Automotive info
'สแกนเนีย'ค้นหาสุดยอดช่างไทยจัดแข่ง Scania Top Team Thailand2025
กรุงเทพฯ-สแกนเนีย เผยหัวใจบริการหลังการขายระดับโลกพัฒนาทักษะทีมช่าง มาตรฐานเดียวกับบริษัทแม่จากสวีเดน พร้อมล่าสุดจัดการแข่งขัน Scania Top Team Thailand 2025 ค้นหาสุดยอดทีมช่างไทยสู้ศึกการแข่งขันเวทีนานาชาติ
นายภูริวัทน์ รักอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงการส่งเสริมพัฒนาความรู้และทักษะฝีมือช่าง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการบริการหลังการขาย และการจัดการแข่งขัน Scania Top Team 2025 เพื่อค้นหาสุดยอดทีมช่างเพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในเวทีระดับโลกว่า สแกนเนีย มีการคิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อนำมาพัฒนาใช้กับรถสแกนเนีย จนได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์รถขนส่งเพื่อการพาณิชย์คุณภาพสูงลำดับแนวหน้าของโลก ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า ประหยัด ปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบและตัวรถน้อย มีความปลอดภัยสูง ช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเมื่อถึงรอบของการบำรุงรักษาหรือเกิดปัญหาที่ต้องซ่อมแซม ส่วนบริการหลังการขายของ สแกนเนีย ก็มีทีมช่างและวิศวกรด้านเทคนิคที่มีความพร้อมทั้งความรู้และประสบการณ์ที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ทำให้ไม่เสียเวลา วางแผนการซ่อมบำรุงได้อย่างแม่นยำ

ดังนั้นความรู้ความสามารถของทีมช่างสแกนเนีย จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการฝึกอบรม เรียนรู้เรื่องนวัตกรรมเทคโนโลยี ทักษะในการวิเคราะห์ปัญหา การดูแลรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ตลอดเวลา โดยบริษัทแม่ที่สวีเดนได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก โปรแกรมการฝึกอบรมช่างดังกล่าวเรียกว่า สแกนเนีย กริฟฟิน ซึ่งมีด้วยกัน 3 ระดับ โดยผู้เข้าอบรมจะต้องผ่านการฝึกทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติและการทดสอบก่อนจะได้รับการรับรองว่าผ่านการอบรมในระดับต่างๆ ส่วนความรู้ในการอบรมมีตั้งแต่ความรู้พื้นฐานในการซ่อมบำรุง การใช้เครื่องมือทั่วไปและเฉพาะทางที่ถูกต้องในการ ถอด ประกอบ ชิ้นส่วนที่เป็นไปตามขั้นตอนของคู่มือ สแกนเนีย อย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันความเสียหาย การใช้เครื่องมือตรวจสอบ วิเคราะห์ วางแผนและการแก้ปัญหา การอัพเดตความรู้ในเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ เช่น เครื่องยนต์ Scania Euro5 ระบบเกียร์ หรือ ระบบอื่นๆ รวมถึงอธิบายสื่อสารกับลูกค้าในการรักษาและซ่อมบำรุง ฯลฯ
นอกจากจะมีทีมช่างที่มีทักษะฝีมือประจำอยู่ตามศูนย์ทั่วประเทศแล้ว เพื่อความมั่นใจในทุกปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถสามารถแก้ไขได้ สแกนเนีย ยังมีวิศวกรพิเศษเฉพาะทาง ในการช่วยเหลือทีมช่างในการตรวจวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา หรือ หากมีปัญหาเฉพาะทางที่เกิดขึ้นน้อยมากหรือไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ก็สามารถเปิดเคสเพื่อสื่อสารและแชร์ปัญหากับทีมช่างและทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สวีเดนในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้
โดยนอกจากจะมีการพัฒนาและฝึกอบรมทีมช่างที่มีประสิทธิภาพแล้ว สแกนเนีย ยังจัดให้มีกิจกรรมการแข่งขัน Scania Top Team ขึ้นทุกๆ 2 ปี เพื่อค้นหาสุดยอดทีมช่างของ สแกนเนีย ในการเป็นตัวแทนของประเทศไปร่วมการแข่งขันบนเวที Scania Top Team ระดับภูมิภาคและระดับโลกที่ประเทศสวีเดน ซึ่งเป้าหมายของการแข่งขันก็เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวในการเรียนรู้ พัฒนาทักษะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันระหว่างทีมช่างของแต่ละประเทศ สำหรับการทดสอบในการแข่งขันนั้น จะมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ การทำงานเป็นทีม และการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริง

ล่าสุด สแกนเนีย สยาม ได้มีการจัดการแข่งขัน Scania Top Team Thailand 2025 ขึ้น ในปีนี้มีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 12 ทีม และคัดเลือกเหลือ 5 ทีม เพื่อแข่งขันรอบสุดท้ายของประเทศไทยที่ สำนักงานใหญ่ สแกนเนีย บางนา กรุงเทพฯ สำหรับทีมชนะเลิศในปีนี้ได้แก่ ทีม "Two Plus Three" ที่คว้าทั้งเงินรางวัล และสิทธิตำแหน่งตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันตัวแทนของภูมิภาคเอเชียและโอชีเนีย 11 ประเทศ ในการแข่งขัน Scania Top Team Regional Final 2026 รอบภูมิภาค โดยจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทยปลายเดือนมกราคมปี 2569 เพื่อหาตัวแทนระดับภูมิภาคไปแข่งขันระดับโลกต่อไป สำหรับการจัดการแข่งขันรอบภูมิภาคในประเทศไทย 2 ปีซ้อนนั้น เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจอย่างยิ่งในความเป็นศูนย์ สแกนเนีย ที่มีมาตรฐานสูง มีความพร้อม และเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ
การแข่งขัน Scania Top Team นอกจากจะเป็นการพัฒนาทักษะฝีมือช่างของสแกนเนียแล้ว ยังส่งผลดีต่อลูกค้าในเรื่องของความมั่นใจว่า การให้บริการหลังการขายของสแกนเนียมีมาตรฐานที่สูง ช่างมีความรู้ มีทักษะและการฝึกฝนในการแก้ปัญหาอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ มีความพร้อมทางด้านของเครื่องมือที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการซ่อมบำรุงรถสแกนเนียโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงเชื่อใจได้ว่ารถเข้ามารับบริการจากศูนย์สแกนเนียจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ถูกต้องตามมาตรฐานระดับโลก สามารถวางแผนและกำหนดระยะเวลาในการซ่อมบำรุงรักษาได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
