Authority & Harm
ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบถือครองที่ดินนอมินี 'บนเกาะพะงัน-เกาะสมุย'เดินหน้า4ด้าน

กรุงเทพฯ-ผบ.ตร. สั่งตรวจสอบการถือครองที่ดินแทนต่างชาติบนเกาะพะงัน-เกาะสมุย ดำเนินการ 4 ด้านเข้มงวด จัดการนอมินี
วันนี้ (10 ตุลาคม 2568) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีมีข้อสังเกตถึงการถือครองที่ดินแทนชาวต่างชาติบนเกาะพะงัน และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อกรณีการใช้บุคคลสัญชาติไทยถือครองที่ดินแทนชาวต่างชาติ หรือ นอมินี ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายและอาจกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง บูรณาการการทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กรมที่ดิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยงานด้านความมั่นคง ตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างละเอียด
จากข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกลุ่มชาวอิสราเอลในพื้นที่เกาะสมุย และเกาะพะงัน มีข้อมูลการจับกุมดำเนินคดีผู้ทำผิดในข้อหาต่างๆ หลายข้อหา อาทิ ประกอบธุรกิจรถเช่า ทำงานนอกเหนือสิทธิที่จะทำได้ ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบธุรกิจมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต ฯลฯ
โฆษก ตร. กล่าวว่า การปราบปรามชาวต่างชาติที่เข้ามาทำผิดกฎหมายก่ออาชญากรรมสร้างความเสียหายให้คนไทยในประเทศไทย เป็นนโยบายที่ ผบ.ตร.ให้ความสำคัญ โดยกรณีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการ 4 ด้าน ได้แก่
1. ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจร่วมในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบการถือครองที่ดินโดยนิติบุคคลต่างด้าวและการดำเนินธุรกิจที่อาจเข้าข่ายหลีกเลี่ยงกฎหมาย
2. ตรวจสอบเส้นทางการเงินและเอกสารประกอบธุรกิจ เพื่อพิสูจน์การถือหุ้นที่แท้จริงของบริษัทที่มีชาวต่างชาติเป็นผู้ลงทุน
3. เข้มงวดการอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับกระทรวงแรงงาน เพื่อป้องกันการประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย
4. ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อทั้งผู้กระทำผิดและผู้ให้การสนับสนุน รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจเกี่ยวข้อง
พล.ต.ท.ยิ่งยศฯ ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอให้ประชาชนมั่นใจว่า จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส และเท่าเทียม เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของประเทศชาติ