In Bangkok

ภาษีเจริญแนะแบงค์คอกฮอไรซอนไลท์ ขยะไม่เทรวม/ส่องผู้ขับขี่บนทางเท้า



กรุงเทพฯ-ภาษีเจริญแนะแบงค์คอกฮอไรซอนไลท์แยกขยะไม่เทรวม ส่องกล้องจับภาพผู้ขับขี่บนทางเท้า เล็งยกระดับแผงค้าหน้าบ้านบางแค พลิกที่ว่างสร้างสวนชุมชนราชมนตรีร่วมใจ ล้อมกรอบฝุ่นจิ๋วไซต์งานออริจิ้นเพลสเพชรเกษม กวดขันวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ 

(6 พ.ย. 68) เวลา 12.40 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตภาษีเจริญ ประกอบด้วย 

เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ อาคารชุดพักอาศัยแบงค์คอกฮอไรซอนไลท์ @ สถานีเพชรเกษม 48 (Bangkok Horizon Lite @ Phetkasem 48) พื้นที่ 1 ไร่ 3 งาน 91 ตารางวา ห้องพัก 275 ห้อง ผู้พักอาศัย 130 ห้อง ห้องว่าง 145 ห้อง ประชากร 200 คน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2567 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ ลูกบ้านจะนำขยะเศษอาหารใส่ถุงมาทิ้งบริเวณจุดทิ้งขยะของแต่ละชั้น นิติบุคคลจัดตั้งภาชนะใส่ขยะเศษอาหาร พนักงานรวบรวมนำมาไว้ที่ห้องพักขยะ เขตฯ จัดเก็บ 2.ขยะรีไซเคิล ลูกบ้านจะนำขยะรีไซเคิลมาทิ้งบริเวณจุดทิ้งขยะของแต่ละชั้น นิติบุคคลติดตั้งชุดกรงเหล็กรับทิ้งขยะรีไซเคิลเป็นการเฉพาะบริเวณห้องพักขยะ ลูกบ้านนำขยะรีไซเคิลมาทิ้งใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ 3.ขยะทั่วไป ลูกบ้านจะนำขยะทั่วไปมาทิ้งบริเวณจุดทิ้งขยะของแต่ละชั้น นิติบุคคลรวบรวมใส่ถุงดำ นำมาตั้งวางบริเวณจุดที่กำหนด เขตฯ จัดเก็บทุกวัน 4.ขยะอันตราย ลูกบ้านจะนำขยะอันตรายมาทิ้งบริเวณจุดทิ้งขยะของแต่ละชั้น นิติบุคคลจัดตั้งภาชนะใส่ขยะอันตราย พนักงานรวบรวมนำมาไว้ที่ห้องพักขยะ เขตฯ จัดเก็บ สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 1,440 ลิตร/วัน หลังคัดแยก 720 ลิตร/วัน ขยะรีไซเคิลก่อนคัดแยก 148 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์ก่อนคัดแยก 3 กิโลกรัม/วัน ขยะอันตรายก่อนคัดแยก 0.3 กิโลกรัม/เดือน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ เพื่อให้การจัดเก็บมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะขยะทั่วไปและขยะเศษอาหารที่สามารถคัดแยกออกมาได้อีก ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่ พร้อมทั้งมอบหมายให้เขตฯ ลงพื้นที่ตามหมู่บ้าน ชุมชน คอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน BKK WASTE PAY เข้าร่วมโครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม” ปัจจุบันเริ่มจัดเก็บอัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่แล้ว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 

ตรวจจุดติดตั้งกล้อง CCTV จับภาพอัจฉริยะผ่านระบบ BMA AI บริเวณปากซอยเพชรเกษม 42 ถนนเพชรเกษม ซึ่งเขตฯ มีจุดติดตั้งกล้อง CCTV จำนวน 2 จุด ได้แก่ 1.ปากซอยเพชรเกษม 28 2.ปากซอยเพชรเกษม 42 เพื่อตรวจจับผู้กระทำความผิดขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า กวดขันวินัยจราจรเปรียบเทียบปรับแก่ผู้ฝ่าฝืนนำรถยนต์ขึ้นมาจอดหรือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า บังคับการตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งเขตฯ ได้ติดป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน ติดตั้งเสากั้นป้องกันรถจักรยานยนต์ขึ้นบนทางเท้า โดยออกแบบช่องว่างและระยะห่าง เพื่อให้รถเข็นผู้พิการสามารถเข็นผ่านได้สะดวก  

ตรวจการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า บริเวณหน้าบ้านพักคนชราบางแค ถนนเพชรเกษม (ขาออก) ปัจจุบันเขตฯ มีพื้นที่ทำการค้า จำนวน 1 จุด คือหน้าบ้านพักคนชราบางแค ถนนเพชรเกษม ผู้ค้า 49 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-24.00 น. ซึ่งในปี 2567 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้า 8 จุด ได้แก่ 1.ซอยเพชรเกษม 20 ผู้ค้า 31 ราย 2.ซอยเพชรเกษม 36 ผู้ค้า 32 ราย 3.หน้าโรงพยาบาลพญาไท 3 ผู้ค้า 4 ราย 4.ซอยเพชรเกษม 39 ผู้ค้า 7 ราย 5.ซอยเพชรเกษม 54 ผู้ค้า 9 ราย 6.ถนนพุทธมณฑลสาย 1 (ฝั่งซ้าย) ผู้ค้า 4 ราย 7.ถนนพุทธมณฑลสาย 1 (ฝั่งขวา) ผู้ค้า 6 ราย 8.หน้าวัดนาคปรก ซอยเทอดไท 49 ถนนเทอดไท ผู้ค้า 12 ราย ในปี 2568 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้า 2 จุด ได้แก่ 1.ซอยเพชรเกษม 28 (ฝั่งซ้าย) ผู้ค้า 7 ราย 2.ซอยเพชรเกษม 28 (ฝั่งขวา) ผู้ค้า 5 ราย ต่อมาเขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้าอีก 4 จุด ได้แก่ 1.ซอยเพชรเกษม 42 ผู้ค้า 16 ราย 2.ซอยเพชรเกษม 48 ผู้ค้า 18 ราย 3.ซอยเพชรเกษม 33 ผู้ค้า 21 ราย 4.ซอยเพชรเกษม 62 (ซอยวงศ์ดอกไม้) ผู้ค้า 19 ราย สำหรับจุดทำการค้าหน้าบ้านพักคนชราบางแค ถนนเพชรเกษม ผู้ค้า 49 ราย เขตฯ จะพิจารณายกระดับเป็นพื้นที่ทำการค้าจุดผ่อนผันต่อไป ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ติดตามการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทำการค้าปี 67 ตรวจสอบแผงค้าทั้ง 2 ฝั่ง ให้อยู่ในแนวเส้นที่กำหนด เว้นระยะห่างจากป้ายโดยสารรถประจำทางและสะพานลอย เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ต่อไป 

พัฒนาสวน 15 นาที ชุมชนราชมนตรีร่วมใจ ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ซอย 11 ซึ่งเขตฯ มีแนวคิดที่จะพัฒนาที่ว่างข้างสนามเด็กเล่นและบ้านเด็กเล็ก กทม. จัดทำทางเดินวิ่งรอบบึงน้ำ ตั้งวางม้านั่งจากตอไม้ ปลูกไม้พุ่มไม้ประดับ รวมถึงอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่เดิมภายในสวน ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ 1.สวนแห่งรอยยิ้มและพื้นที่สุขภาวะ ชุมชนเลิศสุขสม บริเวณเกาะกลางถนนพุทธมณฑลสาย 1 พื้นที่ 100 ตารางวา 2.สวน 15 นาที บริเวณเกาะกลางถนนพุทธมณฑลสาย 1 จุดกลับรถใต้สะพานข้ามทางแยกถนนบางแวก พื้นที่ 300 ตารางวา 3.สวนป่าถนนศาลธนบุรี พื้นที่ 480 ตารางวา บริเวณหน้าหมู่บ้านกิจเจริญ ซอยศาลธนบุรี 29 4.สวนวัดกำแพงบางแวก ซอยบางแวก 32 พื้นที่ 560 ตารางเมตร 5.สวนวัดประดู่บางจาก ซอยราชพฤกษ์ 1 พื้นที่ 1,200 ตารางเมตร 6.สวนวัดปากน้ำภาษีเจริญ (สวนกาญจนาภิเษก) พื้นที่ 1 ไร่ 60 ตารางวา 7.สวนต้นหูกระจง พื้นที่ 1,528 ตารางเมตร บริเวณเกาะกลางถนนพุทธมณฑลสาย 1 ติดกับคลองบางจาก 8.สวน 15 นาที 50 ปี มหาวิทยาลัยสยาม ภาษีเจริญ พื้นที่ 5 ไร่ อยู่ระหว่างดำเนินการ 9.สวนสุขภาวะแห่งการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยสยาม พื้นที่ 4 งาน 165 ตารางวา อยู่ระหว่างดำเนินการ 10.สวนชุมชนราชมนตรีร่วมใจ ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ซอย 11 พื้นที่ 3 ไร่ อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยในพื้นที่เขตฯ มีสวน 15 นาทีตามโครงการ Pocket Park 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1.สวนแห่งรอยยิ้มและพื้นที่สุขภาวะ ชุมชนเลิศสุขสม 2.สวนวัดประดู่บางจาก ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำให้เขตฯ บำรุงรักษาสวน 15 นาที ที่จัดทำเสร็จแล้ว ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้มีความสวยงามร่มรื่นอยู่เสมอ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดทำสวน 15 นาทีอย่างแท้จริง โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนเข้ามาใช้บริการหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในสวน รวมถึงสำรวจพื้นทางเดินภายในสวน หากชำรุดเสียหายใหัรีบดำเนินการซ่อมแซมโดยเร็ว ในส่วนของสวนที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้จัดทำแผนงาน กำหนดระยะเวลาให้ชัดเจนว่าจะแล้วเสร็จภายในกี่วัน 

ติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 โครงการก่อสร้างคอนโดออริจิ้นเพลสเพชรเกษม (Origin Place Phetkasem) ซึ่งเป็นการก่อสร้างอาคารพักอาศัย ความสูง 22 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามวิธีและเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตในการก่อสร้างตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ.2526) และแก้ไขเพิ่มเติมตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 67 (พ.ศ.2563) และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ติดตามมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 ต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบการได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ดังนี้ ติดตั้งรั้วปิดทึบตามแนวพื้นที่ก่อสร้างโดยรอบ เปิดเครื่องพ่นละอองน้ำตลอดเวลาทำงาน รถบรรทุกที่ออกจากพื้นที่ก่อสร้างต้องผ่านการล้างทำความสะอาดล้อ ติดตั้งเครื่องวัดคุณภาพอากาศพร้อมทั้งจอแสดงผลด้านหน้าโครงการ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับผู้ประกอบการปรับปรุงบ่อล้างทำความสะอาดล้อและเปลี่ยนน้ำอย่างสม่ำเสมอป้องกันไม่ให้มีเศษตะกอนตกค้าง ตรวจวัดค่าควันดำรถบรรทุกให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามรอบที่กำหนด นอกจากนี้ เขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 กำชับสถานประกอบการในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมค่าฝุ่น PM2.5 ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ป้องกันมลพิษทางอากาศและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ติดตามการจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ วินปากซอยเพชรเกษม 54 ถนนเพชรเกษม (กลางวัน) ผู้ขับขี่ 60 คน สถานที่ตั้งวินอยู่บนทางเท้า และจุดจอดรถจักรยานยนต์อยู่บนผิวจราจร ปัจจุบันเขตฯ มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะในพื้นที่ 96 วิน ผู้ขับขี่ 1,480 คน มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาให้เป็นวินต้นแบบ 20 วิน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ จัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ตรวจตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กฎหมายกำหนด อาทิ การแต่งกาย ป้ายทะเบียนรถ อัตราค่าโดยสาร สถานที่ตั้งวิน วินัยจราจร รวมถึงตรวจสอบจำนวนผู้ขับขี่ในแต่ละวิน จัดทำข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน โดยเฉพาะข้อมูลจำนวนวินของเขตฯ และของสำนักเทศกิจจะต้องตรงกัน ตรวจสอบในพื้นที่ไม่ให้มีการแยกไปตั้งวินย่อยอย่างเด็ดขาด ตลอดจนตรวจสอบวินที่ไม่มีผู้ขับขี่อยู่ในวินแล้ว เนื่องจากผู้ขับขี่ไปประกอบอาชีพอื่น ซึ่งเขตฯ ได้ตรวจความเรียบร้อยตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีข้อใดไม่ถูกต้องตามเกณฑ์จะแจ้งข้อบกพร่องให้ผู้ขับขี่รับทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อย สำหรับแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ ประกอบด้วย 1.ด้านความสะอาด ได้แก่ สถานที่ตั้งวินและโดยรอบต้องมีความสะอาด ไม่มีการตอกผูกยึดโยง 2.ด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อย ได้แก่ จอดรถจักรยานยนต์เป็นระเบียบ ไม่กีดขวางทางเท้าหรือพื้นผิวจราจร ตั้งวางม้านั่งเป็นระเบียบ 3.ด้านกฎหมาย ได้แก่ การแต่งกายถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เสื้อวิน เบอร์เสื้อถูกต้องตามบัญชี ไม่ขับขี่บนทางเท้า ป้ายทะเบียนถูกต้อง สวมหมวกนิรภัย ป้ายอัตราค่าโดยสารถูกต้อง ไม่เก็บค่าโดยสารเกินราคา ไม่นำเสื้อวินไปเช่าช่วงต่อ 4.ด้านอื่น ๆ ได้แก่ ไม่ดื่มสุรา กริยามารยาทสุภาพ 

ในการนี้มี นางธราพร อำนวยสาร ผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตภาษีเจริญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล