In Bangkok

กทม.ตรวจคุณภาพอากาศ-แหล่งน้ำหลัง เกิดสารเคมีรั่วใกล้ชุมชนเล่งบ๊วยเอี๊ยะ



กรุงเทพฯ-นางดวงพร ปิณจีเสคิกุล ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะคุณภาพอากาศและแหล่งน้ำบริเวณใกล้เคียงชุมชนเล่งบ๊วยเอี๊ยะ หลังเกิดเหตุสารเคมีรั่วไหลว่า สนอ. ได้ประสานฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ จากการตรวจสอบพบว่า สถานที่เกิดเหตุอยู่ในซอยเยาวราช 6 มีหนังสือรับรองการแจ้งจัดตั้งสถานที่สะสมอาหาร โดย สนอ. ได้ให้ข้อมูลคุณสมบัติของสารโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ (Sodiumhydrosulphite) แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตฯ เพื่อใช้ป้องกันสุขภาพแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและให้นำไปจัดการอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ รวมทั้งให้สำนักงานเขตฯ ประสานผู้ประกอบการแจ้งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่า มีการครอบครองสารดังกล่าว เนื่องจากสารโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ จัดอยู่ในบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตรายตามกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการและดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2556 ที่ให้นายจ้างที่มีสารเคมีอันตรายอยู่ในครอบครองจัดทำบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตรายและรายละเอียดข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตราย ตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด พร้อมทั้งแจ้งต่ออธิบดี หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายภายใน 7 วันนับแต่วันที่มีสารเคมีอันตรายอยู่ในครอบครอง ภายในเดือนมกราคมของทุกปี ซึ่งโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ใช้ได้เฉพาะในอุตสาหกรรมสิ่งทอ กระดาษ หนังฟอกย้อม ฯลฯ ห้ามนำมาใช้ในอาหารโดยเด็ดขาด เนื่องจากไม่ได้อยู่ในบัญชีวัตถุเจือปนอาหารที่อนุญาตให้ใช้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 418 เรื่องวัตถุเจือปนอาหารและประกาศอื่น ๆ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

ขณะเดียวกัน สนอ. ได้ประสานสำนักงานเขตฯ พบว่าในอาคารที่เกิดเหตุไม่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ป่วยติดเตียง แต่มีพนักงานของร้าน 3 คน ขณะเกิดเหตุพนักงานได้หลบออกมาอยู่บริเวณหน้าอาคาร ซึ่งกลิ่นของสารเคมีได้หายไปหลังจากนั้นประมาณ 30 นาที และสำนักงานเขตฯ ได้ร่วมกับสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) เคลื่อนย้ายสารเคมีไปกำจัดที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม สำนักสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้ให้คำแนะนำแก่สำนักงานเขตฯ ป้องกันถังบรรจุสารเคมีล้มขณะเคลื่อนย้ายต้องควบคุมอุณหภูมิ แนวทางการป้องกันของเจ้าหน้าที่ขณะขนย้าย และให้ล้างทำความสะอาดทั้งร่างกายให้ทั่ว หลังปฏิบัติภารกิจเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ สนอ. ได้สำรวจและตรวจประเมินสถานประกอบกิจการที่มีการจัดเก็บ การผลิต การสะสม การขนส่งและการใช้สารเคมีและวัตถุอันตราย ในรูปแบบการบูรณาการทีมตรวจร่วมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สนอ. สำนักงานเขต สปภ. กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และกรมธุรกิจพลังงาน โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เพื่อเฝ้าระวังความเสี่ยงภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 สนอ. ได้กำหนดแผนตรวจสอบสถานประกอบกิจการที่มีการจัดเก็บ การผลิต การสะสม การขนส่ง และการใช้สารเคมีและวัตถุอันตรายในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำกับดูแลและควบคุมสถานประกอบกิจการดังกล่าวให้บริหารจัดการความเสี่ยงภัยด้านสารเคมีและวัตถุอันตรายถูกต้องตามหลักวิชาการและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเสี่ยงภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย รวมถึงมีเครือข่ายในการปฏิบัติงานเมื่อเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย

นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวว่า ศูนย์วิทยุพระราม 199 รับแจ้งจากสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสวนมะลิว่า เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหลภายในร้านใช่ง่วนฮวด ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น จากการตรวจสอบพบว่า ในที่เกิดเหตุมีถังสารเคมีชนิดโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ ขนาด 53.6 กิโลกรัม (กก.) 3 ถัง และมี 1 ถัง ที่ฝาถังเปิดออก ส่งกลิ่นรบกวนบ้านเรือนประชาชนบริเวณใกล้เคียง โดยสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสวนมะลิได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ปิดฝาถังและเคลื่อนย้ายถังสารเคมีทั้งหมดออกจากที่เกิดเหตุและนำไปเก็บไว้ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม เพื่อดำเนินการกำจัดต่อไป ขณะนี้กลิ่นก๊าซที่เกิดจากการสลายตัวของสารเคมีได้เจือจางไปหมดแล้ว และประชาชนกลับเข้าพักอาศัยภายในบ้านของตนเองเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ สปภ. จะประสาน สนอ. สำนักงานเขตพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบโรงงาน หรือสถานประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ผลิต เก็บ ครอบครอง หรือมีการใช้สารเคมีและวัตถุอันตรายให้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันเหตุอันตรายที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน และหากประชาชนพบเหตุสารเคมีและวัตถุอันตราย หรือเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถแจ้งเหตุได้ที่สายด่วน 199 ตลอด 24 ชั่วโมง