In Global

จีนวางแผนปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ กระตุ้นการท่องเที่ยว



ปักกิ่ง, 3 พ.ย. (ซินหัว) - คำแนะนำเพื่อการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในอีก 5 ปีข้างหน้าของจีน ระบุว่าจีนจะต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวคุณภาพสูงในหลากหลายรูปแบบ และยกระดับคุณภาพการให้บริการ เพื่อส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวของประเทศ

มีการกำหนดเป้าหมายและมาตรการการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวไว้ในข้อเสนอแนะของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระยะ 5 ปี ฉบับที่ 15 (ปี 2026-2030) ซึ่งได้รับการอนุมัติในการประชุมสำคัญของพรรคฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน และเผยแพร่สู่สาธารณะเมื่อวันอังคาร (28 ต.ค.) ที่ผ่านมา

ไต้ปิน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน กล่าวว่า ตลอดห้าปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวมีบทบาทเชิงกลยุทธ์ที่โดดเด่นมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาประเทศ เขากล่าวว่า ข้อเสนอแนะดังกล่าวได้กำหนดทิศทางและแนวทางสำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยวคุณภาพสูงในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยอิงจากจากความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 14 (ปี 2021-2025) 

เอกสารข้อเสนอแนะดังกล่าวยังกระตุ้นให้พัฒนาบริการที่สะดวกสบายและเอื้อต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้า

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ขยายนโยบายการเดินทางแบบฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ มีนักท่องเที่ยวจาก 76 ประเทศ ที่สามารถเดินทางเข้าจีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ทั้งแบบที่จีนอนุญาตให้ฝ่ายเดียวหรือแบบต่างฝ่ายต่างยกเว้นวีซ่าซึ่งกันและกัน นอกจากนี้มีกันพลเมืองจาก 55 ประเทศ ที่สามารถเยือนจีนได้ภายใต้นโยบายแวะพักชั่วคราว (transit) แบบฟรีวีซ่านานสูงสุด 10 วัน ก่อนเดินทางต่อไปยังจุดหมายที่สาม

ข้อมูลทางการระบุว่า ช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าจีนจำนวน 7.246 ล้านครั้ง ภายใต้นโยบายฟรีวีซ่า เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.3 เมื่อเทียบปีต่อปี

เอกสารข้อเสนอแนะยังเรียกร้องให้ส่งเสริมการบูรณาการวัฒนธรรมเข้ากับการท่องเที่ยวอย่างลึกซึ้ง ผ่านการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง

(ที่มา: https://www.xinhuathai.com/silkroad/541383_20251103 , https://en.imsilkroad.com/p/348113.html)

ภาพประกอบข่าว
(แฟ้มภาพซินหัว : นักท่องเที่ยวชมการแสดงในจุดชมวิวแห่งหนึ่งในอำเภอเหอผู่ เมืองเป่ยไห่ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน วันที่ 20 ต.ค. 2025)