In Global

จีนเปิดประวัติศาสตร์ใหม่ในการสำรวจ มหาสมุทรอาร์กติกครั้งที่ 15



เรือตัดน้ำแข็ง Xuelong-2 พร้อมนักวิจัยและลูกเรือกว่า 100 ชีวิต เดินทางกลับถึงนครเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากภารกิจการสำรวจมหาสมุทรอาร์กติก (Arctic Ocean) ลุล่วงด้วยดี

การสำรวจมหาสมุทรอาร์กติกครั้งที่ 15 นี้ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของจีน ถูกจัดว่าเป็นการปฏิบัติภารกิจทางวิทยาศาสตร์ในขั้วโลกเหนือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน โดยใช้กองเรือวิจัย 4 ลำ ได้แก่ เรือ Xuelong-2 เรือ Jidi เรือ Shenhai-1 และ เรือ Tansuo-3  เรือวิจัยทั้ง 4 ลำ มีบทบาทแตกต่างกันแต่ทำงานเสริมกัน เพื่อสำรวจสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในภูมิภาคอาร์กติก ข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติการครั้งนี้จึงมีความสำคัญต่อการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

เรือ Xuelong-2 และ เรือ Jidi ทำหน้าที่หลักในภารกิจการสำรวจสิ่งแวดล้อมทางทะเลแบบครบวงจร ในพื้นที่สำคัญเช่น Chukchi Plateau Canada Basin และตอนกลางของมหาสมุทรอาร์กติก เรือทั้ง 2 ลำ ช่วยทำหน้าที่สนับสนุนการดำน้ำลึกโดยมนุษย์ เก็บข้อมูลบริเวณชายขอบน้ำแข็ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่แสดงการเปลี่ยนแปลงด้านระบบนิเวศได้อย่างชัดเจน การเก็บข้อมูลครั้งนี้ยังมีการพัฒนาวิธีสังเกตการณ์แบบบูรณาการ 3 มิติระหว่างชั้นบรรยากาศ น้ำแข็ง และมหาสมุทร นับเป็นก้าวสำคัญของงานวิจัยมหาสมุทรอาร์กติกในศตวรรษใหม่

หนึ่งในไฮไลท์ของการสำรวจครั้งนี้คือ การดำน้ำใต้ผืนน้ำแข็งอาร์กติกเป็นครั้งแรกของจีน โดยเรือดำน้ำเจียวหลง (Jiaolong) ซึ่งประจำการบนเรือ Shenhai-1 ดำสู่ห้วงน้ำลึกใต้ผืนน้ำแข็งสำเร็จ ยืนยันความสามารถของทีมวิจัยจีนและศักยภาพเทคโนโลยีในการเข้าถึงและสำรวจทะเลลึกภายใต้สภาพแวดล้อมสุดขั้ว ที่ช่วยเปิดประตูสู่การศึกษาชีววิทยาและระบบนิเวศใต้ทะเลลึกในมหาสมุทรอาร์กติกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ผลการศึกษาเบื้องต้นจากการดำน้ำและการสำรวจหลายจุดพบความแตกต่างของสิ่งมีชีวิตพื้นทะเล (benthic organisms) ทั้งในด้านความหนาแน่น ความหลากหลาย และขนาดของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดในพื้นที่ห่างกันเพียงไม่กี่ร้อยกิโลเมตร การค้นพบนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจรูปแบบการกระจายตัวของสิ่งมีชีวิตขั้วโลกได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศใต้ทะเลลึก

นอกจากนั้น การทำงานแบบประสานกันของเรือ Xuelong-2 และ เรือ Jidi ยังช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลในน่านน้ำละติจูดสูงที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วยเติมเต็มองค์ความรู้ในการพัฒนาความสามารถพยากรณ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลที่แม่นยำขึ้น โดยเฉพาะการติดตามการเปลี่ยนแปลงของผิวน้ำแข็ง การลอยตัวของก้อนน้ำแข็ง และระบบไฮโดรโลยีใต้ผืนน้ำแข็ง

การสำรวจครั้งนี้ยังช่วยขยายขอบเขตของงานวิจัยด้านนิเวศวิทยา ทั้งการใช้ระบบถ่ายภาพพื้นทะเลหลายชั้น การเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงของคลอโรฟิลล์ใต้น้ำ การศึกษากระบวนการก่อตัวของ “หิมะทะเล” (marine snow) ผลการวิจัยเหล่านี้มีความสำคัญต่อวงการวิทยาศาสตร์ แต่ยังสะท้อนให้เห็นพลวัตของโลกที่มนุษย์จำเป็นต้องทำความเข้าใจอย่างเร่งด่วน

การสำรวจมหาสมุทรอาร์กติกครั้งที่ 15 จึงเป็นบทใหม่ของการสำรวจขั้วโลก ทั้งในด้านเทคโนโลยี การวิจัย และความร่วมมือเชิงบูรณาการ ผลลัพธ์จากการเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงเสริมสร้างองค์ความรู้ของจีน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนความพยายามของโลกในการทำความเข้าใจและรับมือกับวิกฤตภูมิอากาศด้วย

บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย
ภาพ : CGTN