EDU Research & Innovation
มธ.จับมือกทม.และม.นวมินทราธิราช เสริมศักยภาพคนเมืองชูวิจัยเพื่อสังคม
กรุงเทพฯ 25 กันยายน 2568 – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จับมือ กรุงเทพมหานคร และ ม.นวมินทราธิราช ลงนามร่วมมือพัฒนาระบบฐานข้อมูลและนวัตกรรมเชิงวิชาการ ยกระดับการบริหารจัดการเมืองอย่างยั่งยืน เพื่อพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและบุคลากร ทั้งยังร่วมมือในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการเมืองด้วยองค์ความรู้ทางวิชาการ ส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคมที่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ และแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า การเข้าร่วมความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะได้ขยายบทบาทด้านการวิจัยและการบริการวิชาการไปสู่สังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน ใช้ศักยภาพทางวิชาการเข้ามาหนุนเสริมให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และถูกนำออกมาใช้ประโยชน์จริงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยขอบเขตความร่วมมือในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1. การพัฒนาระบบฐานข้อมูล 2. การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและบุคลากรร่วมกัน ผ่านการจัดกิจกรรมเชิงวิชาการ การฝึกอบรม ฝึกปฏิบัติ ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ หรือฝึกภาคสนามต่าง ๆ และ 3. การดำเนินงานวิชาการ วิจัย บริการวิชาการ งานสร้างสรรค์และสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ ๆ รวมไปถึงการพัฒนาหลักสูตรต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์ต่อสังคม
“ธรรมศาสตร์จะเดินหน้าเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันให้ความร่วมมือครั้งนี้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม โดยไม่เพียงสร้างนวัตกรรมและองค์ความรู้ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจและต้นแบบในการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคมไทยในภาพรวม”
ในโอกาสนี้ มหาวิทยาลัยยังได้นำเสนอผลงาน Application ‘หมอ กทม.’ โดย ผศ. ดร.ศิวาพร กลิ่นมาลัย และ ผศ. ดร.จิฐิพร วงศ์วัชรไพบูลย์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง และโครงการ ‘การสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning) ในสังคมสูงวัย เพื่อสร้างโอกาสในอาชีพและการทำงานในพื้นที่นำร่องตลาดพลู กรุงเทพมหานคร’ โดย ผศ. ดร.ดวงใจ หล่อธนวณิชย์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี รวมทั้งบูธนิทรรศการ ได้แก่ 1. Arm Booster อุปกรณ์ฟื้นฟูสมรรถภาพแขน โดย ผศ. ดร.บรรยงค์ รุ่งเรืองด้วยบุญ คณะวิศวกรรมศาสตร์ 2. สถาปัตยกรรมจากกระบวนการออกแบบอย่างมีส่วนร่วม: กรณีสวนสาธารณะชุมชน เมืองบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดย รศ. ศรีศักดิ์ พัฒนวศิน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง และ 3. ระบบตรวจวัดสุขภาพอาคาร Structural Health Monitoring (SHM) โดย ผศ. ดร.อมรเทพ จิรศักดิ์จำรูญศรี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ 4. โครงการโรงเรียนปล่อยแสง สังกัด กรุงเทพมหานคร ครูสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อนักเรียน โดย อาจารย์ ดร.วีรพล แก้วพันธ์อ่ำ และ อาจารย์ปรางมาส คุ้มภัย โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ 5. บ้านแสนอยู่ดี 100,000 UD HOUSE สำหรับผู้สูงอายุที่มีความพิการ โดย รศ. ดร.ชุมเขต แสวงเจริญ และอาจารย์ณัฐวดี เตมียกุล คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง
โดยทั้ง 3 สถาบัน จะร่วมกันดำเนินโครงการนำร่อง จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการประเมินภาวะ Sarcopenia หรือภาวะกล้ามเนื้อพร่องในกลุ่มผู้สูงอายุ โปรแกรมการออกกำลังกาย และอาหารของผู้สูงอายุ ในพื้นที่เขตดอนเมือง ดำเนินการโดย รศ. ดร.ไพลวรรณ สัทธานนท์ รศ. ดร.พรพิมล อังคเศกวินัย คณะสหเวชศาสตร์ และ ผศ. พ.ต.ต.หญิง ดร.คัติยา อีวาโนวิช คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ 2. โครงการปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าและผลต่อสมรรถภาพปอดและโรคหืดในเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ดำเนินการโดย ศ. นพ.ภาสกร ศรีทิพย์สุโข คณะแพทยศาสตร์ ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ 3. โครงการเกมดิจิตอลเพื่อช่วยครูสอนทักษะการอ่านภาษาไทยในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้น ดำเนินการโดย ศ. นพ.ภาสกร ศรีทิพย์สุโข คณะแพทยศาสตร์ ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ 4. โครงการการสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning) ในสังคมสูงวัย เพื่อสร้างโอกาสในอาชีพและการทำงานในพื้นที่นำร่องตลาดพลู (Phase 2) ดำเนินการโดย ผศ. ดร.ดวงใจ หล่อธนวณิชย์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ 5. โครงการเมืองอัจฉริยะยืดหยุ่น: การบูรณาการแนวทางธรรมชาติและเทคโนโลยีต้นทุนต่ำเพื่อการลดฝุ่น PM 2.5 ในชุมชนเมืองไทย ดำเนินการโดย ผศ. ดร.ศิวาพร กลิ่นมาลัย และ ผศ. ดร.จิฐิพร วงศ์วัชรไพบูลย์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถพร้อมต่อการทำงานจริง ความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครและม.นวมินทราธิราช จะช่วยเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การฝึกปฏิบัติ และการสร้างเครือข่ายวิจัยเชิงสหวิทยาการ ซึ่งล้วนเป็นรากฐานสำคัญต่อการผลิตบัณฑิตและบุคลากรที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของสังคมเมืองที่ซับซ้อนมากขึ้น