EDU Research & Innovation

สวทช.ชูTBRCและNBTกลไกขับเคลื่อน อนุรักษ์ฟื้นฟู'ผาแดง'ในงานIBD2025



กรุงเทพฯ-(22 ตุลาคม 2568) ณ อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และพันธมิตร โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา และมูลนิธิสวนหลวง ร.9 เข้าร่วมจัดงานแถลงข่าวการจัดประชุมวิชาการนานาชาติด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (International Conference on Biodiversity หรือ IBD2025) ภายใต้หัวข้อBiodiversity and Humanity in Global Crisis” หรือ “ความหลากหลายทางชีวภาพกับมนุษยชาติ         

ในยุควิกฤตโลก” ระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา ในปี พ.ศ.2568 และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างประชาคมนักวิจัยของไทยและต่างประเทศ ด้านความหลากหลายทางชีวภาพในมิติต่าง ๆ ทั้งงานวิจัยและวิชาการ การอนุรักษ์ การป้องกันการฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพ ตลอดจนเพื่อหาแนวทางความร่วมมือในระดับสากล โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จ ฯ เป็นประธานพิธีเปิดและบรรยายพิเศษ โอกาสนี้คณะผู้จัดงานได้จัดทำวีดิทัศน์เฉลิมพระเกียรติชุด “เจ้าฟ้านักความหลากหลายทางชีวภาพ” ถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคุณในการ อนุรักษ์ ฟื้นฟู ตลอดจนองค์ความรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและให้แนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม

ศาสตราจารย์ ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานคณะกรรมการจัดประชุม IBD  2025 กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่รวมผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย นิสิตนักศึกษา และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพและแนวทางการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน IBD2025 ยังสะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างประเทศและพันธกิจของประเทศไทยในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศให้สมดุลกับความต้องการของมนุษยชาติ

“เราไม่เพียงแต่แลกเปลี่ยนงานวิจัย แต่ยังรวมถึงแนวทางปฏิบัติ การจัดทำฐานข้อมูล และเทคโนโลยีการติดตามความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สามารถใช้ได้จริงในชุมชนและระดับนโยบาย”

ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวเน้นการมีส่วนร่วมและความร่วมมือระหว่าง มก. กับ วช. และหน่วยงานเครือข่ายระดับชาติและนานาชาติ โดย มก. มุ่งนำองค์ความรู้ งานวิจัย และการเรียนการสอนด้านความหลากหลายทางชีวภาพมาผนึกกำลังกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในทุกมิติ ทั้งระดับชาติและนานาชาติ พร้อมกล่าวถึงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งมก.ร่วมกับวช.จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด“ มรรคาแห่งความสมดุล : วัฏจักรความหลากหลายทางชีวภาพกับการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน”

“คำว่า “มรรคา” หมายถึง หนทางแห่งความสมดุล ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ที่เกื้อกูลและพึ่งพาอาศัยกัน นิทรรศการถูกออกแบบให้เป็น “เส้นทางการเรียนรู้” ที่ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสและทำความเข้าใจระบบนิเวศ ตั้งแต่ ท้องทะเล ป่าชายเลน ป่าไม้ การทำงานของนักวิจัยภาคสนามสู่ห้องปฏิบัติการ และจบที่พรรณไม้ในวังสระปทุม ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุกรรมพืชในเมืองที่ทรงคุณค่า แสดงถึงพระอัจฉริยภาพและพระวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ในการส่งเสริมองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน”

ด้าน นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเป็นจุดเด่นของประเทศไทย โดยสนับสนุนทุนวิจัยทั้งด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงระดับนโยบาย เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์  ผลงานวิจัยที่นำมาจัดแสดง ได้แก่ ธนาคารเซลล์สัตว์ ปลิงทะเลสกุลใหม่ของโลก เห็ดเผาะสิรินธร ระบบนิเวศหญ้าทะเล และระบบนิเวศกองหินใต้น้ำ ซึ่งสะท้อนถึงการวิจัยที่ต่อเนื่องและสร้างผลกระทบเชิงปฏิบัติได้จริง

ทั้งนี้ ไบโอเทค สวทช. โดย ศูนย์ชีววัสดุประเทศไทย หรือ TBRC ซึ่งเป็นคลังทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ และธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ (NBT) เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่สนับสนุนการอนุรักษ์และจัดเก็บตัวอย่างชีวภาพระยะยาว ร่วมนำผลงานวิจัยมาจัดแสดงตามแนวคิด BCG (Bio-Circular-Green Economy) เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์ทรัพยากรชีวภาพอย่างยั่งยืนในพื้นที่ผาแดง จังหวัดตาก ผ่านการเชื่อมโยงฐานข้อมูลมาตรฐานนวัตกรรมและการใช้ประโยชน์ พร้อมทั้งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการเก็บรักษาเชื้อจุลินทรีย์ศักยภาพและจัดทำคลังอนุรักษ์ความหลากหลายของเชื้อรา (Fungarium) เพื่อเป็นมาตรฐานอ้างอิงอนุกรมวิธาน สำหรับการใช้ประโยชน์ทรัพยากรชีวภาพให้มีความถูกต้องและปลอดภัย โดยผลงานวิจัยที่นำมาจัดแสดงในงานแถลงข่าวเป็นผลงานที่สามารถนำไปต่อยอดใช้งานได้จริง ได้แก่

กาแฟหมักยีสต์ จากสายพันธุ์ท้องถิ่นเพิ่มมิติกลิ่นรสและอัตลักษณ์พื้นที่น้ำส้มสายชูจากเปลือกเชอรี่กาแฟ อัปไซเคิลวัสดุเหลือทิ้งสู่ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยตามมาตรฐาน เม็ดปลูกพืช (Seed balls) ผสมจุลินทรีย์เพื่อเร่งการงอก เพื่อกระตุ้นการงอกและส่งเสริมการเจริญเติบโต พัฒนาโดยชุมชนเพื่อการฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างยั่งยืน มะเขือเทศเชอรี่แบบอินทรีย์ต้านทานโรคในโรงเรือนไผ่ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มรายได้เกษตรกร และยังมีผลงานวิจัยเชิงลึกควบคู่กับงานวิจัยพื้นที่ผาแดง เช่น การจัดทำคลังข้อมูลเห็ดป่าจำแนกได้ 59 ชนิด/47 สกุล (พบ Termitomyces ใหม่ ≥3 ชนิด; การเพาะเลี้ยง Schizophyllum commune และ Pleurotus pulmonarius สำเร็จ) และ ราทำลายแมลง 30 ชนิด (รายงาน Ophiocordyceps muscae ชนิดใหม่) รวมถึงการต่อยอดสู่ อิฐชีวภาพ (Bio-bricks) จากกากกาแฟ/ชานอ้อย สำหรับโครงสร้างเบา ชีวภัณฑ์กาแฟ (Trichoderma TBRC 4734) สามารถช่วยลดโรคและแมลงได้เด่นชัด และเทคโนโลยีเห็ดป่าคู่ไม้ยาง (หัวเชื้อ Astraeus/Amanita สร้างเอคโตไมคอร์ไรซา) พร้อมการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชนและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง

สำหรับงานประชุมวิชาการนานาชาติด้านความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ IBD2025 ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากประกอบด้วย การประชุม สัมมนา (International Oral and Poster) การบรรยายจากวิทยากรทั้งในและต่างประเทศ Panel discussion: การบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพกับการก้าวข้ามยุควิกฤตโลก การนำเสนอผลงานภาคบรรยายจำนวน 22 เรื่อง และภาคโปสเตอร์ จำนวน 190 เรื่อง รวมทั้งสิ้น 212  เรื่อง โดยนักวิจัยนักวิชาการ นิสิตนักศึกษา และนักเรียน จาก 14 ประเทศ ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เลบานอน นิวซีแลนด์ ศรีลังกา ไต้หวัน เวียดนาม ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอเมริกา

จึงขอเชิญชวนประชาชนและผู้สนใจร่วมการประชุม IBD 2025 ชมผลงานวิจัยแบบปากเปล่าและโปสเตอร์ และนิทรรศการด้านความหลากหลายทางชีวภาพจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรวม 28 เรื่อง เพื่อร่วมสร้างความตระหนักรู้และความร่วมมือในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน ณ ห้องบอลลูม 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.30 – 17.00 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 เวลา 9.00 - 17.00 น. และผู้สนใจสามารถทัศนศึกษา วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ณ สวนหลวง ร.9 และศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศป่าของ ปตท. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้เรียนรู้และสัมผัสระบบนิเวศจริง