Biz news

โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีตอกย้ำความพร้อมใน ฐานะโรงไฟฟ้าฐานหลักของไทย 



กรุงเทพฯ-ความมั่นคงของระบบไฟฟ้าไทยจำเป็นต้องอาศัยโรงไฟฟ้าฐานหลักที่มีเสถียรภาพและความพร้อมในการเดินเครื่องสูง เพื่อช่วยรักษาความต่อเนื่องของการจ่ายไฟฟ้าในทุกสถานการณ์ โดยระบบไฟฟ้าของประเทศมีการเชื่อมโยงกันทั้งประเทศ และยังมีบางส่วนที่รับไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเสริมให้พอต่อความต้องการในช่วงเวลาที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง 

เมื่อโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศมีการหยุดทำงานกะทันหัน ระบบสำรองไฟฟ้าภายในประเทศจึงเป็นกลไกสำคัญในการลดโอกาสเกิดไฟฟ้าดับภายในประเทศ ซึ่งจากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในบางส่วนช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่เกิดจากโรงไฟฟ้าต่างประเทศหลุดออกจากระบบกะทันหัน สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายด้านความต่อเนื่องของพลังงานในภูมิภาค เหตุการณ์นี้ทำให้เห็นบทบาทสำคัญของโรงไฟฟ้าฐานหลักภายในประเทศที่ต้องสามารถเดินเครื่องได้อย่างน่าเชื่อถือและมีการสำรองกำลังผลิตอย่างเพียงพอ

โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ในฐานะโรงไฟฟ้าเอกชนที่มีเสถียรภาพสูง มีกำลังการผลิตรวม 1,434 เมกะวัตต์ จาก 2 หน่วยผลิต โดยในปีนี้โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ครบทั้ง 2 ยูนิต โดยไม่เกิดการสะดุดหรือหยุดซ่อมฉุกเฉิน ถือเป็นผลงานที่สะท้อนถึงมาตรฐานการดำเนินงานระดับสูง ความพร้อมด้านเทคโนโลยี และศักยภาพของบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ด้วยความเสถียรภาพดังกล่าว โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี จึงเป็นหนึ่งใน “โรงไฟฟ้าฐานที่มีบทบาทสำคัญ” ในการรักษาโหลดฐานของประเทศ ช่วยเสริมสมดุลให้ระบบไฟฟ้า พร้อมรองรับเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดจากภายนอก และสร้างความมั่นใจให้ภาคอุตสาหกรรม เศรษฐกิจและชีวิตประจำวันของประชาชน

โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี เชื่อว่าความมั่นคงไฟฟ้าไม่ใช่เพียงเรื่อง “ไฟไม่ดับ” เท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานของความต่อเนื่องทางเศรษฐกิจ การแพทย์ การคมนาคมและคุณภาพชีวิตของผู้คน การมีโรงไฟฟ้าฐานที่เดินเครื่องได้อย่างต่อเนื่องควบคู่กับการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนอย่างเหมาะสม คือแนวทางที่จะนำไปสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืนในอนาคต โดยไม่กระทบต่อเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า และ โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ยังมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ของภาคเอกชนด้านพลังงานอย่างเต็มความสามารถ พร้อมสนับสนุนความมั่นคงของระบบไฟฟ้าไทย และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศสู่อนาคตพลังงานสะอาดอย่างสมดุลและมั่นคง