ECO & ESG
พายุ‘คัลแมกี’ยันไม่กระทบเหมืองแม่เมาะ นักวิชาการมธ.เชื่อดินไม่สไลด์เพิ่ม
นักวิชาการธรรมศาสตร์ ระบุ ดินสไลด์ที่เหมืองแม่เมาะไม่ใช่ดินธรรมชาติ แต่เป็นดินทิ้งที่ผ่านกระบวนการสกัดถ่านหิน และอยู่ในพื้นที่จำกัด เชื่อ แม้พายุคัลแมกีเข้าไทย ก็จะไม่ขยายพื้นที่ความเสียหายเพิ่มไปยังชุมชน-โรงไฟฟ้า แนะรัฐแก้ปัญหาระยะยาว ควรคลอดระเบียบการบดอัดดินที่ทิ้งให้เป็นไปตามหลักวิศกรรมพร้อมทั้งทำระบบระบายน้ำเพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดซ้ำในพื้นที่อื่นๆ
รศ. ดร.สุรภาพ แก้วสวัสดิ์วงศ์ อาจารย์ประจำสาขาวิศวกรรมธรณีเทคนิค ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะนักวิชาการที่เชี่ยวชาญเรื่องวิศวกรรมทางชั้นดิน เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดินสไลด์บริเวณเหมืองแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2568 ตอนหนึ่งว่า แม้พายุคัลแมกีจะเข้าประเทศไทยในระหว่างวันที่ 7-9 พ.ย.นี้ แต่จะไม่ทำให้ดินในบริเวณเหมืองแม่เมาะสไลด์เพิ่มขึ้น จึงไม่ต้องกังวลว่าความเสียหายจะขยายวงกว้างจนไปกระทบชุมชนใกล้เคียงและโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
รศ. ดร.สุรภาพ กล่าวว่า ดินที่สไลด์ลงมาเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่ดินภูเขาหรือดินที่มีอยู่เดิมตามธรรมชาติ แต่เป็นดินที่เหลือจากกระบวนการร่อนสกัดถ่านหิน ซึ่งถูกนำมาทับถมทิ้งไว้จนเป็นกองทุนขนาดสูงคล้ายภูเขา กองดินถมดังกล่าวหากไม่ได้ผ่านกระบวนการบดอัดดินที่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมรวมถึงการติดตั้งระบบระบายน้ำในมวลดินที่เหมาะสม เมื่อฝนตกหนักก็จะทำให้น้ำแทรกเข้าไปในเม็ดดินได้ง่าย ส่งผลให้ดินจึงมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นในขณะที่มีกำลังลดน้อยลง ประกอบกับชั้นดินเดิมด้านล่างเป็นดินอ่อน จึงส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ดินสไลด์
“อย่างแรกคือดินสไลด์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นดินตามธรรมชาติ ถัดมาคือพื้นที่ที่เกิดเหตุก็มีลักษณะเฉพาะคือไม่มีความกว้างมากนัก ดินที่ถูกทิ้งให้ทับซ้อนกันจึงสูงและมีความชันค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม รัศมีความเสียหายจำกัดอยู่แค่ในพื้นที่ของบริเวณดินทิ้งเท่านั้น ทั้งนี้ จุดที่กองดินถล่มยังอยู่ห่างจากชุมชนเมือง และบริเวณส่วนผลิตไฟฟ้าของโรงฟ้าแม่เมาะ ฉะนั้นคาดว่าพายุคัลแมกีจะไม่มีผลทำให้เกิดความเสียหายต่อชุมชนแม่เมาะมากไปกว่านี้” รศ. ดร.สุรภาพ กล่าวว่า
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันความเสี่ยงในพื้นที่โดยรอบอย่างรัดกุม อาจจะต้องมีการสำรวจว่ามีตรงไหนอีกบ้างที่มีการนำดินไปทิ้งกองไว้ในลักษณะเดียวกัน และควรต้องมีการบินโดรนเพื่อสำรวจภูเขารอบๆ ว่ามีลักษณะของภูเขาหัวโล้น หรือมีการถางต้นไม้เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการก่อสร้างหรือไม่ เพราะภูเขาเช่นนี้ก็จะมีความเสี่ยง แต่ก็คงไม่ร้ายแรงและเกิดความเสียหายในรัศมีถึง 1 กิโลเมตรแบบดินถล่มที่เหลือจากกระบวนการร่อนสกัดถ่านหินในบริเวณดังกล่าว
นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าวอีกว่า ในระยะยาวควรมีการขยายพื้นที่สำหรับดินถมเพิ่มเติมจากที่เกิดเหตุ เพื่อขยายพื้นที่ทิ้งดินให้มีความกว้างและสามารถกระจายน้ำหนักกองดินได้มากขึ้น และถึงแม้ว่าจะมีระบบการแจ้งเตือนดินสไลด์ จนทำให้ไหวตัวทันและมีการอพยพคนออกจากพื้นที่ไปตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่หลังผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปควรจะมีการแยกโซนให้ชัดเจน ไม่ควรนำคนไปอาศัยหรือทำงานในบริเวณใกล้เคียงกับที่ที่มีการทิ้งดินอีก
สำหรับภาครัฐเพื่อป้องกันปัญหาในเชิงโครงสร้างและไม่ให้เกิดความเสียหายลักษณะเช่นนี้ในพื้นที่อื่นๆ อีก ก็ควรจะต้องมีการกำหนดระเบียบที่ว่าด้วยการนำดินมาทิ้งทับถมกัน ให้ดำเนินการนำมาบดอัดอย่างถูกต้องตามมาตรฐานทางวิศกรรม มีการควบคุมความชันของกองดินถม และมีระบบการระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพในกรณีที่ฝนตกหนัก ซึ่งเข้าใจว่าในปัจจุบันยังไม่มีการบังคับใช้มาตรฐานเหล่านี้
ทั้งนี้ กระบวนการอัดดินที่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมจะต้องมีการพิจารณาว่าดินที่ถมลงไปนั้นมีความสามารถในการรับน้ำหนักมากน้อยเพียงใด และต้องคำนวณปริมาณน้ำที่เหมาะสม ก่อนที่จะนำดินและน้ำที่ผ่านการคำนวณแล้วมาผสมกันแล้วบดอัดให้แน่นด้วยพลังงานที่มากพอจากรถบดอัดดิน และในระยะถัดมาจะต้องทำระบบการระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อไม่ให้น้ำฝนที่ตกลงมาเข้าไปสะสมอยู่ในมวลดิน
