ECO & ESG

เบื้องหลังเส้นทางแคปซูลกาแฟใช้แล้ว จากเนสเพรสโซทำกาแฟทุกแก้วให้มีค่า



กรุงเทพฯ 4 พฤศจิกายน 2568 Nespresso (เนสเพรสโซ) ผู้นำด้านกาแฟแคปซูลและเครื่องชงกาแฟชนิดแคปซูลระดับพรีเมียมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เดินหน้าตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนผ่านแคมเปญ ‘My Cup of Purpose’ ชวนผู้บริโภคเปิดมุมมองใหม่สู่เบื้องหลังของระบบหมุนเวียนและกระบวนการรีไซเคิลที่แบรนด์ลงมือทำอย่างจริงจัง โดยครั้งนี้ได้ร่วมเดินทางไปกับ เน๋ง – ศรัณย์ นราประเสริฐกุล ในฐานะ Friend of Nespresso เพื่อสัมผัสการเดินทางของแคปซูลกาแฟใช้แล้ว และเรียนรู้ว่าทุกแคปซูลสามารถกลับมามีชีวิตใหม่ได้อย่างไรในประเทศไทย

เปลี่ยนแคปซูลให้เกิดคุณค่าใหม่

หัวใจสำคัญของการสร้างระบบหมุนเวียนที่ยั่งยืนของเนสเพรสโซ คือความร่วมมือกับวงษ์พาณิชย์ ผู้นำด้านการจัดการขยะของไทย ซึ่งมีบทบาทในการขับเคลื่อนกระบวนการรีไซเคิลแคปซูลของเนสเพรสโซ และทำให้มั่นใจว่ากาแฟแคปซูลทุกชิ้นที่ถูกรวบรวมจะถูกรีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ จับต้องได้และมีคุณค่า ซึ่งลูกค้ามีส่วนร่วมในการคืนแคปซูลกาแฟใช้แล้วผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ เนสเพรสโซบูติกทุกสาขา, พนักงานส่งสินค้าเมื่อสั่งซื้อออนไลน์ และไปรษณีย์ไทย

เมื่อแคปซูลกาแฟใช้แล้วมาถึงโรงงานหลักของวงษ์พาณิชย์ในจังหวัดพิษณุโลก กระบวนรีไซเคิลอย่างมืออาชีพก็เริ่มต้นขึ้น ขั้นตอนแรกคือการนำแคปซูลไปตากแห้งด้วยแสงธรรมชาติ ตามด้วยนำเข้าสู่เครื่องบดและคัดแยก เพื่อคัดกรองเศษอะลูมิเนียมและกากกาแฟออกจากกันอย่างละเอียด

อะลูมิเนียมที่แยกออกมาจะถูกหลอมใหม่เป็นแท่งโลหะ (ingot) ซึ่งจะนำไปหลอมเป็นสิ่งใหม่ในหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ ส่วนประกอบรถยนต์ และวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น กระบวนการเหล่านี้ตอกย้ำให้เห็นว่า การกระทำที่เล็กน้อยอย่างการคืนแคปซูลกาแฟใช้แล้ว ก็สามารถสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนได้ในระดับท้องถิ่น

ทั้งนี้ ความตั้งใจในการพัฒนาโครงการรีไซเคิลของเนสเพรสโซระดับโลก ก็ยังเห็นได้จาก ‘Second Life Project’ ซึ่งเป็นความร่วมมือของเนสเพรสโซและแบรนด์ระดับโลกชั้นนำที่มีหัวใจรักความยั่งยืนเหมือนกัน มาร่วมมอบชีวิตใหม่ให้กับอะลูมิเนียมแคปซูลใช้แล้ว ได้แก่ ปากกา Caran d'Ache, มีดพกพา Victorinox และจักรยาน RE:CYCLE จาก Vélosophy โดยในแคมเปญสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน ลูกค้าของเนสเพรสโซจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตอย่างยั่งยืนเหล่านี้เป็นของขวัญพิเศษ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นในระบบหมุนเวียนของเนสเพรสโซ

ในส่วนของกากกาแฟจากแคปซูลใช้แล้ว จะถูกส่งต่อไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม เพื่อแปรรูปเป็นปุ๋ยหมักสำหรับใช้ในงานวิจัยทางการเกษตรและกิจกรรมการเรียนรู้ของนักศึกษา อีกทั้งยังกระจายกากกาแฟนี้ให้กับเกษตรกรในจังหวัดพิษณุโลก เพื่อนำไปใช้บำรุงดินและเพาะปลูกพืชผักสวนครัวที่สดใหม่ ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของชุมชน และในที่สุดผลผลิตเหล่านี้ก็จะกลับมาสู่โต๊ะอาหารของผู้บริโภคอีกครั้ง

“วันนี้เน๋งดีใจมากที่ได้มาร่วมทริปนี้ และเห็นทุกขั้นตอนของโปรแกรมรีไซเคิลของเนสเพรสโซด้วยตาตัวเอง น่าทึ่งมากที่ได้รู้ว่าแคปซูลกาแฟใช้แล้วสามารถกลายเป็นสิ่งของใหม่ที่จับต้องได้จริง ไม่เพียงแต่ช่วยสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเราสามารถทำให้การส่งคืนแคปซูลกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ได้ง่าย ๆ ไปกับเนสเพรสโซ” เน๋ง – ศรัณย์ นราประเสริฐกุล บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้เห็นกระบวนการและสถานที่จริงในการรีไซเคิลแคปซูลของเนสเพรสโซ พร้อมชวนลูกค้าทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างผลลัพธ์เชิงบวกผ่านการส่งคืนแคปซูลใช้แล้ว

ภายใต้แคมเปญ ‘My Cup of Purpose’ เนสเพรสโซเชิญทุกท่านร่วม ‘เปลี่ยนกาแฟทุกแก้วให้มีคุณค่า’ ด้วยการนำแนวคิดเรื่องความยั่งยืนมาใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะเพียงแค่ร่วมส่งคืนแคปซูลใช้แล้วหลังจากดื่มกาแฟแก้วโปรด ก็สามารถกลายเป็นจุดเล็กที่สร้างคุณค่า สนับสนุนสิ่งแวดล้อมและมอบชีวิตใหม่ให้ทุกแคปซูลได้เดินทางต่อ เพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวกที่ยั่งยืน ทั้งนี้ยังมีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการรีไซเคิลแคปซูล (Recycling Rate) ในประเทศไทยให้สูงขึ้นภายในปี 2568 และปีต่อ ๆ ไปอีกด้วย