Think In Truth
ตุลาคมสีเลือด: การฟื้นคืนอธิปไตยของ สาธารณรัฐอเมริกา โดย: ฟอนต์ สีดำ

ความเงียบงันก่อนพายุ
เที่ยงคืนของวันอังคารที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2025 โลกเฝ้ามองสหรัฐอเมริกาด้วยความงุนงง ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพและประชาธิปไตย กลับสั่ง “ปิดทำการ” รัฐบาลกลางลงอย่างเป็นทางการ ภายใต้คำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ เหตุการณ์นี้มิใช่เพียงการหยุดงานของข้าราชการ หรือความล้มเหลวทางการเมืองแบบที่โลกเคยเห็นในอดีต หากแต่คือการเริ่มต้นของสิ่งที่ทรัมป์และพันธมิตรเรียกว่า “ยุทธการตุลาคมสีเลือด” (Red October Operation) ปฏิบัติการลับที่มุ่งสั่นคลอนโครงสร้างอำนาจเงาของโลก
เวลา 00:00 น. สำนักงานบริหารและงบประมาณแห่งทำเนียบขาวได้ออกคำสั่งปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางทุกแห่ง พนักงานจำนวนมหาศาลถูกพักงานอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่การสื่อสารภายในของรัฐบาลถูกปิดผนึกโดยระบบฉุกเฉิน ทุกสายโทรศัพท์ถูกเปลี่ยนเป็นโหมด “การกระจายเสียงแห่งชาติ” (Emergency Broadcast System) ราวกับมีบางสิ่งใหญ่หลวงกำลังจะถูกเปิดเผยแก่ประชาชน
และเมื่อเวลาเดินต่อไปสู่ยามรุ่งของวันที่ 1 ตุลาคม 2025 — โลกก็เริ่มรับรู้ว่า การ “ปิดทำการ” ครั้งนี้ไม่ใช่การล่มสลายของรัฐบาล หากแต่เป็นการฟื้นคืนของ “สาธารณรัฐอเมริกา” ที่แท้จริง
ปฏิบัติการในเงามืด
ทรัมป์และทีมใกล้ชิดของเขาไม่ได้มองการปิดทำการครั้งนี้เป็นความวุ่นวาย หากแต่เป็น “ฉากบังตา” สำหรับการปฏิบัติการทางทหารเชิงยุทธศาสตร์ที่เตรียมการมายาวนาน
เวลา 01:00 น. ของวันพุธที่ 1 ตุลาคม “สาธารณรัฐแห่งสหรัฐอเมริกา” (Restored Republic of the United States of America) ถูกประกาศให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ สัญลักษณ์ทางกฎหมายและเอกสารรัฐธรรมนูญฉบับดั้งเดิมถูกนำกลับมาใช้ใหม่ โดยกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิและทีมทหารพิเศษ (Homeland Guardians) ได้เข้าควบคุมกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อย่างเงียบเชียบ
พรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสซึ่งยังไม่ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลง ได้ลงมติ “ปิดทำการรัฐบาล” อย่างเป็นทางการในบ่ายวันเดียวกัน โดยเชื่อว่าเป็นการตอบโต้เชิงการเมือง แต่หารู้ไม่ว่า ในขณะนั้น รัฐบาลใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วภายใต้ร่มธงของสาธารณรัฐ
วุฒิสมาชิกจอห์น เคนเนดี (John Kennedy) ได้กล่าวในสภาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “นี่ไม่ใช่เพียงความผิดพลาด แต่เป็นการตัดสินใจที่โง่เขลา ซึ่งอาจกลายเป็นการทำลายประเทศนี้อย่างถาวร เราไม่เพียงกำลังปิดรัฐบาล — เรากำลังเปิดประตูให้คอมมิวนิสต์ฝ่ายซ้ายเข้ามาแทนที่เสรีภาพของเรา”
ตุลาคมสีเลือด – ยุทธการกวาดล้างเงามืด
เบื้องหลังฉากการเมืองที่ดูสับสน ปฏิบัติการขนาดใหญ่กำลังดำเนินไปอย่างเป็นระบบภายใต้ชื่อรหัส “ตุลาคมสีเลือด” (Red October) จุดมุ่งหมายคือการทวงคืนทรัพย์สินของชาติ ทำลายเครือข่ายคอร์รัปชัน และโค่นล้มอำนาจของกลุ่มลับที่ทรัมป์เรียกว่า “ดีพสเตต” (Deep State)
เมืองหลวงถูกปิดล้อมโดยหน่วยพิทักษ์มาตุภูมิพร้อมรั้วล้อมรอบหลายชั้น ทีมกฎหมายทหาร (JAG) กว่า 600 นายถูกส่งเข้ามาประจำการภายในพื้นที่ของศาลทหารชั่วคราว เพื่อเตรียมการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงจำนวนมาก หลักฐานการคอร์รัปชัน การยักยอก และการค้ามนุษย์ระดับโลกถูกรวบรวมภายใต้คำสั่งปฏิบัติการทางกฎหมาย
บันทึกคำสั่งของทรัมป์ได้ “แช่แข็ง” เครือข่ายทางการเงินของกลุ่มลับที่ใช้ความรุนแรง และลดปริมาณเงินหมุนเวียนของพวกเขาให้เหลือศูนย์ ห่วงโซ่อุปทานทางเศรษฐกิจของ Deep State ถูกตัดขาดอย่างเป็นขั้นตอนจากธนาคารกลางเอกชนไปจนถึงบริษัทเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกับระบบข่าวกรอง
ทรัมป์ไม่ได้ต่อสู้ด้วยอาวุธเพียงอย่างเดียว แต่ใช้ “การเงิน” เป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุด
การเปลี่ยนผ่านจาก SWIFT สู่ QFS
เมื่อระบบการเงินแบบเก่าที่อิงกับเงินเฟียต (Fiat Dollar) ถูกผลักให้เข้าสู่ภาวะล่มสลาย ทรัมป์ได้เปิดใช้งาน Quantum Financial System (QFS) ระบบการเงินควอนตัมที่มีทองคำและสินทรัพย์จริงเป็นหลักประกัน
ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง กว่า 91% ของระเบียงการเงินภายใต้เครือข่าย SWIFT ถูกติดตามโดยระบบควอนตัม ทำให้ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ค้าทาส และค้ามนุษย์ ถูกแช่แข็งโดยอัตโนมัติ ทรัพย์สินผิดกฎหมายมูลค่ากว่า 112 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ถูกยึดไว้โดยหน่วยปฏิบัติการร่วมระหว่างกองทัพและกระทรวงการคลัง
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ถูกเชื่อมโยงกับการเคลื่อนย้ายทองคำที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และบริษัทเชลล์ในโครงการ ESG ปลอมแปลง หลายสถาบันถูกปิดผนึก บางแห่งมีการเข้าควบคุมโดยทหาร
ในระดับนโยบาย ทรัมป์ประกาศการเลิกใช้ระบบภาษีแบบเดิมของกรมสรรพากร (IRS) และแทนที่ด้วยภาษีคงที่ 14% สำหรับสินค้าผลิตใหม่ โดยยกเลิกการเก็บภาษีรายได้บุคคลอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการรื้อถอน “เครื่องจักรเก็บภาษีของจักรวรรดิ” ที่สืบทอดมาจากระบบอาณานิคมการเงินของอังกฤษ
สาธารณรัฐใหม่กับการคืนอำนาจอธิปไตย
ในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 ทรัมป์ได้ลงนามในเอกสารสำคัญชื่อว่า “คำประกาศอำนาจและการเรียกตัว” (Declaration of Authority and Reclamation) ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์
เอกสารดังกล่าวประกาศให้สหรัฐอเมริกา “แยกตัวออกจากกฎหมายการเดินเรือของอังกฤษ” ที่ใช้ควบคุมประเทศมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และนำประเทศกลับสู่การปกครองตามรัฐธรรมนูญฉบับดั้งเดิมภายใต้หลักกฎหมายจารีตประเพณี (Common Law Codex)
มาตรา II แห่งประมวลกฎหมายทหาร (UCMJ) ถูกใช้เป็นฐานในการประกาศคืนอำนาจอธิปไตยอย่างเงียบ ๆ ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดกล้าปฏิเสธ เพราะการกระทำดังกล่าวได้รับการรับรองโดยศาลทหารสูงสุดและผู้พิพากษาอาวุโส
ภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ สหรัฐฯ มิได้เป็น “บริษัท” อีกต่อไป แต่กลับมาเป็น “สาธารณรัฐ” ที่แท้จริง
พันธมิตรสองขั้ว-ทรัมป์และปูติน
ในขณะเดียวกันอีกซีกโลกหนึ่ง วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนถึงสิ่งที่เขาเรียกว่า “อำนาจไซออนิสต์ซาตาน” ที่คอยบงการเบื้องหลังรัฐบาลตะวันตกมายาวนาน
ปูตินกล่าวว่า กลุ่มนี้คือเครือข่ายของชนชั้นสูงทางการเงินที่ควบคุมทั้งวอชิงตัน ลอนดอน และบรัสเซลส์ ผ่านพิธีกรรมสัญลักษณ์ ความรุนแรง และสงครามเพื่อผลประโยชน์ของพวกตน
ในรัสเซีย เจ้าหน้าที่ของตระกูลรอธส์ไชลด์ถูกขับออกนอกประเทศ ธนาคารกลางรัสเซียถูกยึดอำนาจคืนโดยรัฐ องค์กรพัฒนาเอกชนที่ได้รับทุนจากจอร์จ โซรอส และบิล เกตส์ ถูกสั่งห้ามดำเนินการทั้งหมด
การเคลื่อนไหวนี้ส่งผลสะเทือนถึงแก่นของโลกาภิวัตน์ (Globalism) และทำให้ห้องประชุมของสภาเศรษฐกิจโลก (WEF) ในดาวอสต้องสั่นคลอน เพราะเป็นครั้งแรกที่มหาอำนาจสองขั้ว — สหรัฐฯ ภายใต้ทรัมป์ และรัสเซียภายใต้ปูติน — ดูเหมือนจะก้าวเข้าสู่แนวร่วมเดียวกันในภารกิจ “ฟื้นฟูมนุษยชาติ”
เครือข่ายค้ามนุษย์และศึกเงาแห่งศตวรรษ
หนึ่งในหัวใจของปฏิบัติการตุลาคมสีเลือดคือ “การรื้อถอนเครือข่ายค้ามนุษย์ระดับโลก” ที่ฝังรากอยู่ในระบบการเงินและสถาบันศาสนา
ทรัมป์และปูตินได้ให้คำมั่นสัญญาร่วมกันตั้งแต่ปี 2020 ว่าจะเปิดโปงและล้มล้างเครือข่ายนี้ ซึ่งได้รับทุนจากหน่วยข่าวกรอง CIA จัดตั้งโดยวาติกัน และบริหารโดยสายราชวงศ์อังกฤษ
เมื่อเวลา 20:10 น. ของวันที่ 1 ตุลาคม 2025 สำนักข่าว Russian News รายงานว่า เครื่องบินของรัฐบาลรัสเซียลำหนึ่งได้ออกเดินทางจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมุ่งหน้าสู่นิวยอร์ก โดยบรรทุกเอกสารและหลักฐานสำคัญจำนวนมาก ข้อตกลงลับระหว่างสองผู้นำกำลังดำเนินอยู่ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและนำตัวผู้ต้องสงสัยระดับโลกเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ
ในเวลาเดียวกัน ค่ายกักกันกวนตานาโม (GITMO) ในคิวบาเริ่มกลับมาดำเนินการเต็มกำลังอีกครั้ง ศาลทหารชั่วคราวจำนวนมากเปิดขึ้นเพื่อพิจารณาคดีอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
ความเงียบของสื่อและสงครามจิตวิทยา
แม้เหตุการณ์ระดับโลกกำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สื่อกระแสหลักกลับนิ่งเงียบอย่างน่าสงสัย การปิดกั้นข่าวสารในครั้งนี้มิใช่ความบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของ “ปฏิบัติการทางจิตวิทยา” ที่ออกแบบเพื่อควบคุมการรับรู้ของสาธารณชน
ในขณะที่เครือข่ายโทรทัศน์ทั่วโลกถูกบังคับให้รายงานข่าวเพียงบางส่วน โทรศัพท์มือถือของชาวอเมริกันหลายล้านเครื่องกลับถูกปรับเข้าสู่ “ระบบกระจายเสียงฉุกเฉิน”(EBS) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่สารโดยตรงจากรัฐบาลใหม่ ข้อความที่ส่งออกไปไม่ใช่คำเตือน แต่คือ “การปลุกให้ตื่น” สู่ความจริงที่ถูกปิดบังมานานหลายทศวรรษ
โลกหลังการตื่น
หลังจากการปิดทำการและการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบการเงินควอนตัม โลกทั้งโลกต่างจับตาอย่างระมัดระวัง เศรษฐกิจโลกเริ่มเข้าสู่ภาวะ “รีเซ็ต” อย่างเป็นรูปธรรม สถาบันการเงินในยุโรปและเอเชียบางแห่งเริ่มทดสอบการเชื่อมต่อกับระบบ QFS ที่ควบคุมโดยสหรัฐฯ และรัสเซียร่วมกัน
ในโลกใหม่ที่เงินทุกหน่วยสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทันที การคอร์รัปชันจะกลายเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ รัฐบาลจะถูกบังคับให้โปร่งใสโดยระบบ ไม่ใช่เพียงโดยคำสัญญา
ภายใต้สาธารณรัฐใหม่ของทรัมป์ อเมริกาได้เปลี่ยนจากประเทศที่ถูกบงการโดยเครือข่ายธนาคารโลก กลายเป็นประเทศที่มีอธิปไตยทางการเงินอย่างแท้จริง
บทสรุป: ปิดเพื่อเปิด-สู่รุ่งอรุณแห่งสาธารณรัฐ
การ “ปิดทำการ” เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2025 อาจดูเหมือนความโกลาหลในสายตาของผู้คน แต่ในเชิงลึก มันคือการ “เปิดฉากใหม่” ของประวัติศาสตร์อเมริกา
จากรัฐบาลที่ดำเนินการในนามบริษัทภายใต้กฎหมายการเดินเรืออังกฤษ สู่สาธารณรัฐที่ยืนหยัดบนอธิปไตยของประชาชน จากระบบเงินเฟียต(FIAT) ที่ไร้มูลค่า สู่ระบบการเงินควอนตัม(QFS) ที่โปร่งใสและยุติธรรม
ตุลาคมสีเลือดไม่ได้เป็นเพียงปฏิบัติการทางการเมือง หากแต่เป็น “การฟื้นคืนวิญญาณของชาติ” — การยืนยันว่าประชาชนคือเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง
และเมื่อฝุ่นควันแห่งความสับสนค่อย ๆ จางลง โลกทั้งใบจะต้องหันกลับมาทบทวนว่า “อำนาจที่แท้จริง” นั้น มิได้อยู่ในมือของผู้ปกครอง หากแต่อยู่ในมือของผู้ที่กล้าจะยืนหยัดเพื่อความจริง
แหล่งอ้างอิง (References)
- Redemption News. Red October and the U.S. Government Shutdown of 2025. September–October 2025.
- Strategic Watch Journal. Quantum Finance and Sovereignty Transitions. Vol. 12, Issue 9 (2025).
- Eurasia Focus Weekly. Putin’s Financial Counteroffensive Against the Globalist Bloc. October 2025.
- U.S. Military Tribunal Records (Unclassified Brief). Department of Defense, 2025.
- Global Monetary Transition Reports. IMF–BIS Liaison Review, October 2025.
*หมายเหตุ โดยติดตามรายละเอียดในประเด็นต่างๆ เพิ่มเติมในการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ที่ https://www.facebook.com/krujoon.