ECO & ESG

นักวิชาการชี้'ไม่เทรวมกทม.'คือจุดเริ่มต้น ทีอีไอหนุนชวนคนกรุงร่วมเปลี่ยนเมือง



กรุงเทพฯ-สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI)  ชู นโยบาย "ไม่เทรวม" ของกรุงเทพมหานคร เป็นการเริ่มต้นที่สำคัญในการปฏิรูประบบการจัดการขยะ แม้ว่ายอดผู้เข้าร่วมลงทะเบียนล่าสุดจะสูงทะลุถึงจำนวน 896,876 หลังคาเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568) จากจำนวนทั้งหมดที่มีคุณสมบัติรับสิทธิ์ประมาณ 2,479,740 หลังคาเรือน คิดเป็น 36.17%ยังต้องเร่งสร้างการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น ด้านสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยย้ำ "ทุกคนทำได้" ชวนคนกรุงมาร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ เริ่มต้นจากที่บ้าน สู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของเมือง 

ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ได้แสดงมุมมองถึงโครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม” ของกรุงเทพมหานครว่าแม้การลงทะเบียนผู้เข้าร่วมอยู่ที่ 896,876 หลังคาเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568) แบ่งเป็น ลงทะเบียนแบบเดี่ยว (บ้านพักอาศัย) 333,911 หลังคาเรือน ลงทะเบียนแบบกลุ่ม (คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร ชุมชน แฟลต) จำนวน 3,768 แห่ง 562,965 หลังคาเรือน ซึ่งจากยอดจำนวนตัวเลขผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ข้างต้นแสดงให้เห็นถึงว่าคนกรุงเริ่มตระหนักรู้ถึงปัญหาขยะที่ได้สร้างผลกระทบเชิงลบในทุกมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้ทุกคนเริ่มอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารจัดการขยะให้เกิดความยั่งยืนดังนั้น กรุงเทพมหานครต้องเร่งเดินหน้าในการสร้างความรู้ความเข้าใจและสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญ
ในการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง (ไม่เทรวม) รวมทั้ง อำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการแสดงผลการดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่หลากหลายเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมเพราะถือเป็นสิ่งสำคัญ พร้อมชี้ว่า ตอนนี้กรุงเทพมหานครกำลังอยู่ระหว่างการปรับระบบอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดเก็บ การขนส่ง และการนำขยะที่แยกแล้วไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดซึ่งกรุงเทพมหานครได้พยายามอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าร่วมได้ง่ายขึ้น

"กทม. ก็พยายามที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนดำเนินการง่ายขึ้นเพียงถ่ายรูปตอนแยกขยะ ถ่ายรูปการเอาขยะรีไซเคิลไปขาย และเมื่อถ่ายรูปเสร็จก็นำส่งให้กรุงเทพมหานคร แล้วก็ส่งผ่านแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายสามารถที่จะรายงานไปตามแบบฟอร์มต่าง ๆ ได้ ซึ่งวิธีนี้เป็นการดำเนินการง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นตัวช่วยให้การดำเนินงานสะดวกมากขึ้น”

ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ได้กล่าวเสริมว่า โครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม” ไม่ใช่แค่การลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปฝังกลบ แต่คือการสร้างวัฒนธรรมใหม่ให้กรุงเทพฯ การเริ่มต้นที่บ้านด้วยการคัดแยกขยะอาหาร ออกจากขยะทั่วไปและขยะรีไซเคิล คือ หัวใจสำคัญการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ส่งผลกระทบเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่ได้ พร้อมเน้นย้ำถึงประโยชน์ของการคัดแยกขยะที่ต้นทาง ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดได้หลากหลาย ทั้งเรื่องของการหมักปุ๋ยหรือสารบำรุงดิน การนำไปเป็นอาหารสัตว์ เลี้ยงปลา ในขณะเดียวกันขยะรีไซเคิลถ้าแยกแล้วก็สามารถที่จะสร้างรายได้ให้ชุมชนได้และเป็นการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน

"โครงการนี้ของกรุงเทพมหานคร ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่ขับเคลื่อนงานด้านสิ่งแวดล้อมอยากเห็นคือทำยังไงให้เราเกิดการปฏิบัติจริง ๆ แล้วมันก็จะมีผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ผลดีต่อภาพรวมของประเทศของโลก รวมทั้งอยากให้ท้องถิ่นอื่น ๆ ดำเนินการในลักษณะคล้าย ๆ กัน เพื่อขยายผลไปสู่การบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืน”

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ที่ทุกคนทำได้ด้วยตัวเอง เริ่มต้นด้วยการคัดแยกขยะที่บ้าน ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ "ไม่เทรวม" และรายงาน ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของ กทม. เพื่อกรุงเทพฯ ที่สะอาดขึ้นและน่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับเราทุกคน ขอบคุณภาพจาก Facebook กรุงเทพมหานคร