In Global
การพัฒนาหมู่บ้านชนบทจีนสู่หมู่บ้าน ท่องเที่ยวต้นแบบของโลก

องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Tourism) ประกาศรายชื่อ “หมู่บ้านท่องเที่ยวต้นแบบแห่งปี 2025” เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยปีนี้มีหมู่บ้าน 52 แห่ง จาก 29 ประเทศทั่วโลก ได้รับเลือกให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวต้นแบบด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ในจำนวนนี้ มีหมู่บ้านของประเทศจีนถึง 4 แห่ง ที่ได้รับเลือก ได้แก่ หมู่บ้านตี้กัง (Digang) มณฑลเจ้อเจียง หมู่บ้านจีข่ายอี้ (Jikayi) เขตปกครองตนเองทิเบตกานจือ มณฑลเสฉวน หมู่บ้านตงลั่ว (Dongluo) เมืองไถโจว มณฑลเจียงซู และหมู่บ้านหวงกั่ง (Huanggang) เขตปกครองตนเองชนชาติเหมียวและต้ง เฉียนตงหนาน มณฑลกุ้ยโจว
เมื่อรวมกับหมู่บ้านที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวต้นแบบก่อนหน้านี้ ทำให้จีนมีหมู่บ้านต้นแบบ ที่ได้รับการคัดเลือกจาก UN Tourism แล้วถึง 19 แห่ง แสดงถึงบทบาทสำคัญของจีนในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวชนบท ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น ควบคู่กับการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม
หมู่บ้านตี้กัง เมืองหูโจว มณฑลเจ้อเจียง เป็นหนึ่งในชุมชนโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของจีน มีอายุราว 2,500 ปี ยังคงรักษาภูมิทัศน์เกษตรกรรมแบบดั้งเดิมด้วยระบบ “หม่อน–ปลา–ไหม” ไว้อย่างดี สำนักข่าว Xinhua ระบุว่า หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงใช้รูปแบบการผลิตผ้าไหมและเลี้ยงปลาในคูน้ำเหมือนเมื่อหลายศตวรรษก่อน ปัจจุบันที่นี่เป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตชนบทที่แท้จริง
หมู่บ้าน จีข่ายอี้ ตั้งอยู่บนที่ราบสูงในเขตปกครองตนเองทิเบตกานจือ มณฑลเสฉวน เป็นที่รวมของกลุ่มชาติพันธุ์ ทั้งทิเบต (Tibetan) เฉียง (Qiang) และ อี้ (Yi) ที่ร่วมสืบสานประเพณีและภาษาเฉพาะกลุ่ม จีข่ายอี้จึงได้รับการยกย่องในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และ มรดกวัฒนธรรมพหุชาติพันธุ์ หมู่บ้านแห่งนี้เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาศึกษาวัฒนธรรมการทอผ้า การฟ้อนรำ และพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละกลุ่ม โดยยังคงรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเข้มแข็ง
หมู่บ้านตงลั่ว เมืองไถโจว มณฑลเจียงซู ตั้งอยู่ในเขตแกนกลางของระบบเกษตรกรรม “ชิงฮว่าตั๊วเถียน : Xinghua Duotian Agrosystem” ที่มีการใช้พื้นที่น้ำและดินแบบผสมผสาน ซึ่งองค์การเกษตรและชลประทานโลกขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกโลกด้านระบบชลประทาน” ภาพที่โดดเด่นของตงลั่วคือ “ผืนนาน้ำ” ที่ยกคันดินขึ้นระหว่างแม่น้ำและทะเลสาบ ปลูกพืชหมุนเวียนตลอดปี นอกจากนี้ ยังมีการรักษาผังหมู่บ้านและสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมสมัยราชวงศ์หมิง เป็นตัวอย่างของการใช้ภูมิปัญญาเกษตรกรรมร่วมกับการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้อย่างดี
หมู่บ้านหวงกั่ง มณฑลกุ้ยโจว มีป่าธรรมชาติปกคลุมพื้นที่กว่า 85% เป็นหมู่บ้านของกลุ่มชาติพันธุ์ต้ง ที่มีประวัติความเป็นมากว่า 800 ปี โดยชาวบ้านช่วยกันรักษาสมดุลระบบนิเวศอย่างเข้มแข็ง หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีอัตลักษณ์ที่บ้านไม้เก่าแก่ หอระฆัง และหอกลองกลางหมู่บ้าน ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของหวงกั่ง คือ ระบบเกษตรกรรมแบบข้าว ปลา เป็ด (Rice–Fish–Duck Symbiotic System) ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สร้างสมดุลระหว่างการเลี้ยงสัตว์และเพาะปลูกในพื้นที่จำกัด ได้รับการยกย่องว่าเป็น “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติของการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับสิ่งแวดล้อม” และเป็นต้นแบบการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติระบุว่า หมู่บ้านทั้ง 4 แห่งนี้ เป็นหมู่บ้านต้นแบบในการพัฒนาการท่องเที่ยวในชนบทที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยจีนยังส่งเสริมการท่องเที่ยวชนบทเป็น “กลไกคู่ขนาน” ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก พร้อมกับอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นและระบบนิเวศ เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย
ภาพ : Xinhua