In Global

จีน-อาเซียนร่วมลงนามข้อตกลงCAFTA 3.0ยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ



ความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียนก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้ง โดยนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดจีน-อาเซียน ครั้งที่ 28 (28th China-ASEAN Summit) และร่วมเป็นสักขีพยานการลงนาม พิธีสารยกระดับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ฉบับที่ 3 (China-ASEAN Free Trade Area (CAFTA) 3.0 Upgrade Protocol) ซึ่งถือเป็นกรอบข้อตกลงทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดฉบับหนึ่งของโลก

นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า การอัปเกรดสู่ CAFTA 3.0 เป็น “ก้าวสำคัญของการเปิดเสรีทางการค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจระดับภูมิภาค” ซึ่งจะสร้างโอกาสใหม่ในการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และยกระดับมาตรฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากข้อตกลง CAFTA 3.0 จะส่งเสริมความร่วมมือเรื่องการลดภาษีและอำนวยความสะดวกด้านการค้าแล้ว ยังขยายขอบเขตความร่วมมือครอบคลุม 9 ด้านหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว ความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน มาตรฐานและข้อกำหนดทางเทคนิค มาตรการสุขอนามัยและพืชพรรณ ขั้นตอนศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า การแข่งขันและการคุ้มครองผู้บริโภค ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคนิค โดยกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า ภายหลังพิธีลงนาม ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินกระบวนการให้สัตยาบันภายในประเทศของตนเพื่อให้ข้อตกลงมีผลบังคับใช้โดยเร็ว และเริ่มต้นความร่วมมือในระดับปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

ข้อตกลงเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเริ่มขึ้นเมื่อปี 2002 และมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ในปี 2010 ก่อนจะได้รับการปรับปรุงเป็น CAFTA 2.0 ในปี 2015 และขยับสู่ CAFTA 3.0 ในปี 2025 ซึ่งไม่เพียงสะท้อนความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่ยังเป็นสัญญาณของการยืนหยัดในระบบพหุภาคีและการค้าเสรี ท่ามกลางกระแสความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า CAFTA 3.0 จะช่วยสร้างตลาดภูมิภาคที่เปิดกว้าง ยืดหยุ่น และมีมาตรฐานอิงกฎกติกาสากล รวมถึงเสริมสร้างความมั่นคงของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและอุปทาน เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย

ในเวทีประชุมสุดยอดอาเซียน นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ยังประกาศเพิ่มเงินทุนเข้าสู่กองทุนความร่วมมือจีน-อาเซียน (China-ASEAN Cooperation Fund) พร้อมจัดตั้ง China-ASEAN Digital Academy และแพลตฟอร์มความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI Cooperation Platform) และศูนย์พัฒนาและเทคโนโลยีทางทะเล (Maritime Development and Technology Center) เพื่อยกระดับความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ เช่น การคมนาคม เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว การป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติ และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ย้ำว่า จีนพร้อมเดินหน้าประสานยุทธศาสตร์การพัฒนากับประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อผลักดันแผนปฏิบัติการความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบใหม่ (ASEAN-China Comprehensive Strategic Partnership 2026–2030) ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และร่วมสร้างภูมิภาคที่เปิดกว้าง มั่นคง และเติบโตอย่างยั่งยืน

การลงนาม CAFTA 3.0 จึงเป็น “สัญญาณแห่งความเชื่อมั่นใหม่ของเอเชีย” ที่สะท้อนพลังความร่วมมือ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และการเดินหน้าสู่อนาคตที่เติบโตไปพร้อมกันของจีนและอาเซียน

บทความ : ประวีณม้ย บ่ายคล้อย

ที่มา: Xinhua  The State Council of the People’s Republic of China

ภาพ : Xinhua