนาหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ (humanoid) และโซลูชัน Physical AI ความร่วมมือนี้เป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของอาลีบาบา คลาวด์ ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมบน Physical AI รวมถึงความพร้อมในการมอบเครื่องมือและความคล่องตัวให้กับนักพัฒนาเพื่อเปิดทางสู่การพัฒนาหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ที่รวดเร็วขึ้น

อาลีบาบา คลาวด์ ร่วมมือกับสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ (ISU) และ ThinkSport ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมและศูนย์ความเป็นเลิศที่ก่อตั้งโดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) โดยเปิดตัวการแข่งขัน Sports Data Hack Challenge ซึ่งเป็นเวที AI Hackathon ที่มุ่งไปที่ตลาดยุโรป ระยะเวลาการแข่งขันตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2568 โปรแกรมการแข่งขันนี้จะใช้เทคโนโลยี AI และคลาวด์ที่เชื่อถือได้ของอาลีบาบา คลาวด์ เข้ามามีส่วนร่วมกับระบบนิเวศนวัตกรรมกีฬาของยุโรป ตั้งแต่สตาร์ทอัพ นักพัฒนา นักวิชาการ และผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อเร่งการนำ AI และคลาวด์มาใช้ในวงการกีฬา สร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความท้าทายทางธุรกิจ และเปลี่ยนแนวคิดที่ชนะการแข่งขันให้กลายเป็นโครงการเชิงพาณิชย์ที่ใช้งานจริง  

บริษัทเภสัชกรรมยักษ์ใหญ่ “แอสตร้าเซนเนก้า ไชน่า” (AstraZeneca China) ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) Qwen และ Model Studio ของอาลีบาบา คลาวด์: Exclusive solution ที่ใช้สร้างเครื่องมือรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในจีน ช่วยให้ผู้ตรวจสอบของบริษัทยาที่เป็นมนุษย์สามารถระบุเอกสารที่เกี่ยวข้องและสร้างรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากยาได้อย่างละเอียด ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการรับรองความปลอดภัยของยา ขณะเดียวกัน แอสตร้าเซนเนก้ายังใช้เทคโนโลยี AI ของอาลีบาบา คลาวด์ สร้างเอเจนต์อัจฉริยะสำหรับองค์กร และแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของแอสตร้าเซนเนก้าในจีน  

การฝึกโมเดลด้วยเอกสารทางการแพทย์และบทความวิชาการจำนวนมหาศาล ร่วมกับการปรับแต่งด้วยชุดข้อมูลที่กำหนดเองของอาลีบาบา คลาวด์ ทำให้บริษัทฯ สามารถช่วยแอสตร้าเซนเนก้าสร้างโมเดลเฉพาะทางด้านการแพทย์ที่มีความเข้าใจในเชิงลึกในสาขานี้เป็นของตัวเอง โมเดลนี้สามารถระบุข้อมูลความปลอดภัยที่สำคัญจากเอกสาร และสรุปด้วยความแม่นยำถึง 95% ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทั้งหมด 300% เมื่อเทียบกับการวิเคราะห์ของมนุษย์  

นายซิน จง หัวหน้าฝ่ายไอทีเชิงพาณิชย์ของแอสตร้าเซนเนก้า ไชน่า กล่าวว่า “การทำงานอย่างใกล้ชิดกับอาลีบาบา คลาวด์ ทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จาก Qwen LLM และ Model Studio: Exclusive ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากเอกสารทางการแพทย์จำนวนมากได้อย่างมาก เราภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำนวัตกรรมนี้ในอุตสาหกรรม และคาดหวังที่จะสำรวจความเป็นไปได้ด้านนวัตกรรมที่ใช้ AI อื่นเพิ่มเติมกับอาลีบาบา คลาวด์”

ชิเซโด้ (Shiseidoผู้ค้าปลีกผลิตภัณฑ์ความงามและเครื่องสำอางที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้ยกระดับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและความปลอดภัยในการดำเนินงานในจีน โดยใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม Cloud Threat Detection and Response (CTDR) ที่ล้ำสมัยของอาลีบาบา คลาวด์ ชิเซโด้ใช้ AI ขั้นสูงเพื่อวิเคราะห์การแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ โดย CTDR สามารถรวมการแจ้งเตือนที่กระจัดกระจาย ให้เป็นเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ครบถ้วน ด้วยการสร้างห่วงโซ่การโจมตีที่ชัดเจนจากเบาะแสที่ซับซ้อน ก่อนจะระบุตัวผู้กระทำความผิด ช่วยให้ชิเซโด้สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้วยความรวดเร็วและแม่นยำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนการดำเนินงาน นอกจากนี้ บริการ Managed Detection and Response (MDR) ของอาลีบาบา คลาวด์ ยังมอบการป้องกันเชิงรุก ให้บริษัทตามล่าภัยคุกคาม สืบสวนและตอบสนองอย่างรวดเร็วโดยผู้เชี่ยวชาญตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความมั่นใจต่อความต่อเนื่องและความยืดหยุ่นของธุรกิจชิเซโด้

นายเจอร์รี่ หลิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของชิเซโด้ ไชน่า และทราเวล รีเทล จาก ชิเซโด้ ไชน่า กล่าวว่า “ความปลอดภัยไม่ใช่เพียงข้อกำหนดด้านเทคนิคที่ควรมี แต่เป็นสิ่งจำเป็นเชิงกลยุทธ์สำหรับการเติบโตของเราในจีน การเป็นพันธมิตรกับอาลีบาบา คลาวด์ ทำให้เรามั่นใจในการขยายการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างปลอดภัย การตรวจจับภัยคุกคามที่ขับเคลื่อนด้วย AI และบริการจากผู้เชี่ยวชาญช่วยให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์ความงามที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า โดยรู้ว่าโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของเราในจีนได้รับการปกป้องด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง”  

เกลดคูบ (GladCube) ผู้ให้บริการด้านการตลาดดิจิทัลชั้นนำ ได้ร่วมมือกับอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อร่วมกันพัฒนาโซลูชัน AI ที่ล้ำสมัยที่ปรับให้เหมาะกับตลาดดิจิทัลของญี่ปุ่น ซึ่ง GladCube มุ่งหวังที่จะเร่งขั้นตอนการพัฒนาเนื้อหาให้เร็วขึ้น และส่งมอบคุณค่าที่วัดผลได้ให้กับลูกค้าทั่วทั้งอุตสาหกรรมด้วยการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้ของอาลีบาบา คลาวด์ รวมถึงเทคโนโลยี AI คุณภาพระดับโลก   

การรวมโมเดลสร้างรูปภาพ Wan ของอาลีบาบา เข้ากับแพลตฟอร์มแปลงวิดีโอแนวตั้ง ‘Dra Vis’  นั้นช่วยให้ GladCube สามารถผลิตวิดีโอคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ของทีมการตลาด นอกจากนี้ GladCube จะเปิดตัว AvaTwin บริการอวาตาร์ AI ที่ขับเคลื่อนด้วย Wan ซึ่งผสมผสานอวาตาร์ดิจิทัลเข้ากับการให้เสียงบรรยายที่ AI สร้างขึ้น วิดีโอที่ได้จะเหมาะสำหรับการสื่อสารในองค์กร เช่น การประกาศผลประกอบการ การประกาศวาระการประชุมผู้ถือหุ้น และการทำแคมเปญสรรหาบุคลากร  

นายฮิโรกิ คาเนชิมะ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GladCube กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นสู่เป้าหมายสองประการ ทั้งความเป็นเลิศด้านความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพการพัฒนาเนื้อหาด้วยการใช้ประโยชน์จาก generative AI ความร่วมมือกับอาลีบาบา คลาวด์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่เรามั่นใจว่าจะปฏิวัติการผลิตเนื้อหาเชิงสร้างสรรค์ และจะกำหนดอนาคตของการตลาดดิจิทัลในญี่ปุ่นต่อไป”  

FLUX สตาร์ทอัพด้าน AI ที่อยู่ในโตเกียว ได้พัฒนา FLUX-Japanese-Qwen ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่สำหรับภาษาญี่ปุ่นที่มีพารามิเตอร์ 32 พันล้านตัว และเป็นโมเดลโอเพ่นซอร์สที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมในการวัดผลเบนช์มาร์กเกณฑ์มาตรฐานภาษาญี่ปุ่น โดยเฉพาะในด้านการวิเคราะห์พื้นฐาน การสรุป และการสร้างโค้ด ซึ่งเป็นผลจากรากฐานด้านความรู้ การใช้เหตุผล และภาษาญี่ปุ่นที่แข็งแกร่งมาก  

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญของโมเดลนี้คือวิธีการ Pinpoint-tuning ที่ไม่เหมือนใคร แทนที่จะปรับแต่งทั่วทั้งโมเดล ซึ่งมักทำให้ความสามารถด้านการใช้เหตุผลและการอนุมานลดลง โมเดลนี้จะระบุและปรับแต่งเฉพาะส่วน neural circuit ที่รับผิดชอบการประมวลผลภาษาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ความแม่นยำนี้ช่วยให้การเข้าใจและการสร้างภาษาญี่ปุ่นดีขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ยังคงรักษาความสามารถดั้งเดิมของโมเดลไว้อย่างครบถ้วน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นบนความร่วมมือกับ Alibaba Tongyi Lab ซึ่ง FLUX ได้ใช้เป็นแนวทางเพื่อพัฒนา FLUX-Japanese-Qwen และสร้างโมเดลเฉพาะอุตสาหกรรมแรกสำหรับภาคการเงิน  

ด้วยการใช้ Pinpoint-tuning กับชุดข้อมูลภาษาญี่ปุ่นที่เฉพาะเจาะจงในด้านการเงิน ซึ่งถูกต้องทั้งในแง่กฎระเบียบ แนวปฏิบัติทางธุรกิจ และการพัฒนาอุตสาหกรรม โมเดลที่สร้างมาเฉพาะทางด้านการเงินนี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้านการเงิน ด้วยการตอบสนองที่เชื่อถือได้และเข้าใจบริบท ช่วยผลักดันให้เกิดการนำ AI มาใช้ในภาคส่วนนี้อย่างแพร่หลาย  

เทอร์โบ เอไอ (Turbo AI) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำ ใช้โครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ล้ำสมัยของอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อให้บริการโซลูชันแบบบูรณาการที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคกับไลฟ์ไซเคิลของ AI ทั้งหมด ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาโมเดลไปจนถึงการปรับใช้และการประยุกต์ใช้จริง โซลูชันเหล่านี้ครอบคลุมกรณีการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การดำเนินการโมเดลขนาดเล็ก ไปจนถึงการจัดการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่  

นายหยวน ลู หัวหน้าฝ่ายบิ๊กดาต้าของ Turbo AI กล่าวว่า “ด้วยการใช้โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ยืดหยุ่นและปลอดภัยของอาลีบาบา คลาวด์ รวมถึงการจัดสรรทรัพยากรอัจฉริยะ Turbo AI สามารถกำหนดค่าและปรับขนาดทรัพยากรการประมวลผลได้อย่างยืดหยุ่น ช่วยให้เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและปรับปรุงประสิทธิภาพต้นทุนของเวิร์กโหลด AI ฐ์ของลูกค้าได้อย่างมีนัยสำคัญ”