Think In Truth
GOVERNMENT Shutdownภาพสะท้อน ODIN ProjectและGlobal Currency Reset เปลี่ยนโฉมการเมือง-การเงินโลก
ม่านควันเหนือกรุงวอชิงตัน
เมื่อเสียงนาฬิกาประจำทำเนียบขาวเดินเข้าสู่ปี 2025 โลกจับตามองไปยังสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง เหตุการณ์ที่ปรากฏในข่าวพาดหัวอย่างตรงไปตรงมา-“รัฐบาลปิดทำการ” (Government Shutdown)-หาใช่เรื่องใหม่ หากแต่ครั้งนี้กลับสะท้อนมิติที่ลึกซึ้งกว่าความขัดแย้งทางงบประมาณหรือความล้มเหลวเชิงการเมืองแบบเดิม ท่ามกลางการอธิบายที่สื่อกระแสหลักนำเสนอด้วยกรอบการตีความปกติ กลับมีสัญญาณและร่องรอยที่บ่งบอกว่าเบื้องหลังการปิดทำการครั้งนี้คือปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ที่ซ่อนเร้นและทรงพลัง
“ม่านควัน” แห่งความเงียบสงบภายนอกนั้น ปิดบังการเคลื่อนไหวภายในที่ราวกับเป็นการสับเปลี่ยนโครงสร้างรัฐ และในอีกระดับหนึ่ง เป็นการเตรียมการสำหรับ “การรีเซ็ตโลก” ทั้งในเชิงการเมือง การเงิน และความมั่นคง โดยมี โอดินโปรเจ็ค (ODIN Project) และ ระบบการเงินควอนตัม (Quantum Financial System: QFS) ทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญ
การปิดทำการ: ปรากฏการณ์การเมืองหรือยุทธศาสตร์เชิงลึก
โดยทั่วไป “การปิดทำการรัฐบาล” ในสหรัฐฯ หมายถึง การที่รัฐสภาไม่สามารถอนุมัติงบประมาณ ทำให้หน่วยงานราชการจำนวนมากต้องหยุดการดำเนินงาน ส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่และประชาชน แต่ในครั้งนี้ เหตุการณ์กลับถูกตีความในอีกมิติหนึ่ง—มิใช่เพียง “การขัดข้องของระบบรัฐสภา” แต่เป็น “ปฏิบัติการจัดฉาก” ที่ปกปิดภารกิจลับ
หลักฐานสำคัญที่สะท้อนความไม่ธรรมดาคือ การปิดใช้งานระบบดิจิทัลจำนวนมาก รวมถึงเซิร์ฟเวอร์หลักของกระทรวงสำคัญ การเคลื่อนย้ายเอกสารและฐานข้อมูลทางการเงินอย่างเป็นระบบ และการปิดกั้นการเข้าถึงอาคารราชการบางแห่งที่ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ สิ่งเหล่านี้มิใช่เพียงมาตรการประหยัดงบประมาณ แต่คือการสร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” สำหรับการสับเปลี่ยนระบบใหม่
โอดินโปรเจ็ค: เครือข่ายลับกับยุทธศาสตร์เหนือรัฐ
โอดินโปรเจ็ค (ODIN Project) เป็นชื่อที่ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในเอกสารทางการทหารและข่าวกรองมาตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 เดิมทีเป็นโครงการที่เกี่ยวพันกับการปฏิบัติการด้านการข่าว การสอดแนม และการปฏิบัติการพิเศษของกองทัพบกสหรัฐฯ โดยมีภารกิจหลักคือการรวบรวมข้อมูล ติดตามเป้าหมาย และปฏิบัติการในเชิงจิตวิทยา
แต่ในปี 2025 โอดินโปรเจ็คถูกตีความใหม่ในฐานะ “เครือข่ายลับ” ที่ผสานเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ากับกลยุทธ์ทางการเมืองระดับโลก โดยอาศัยความก้าวหน้าของ การสื่อสารผ่านดาวเทียม การประมวลผลควอนตัม และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้สามารถควบคุมการไหลของข้อมูล สอดส่องกิจกรรมของกลุ่มอำนาจเก่า และเตรียมการเปิดโปงการทุจริตในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
QFS: ระบบการเงินควอนตัมกับการล่มสลายของอำนาจเก่า
ในอีกด้านหนึ่ง เหตุการณ์นี้สัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับการเตรียมการเปิดใช้งาน Quantum Financial System (QFS) ซึ่งถือเป็นหัวใจของการรีเซ็ตโลกทางการเงิน
ระบบ QFS มีคุณสมบัติที่เหนือชั้นกว่าระบบการเงินดั้งเดิมหลายประการ ได้แก่:
- ความปลอดภัย: ธุรกรรมถูกเข้ารหัสด้วยการประมวลผลควอนตัมที่ไม่อาจถูกแทรกแซง
- ความโปร่งใส: ทุกการทำธุรกรรมถูกบันทึกแบบกระจายศูนย์ ลดโอกาสการทุจริต
- การรับประกันด้วยทองคำ: ทุกหน่วยค่าเงินมีหลักประกันจากทรัพย์สินจริง
- การลดอิทธิพลของธนาคารกลางเก่า: ธนาคารกลางซึ่งเคยผูกขาดอำนาจทางการเงินถูกบีบให้เปลี่ยนบทบาท
การโยกย้ายฐานข้อมูลทางการเงินจากกระทรวงการคลังและธนาคารกลางเข้าสู่ระบบ QFS ในช่วงการปิดทำการรัฐบาล จึงเป็นกระบวนการที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเงียบสงบ แต่มีความหมายเทียบเท่าการปฏิวัติในเชิงโครงสร้าง
ภาษีแบนและการสิ้นสุดของระบบเดิม
อีกหนึ่งสัญญาณสำคัญคือการเตรียมการยกเลิกระบบภาษีแบบซ่อนเร้นและซับซ้อน ที่เอื้อให้ชนชั้นนำสามารถบิดเบือนผลประโยชน์ ระบบภาษีใหม่นี้ถูกเรียกว่า “ภาษีแบน” (Flat Tax) ซึ่งมีหลักการความโปร่งใสและความเท่าเทียม—ทุกคนจ่ายภาษีในอัตราที่ชัดเจน ไม่เปิดช่องให้การเลี่ยงภาษีหรือการใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย
ในเชิงสัญลักษณ์ การปิดหน่วยงานด้านภาษีในช่วงการปิดทำการรัฐบาล คือการสิ้นสุดของ “ระบอบการเงินแบบศตวรรษที่ 20” และการเปิดฉากของระบบการเงินที่โปร่งใสและยุติธรรมกว่า
EBS และการสื่อสารยุทธศาสตร์
การสื่อสารก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญ การโยกย้ายระบบสื่อสารไปยังช่องทางทหาร และการเตรียมเปิดใช้งาน Emergency Broadcast System (EBS) บ่งชี้ว่าการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้มิได้เป็นเพียง “การจัดการเทคโนโลยี” แต่คือการสร้างพื้นที่ให้ประชาชนได้รับรู้ความจริงโดยตรง
รายงานหลายฉบับชี้ว่า EBS จะถูกใช้ในการประกาศ “ความจริงทางการเมืองและการเงิน” ที่ปกปิดมานาน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโปงการทุจริตของผู้นำระดับสูง การเผยแพร่ข้อมูลลับของรัฐบาลเงา หรือการประกาศระบบการเงินใหม่ต่อสาธารณะ
การรีเซ็ตโลก: ยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ
คำว่า “การรีเซ็ตโลก” มิได้จำกัดเพียงมิติของสหรัฐอเมริกา หากแต่เป็นการเคลื่อนไหวที่สอดประสานกับหลายภูมิภาคทั่วโลก กลุ่มประเทศ BRICS ที่ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ได้ประกาศความร่วมมือในการสร้างระบบการชำระเงินที่ไม่ขึ้นกับ SWIFT ซึ่งเป็นการลดบทบาทของดอลลาร์สหรัฐ
ในมุมนี้ การปิดทำการรัฐบาลสหรัฐฯ ในปี 2025 จึงสอดคล้องกับแนวโน้มระดับโลกที่กำลังผลักดันสู่ยุคใหม่ของการเงินที่หลากหลาย ศูนย์กลางอำนาจทางการเงินไม่ได้ผูกติดกับมหานครนิวยอร์กหรือกรุงลอนดอนอีกต่อไป แต่กระจายตัวไปยังภูมิภาคต่าง ๆ อย่างเสมอภาคมากขึ้น
ผลกระทบต่อความมั่นคงโลก
หากพิจารณาในมิติด้านความมั่นคง การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังส่งผลโดยตรงต่อโครงสร้างอำนาจโลก สหรัฐอเมริกาที่เคยถูกวิจารณ์ว่าเป็น “จักรวรรดิทางการเงิน” กำลังลดบทบาทจากการผูกขาด และเปิดทางให้โลกหลายขั้ว (Multipolar World) ได้ปรากฏอย่างจริงจัง
การใช้เทคโนโลยีควอนตัมและ AI ในการเฝ้าระวังการทุจริต รวมถึงการสร้างระบบยุติธรรมพิเศษเพื่อดำเนินคดีต่อผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันระดับโลก คือสัญญาณชัดเจนว่าโครงสร้างความมั่นคงมิได้อิงกับกองกำลังทหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึง “ความมั่นคงทางข้อมูลและการเงิน”
บทสรุป: รุ่งอรุณของระเบียบโลกใหม่
เหตุการณ์ “รัฐบาลปิดทำการ” ที่สหรัฐอเมริกาในปี 2025 จึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยหรือเพียงเกมการเมือง หากแต่คือ จุดเปลี่ยนเชิงประวัติศาสตร์ ที่สะท้อนถึงการสิ้นสุดของระบบเก่าและการเริ่มต้นของระเบียบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีควอนตัม ความโปร่งใสทางการเงิน และความเป็นธรรมในระดับสากล
โอดินโปรเจ็คคือ “เงามืดของการปฏิบัติการ” ที่ทำหน้าที่รื้อโครงสร้างเก่า
QFS คือ “แสงสว่างแห่งการเงินใหม่” ที่ทำหน้าที่สร้างโลกที่โปร่งใสและมั่นคงกว่าเดิม
และการปิดทำการรัฐบาล คือ “ม่านควัน” ที่ปกปิดกระบวนการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
แหล่งอ้างอิง
- Plisio.net, ระบบการเงินควอนตัม: การเปลี่ยนแปลงทางการเงินหรือการโต้เถียง, 2025.
- AzoQuantum.com, Quantum Financial System: สิ่งที่ควรรู้, 2025.
- Task Force ODIN, Wikipedia, 2008.
- Quantum Financial System และการรีเซ็ตโลก: หลักฐานและแนวโน้ม, 2025.
โดย: ฟอนต์ สีดำ