Authority & Harm

เสี่ยนักธุรกิจร้องถูกนักร้องAF7พร้อมเมีย เบี้ยวค่าซองก๋วยเตี๋ยวแบรนด์ดัง



นครปฐม-นักธุรกิจนครปฐม ร้องทนาย สื่อ ถูกน้องร้องคนดังเคยเข้าประกวดในการรายการ AF7  อักษรย่อ น และเมีย สั่งผลิตซองใส่ก๋วยเตี๋ยว บรรจุซองแบรนด์ดัง เบี้ยวค่าผลิตสินค้า โดยมีตัวแทนจัดจำหน่ายมาแจ้งว่าถูกหลอกเงินจากภาพซองที่ปรากฏ  ทำให้สูญเสียเงินไปนับล้าย บางรายโดยนับสิบล้านเคยคิดถึงฆ่าตัวตาย เบื้องต้นค่าความเสียหายอาจทะลุถึง 50 ล้านบาท 

วันที่ 3 พฤศจิกายน 68 นายณัฐธิชัย กัลยา อายุ 58 ปี นักธุรกิจเกี่ยวกับแพคเกจจิ้ง  ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ได้เข้าร้องเรียนกับ นายศุภภัทรพจน์ นิติศศธร ทนายความ เจ้าของเพจ "คุยข่าว เล่าความ" ว่าได้ถูกนักร้อง  AF7 และภรรยา ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ก๋วยเตี๋ยวกึ่งสำเร็จรูป ชื่อดังได้ใช้ใบสั่งซื้อสินค้าจากผู้แทนจำหน่าย มาอ้างว่า มีลูกค้าสั่งสินค้าเป็นจำนวนมาก ขอให้ผลิตซองให้จำนวน 1 ล้านซอง แต่เมื่อส่งสินค้าไปแล้ว 1.1 แสนซองกลับไม่ยอมชำระเงิน อ้างว่ามีการส่งมามากเกินการสั่งแต่ละล๊อต ตนเองจึงได้ระงับการส่งสินค้าอีก 1.2 แสนซองไปให้และยุติการผลิตส่วนที่เหลือ ซึ่งเมื่อเดือนตุลาคม 2568 ตนเองได้มาทราบว่าทั้งคู่ได้มีการนำซองของตนเองไปใช้และจัดจำหน่ายในท้องตลาดแล้ว 

นายณัฐธิชัย กัลยา อายุ 58 ปี บอกว่า ตนเองได้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ (แพคเกจจิ้ง) ซึ่งทำให้บริษัทชื่อดังหลายแห่ง โดยเมื่อประมาณ เดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ตนเองได้รู้จักนักธุรกิจหญิงที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ก๋วยเตี๋ยวกึ่งสำเร็จรูป ผ่านคนรู้จักโดยได้มีการเจรจาธุรกิจกันกระทั่งได้เดินทางมาดูงานที่โรงงาน ก่อนจะมีการว่าจ้างให้ผลิตซองให้ และมาทราบภายหลังว่าการที่มีการนำใบสั่งซื้อจากตัวแทนมาให้ดู เป็นเพียงกลอุบายที่จะใช้ไปหลอกเงินจากตัวแทนจำหน่าย โดยเมื่อตัวแทนเห็นภาพว่ามีการสั่งผลิตซองจริงจึงเชื่อมั่นและจ่ายเงินค่าสินค้า ซึ่งตอนนี้ตนเองได้รับการติดต่อมาจากตัวแทนจำหน่ายแล้วหลายรายว่าถูกมีการหลอกในพฤติกรรมคล้ายกัน ซึ่งบางรายโดน 2 ล้าน บางรายถูกหลอกไปนับ 10 ล้านบาท และประเมินคาดว่าน่าจะมีความเสียหายไปถึง 50 ล้านบาท 

นายณัฐธิชัย บอกว่า ที่ตนเองหลงเชื่อเนื่องจาก ฝ่ายชายซึ่งเป็นสามี มีชื่อเสียงหน้าตาในสังคม โดยจะรู้จักกันใน นามนักร้อง อักษร น ซึ่งเป็นนักร้องในการประกวด AF7 ส่วนภรรยาก็เป็นนักธุรกิจซึ่งทำแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวจนโด่งดัง และทำตัวเป็นเหมือนไฮโซใช้ชีวิตหรูหราเที่ยวต่างประเทศและใช้ของแบรนด์เนม ซึ่งมีคนที่ถูกหลอกรายหนึ่งได้บอกให้ข้อมูลว่า มีความวิตกคิดมากเพราะสูญเงินไปนับ 10 ล้านบาท โดยได้เคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง จึงอยากจะออกมาร้องเรียนความเป็นธรรรมและให้มีการตรวจสอบข้อมูลโดยเร็วเพราะน่าจะมีผู้เสียหายหลายราย 

ด้าน  นายศุภภัทรพจน์ นิติศศธร ทนายความ กล่าวว่า จากที่ได้ฟังและตรวจดูข้อเบื้องต้นพบว่า สามีคนดังและภรรยาไฮโซ น่าจะมีพฤติกรรมหมิ่นเหม่เข้าข่ายฉ้อโกง โดยทราบว่า งการที่ได้นำใบสั่งซื้อจากคนอื่นมาแสดงกับทางโรงงานผลิตแพคเกจจิ้ง เพื่อให้โรงงานเกิดความมั่นใจว่ามีคนสั่งซื้อสินค้าของตนจริงและการนำซองบรรจุก๋วยเตี๋ยวที่ได้รับไป ไปแสดงต่อตัวแทนรายใหญ่ให้เห็นว่ามีการผลิตสินค้าจริง และจูงใจให้สั่งซื้อสินค้าเพิ่ม แต่เมื่อรับเงินจากตัวแทนแล้วกลับไม่ยอมไปจ่ายค่าผลิตให้โรงงาน พฤติกรรมดังกล่าวอาจจะเป็นการสับขาหลอกจากทั้ง 2 ฝั่ง คือโรงงานถูกหลอกให้ผลิตซองให้และตัวแทนจัดจำหน่ายก็ถูกเร่งให้ซื้อของไปสต๊อก โดยที่ไม่ทราบว่าเงินไปอยู่ที่ใคร เรื่องนี้ต้องติดตามให้ชัดเพราะเป็นเรื่องของคนมีชื่อเสียงในสังคม