Biz news
กลุ่มเซ็นทรัลขับเคลื่อนภูมิปัญญาท้องถิ่น ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากปั้นคุณค่าร่วม
กรุงเทพฯ-กลุ่มเซ็นทรัล ตอกย้ำพันธกิจ “เติบโตเคียงข้างสังคมไทยอย่างยั่งยืน” ผ่านการสนับสนุนและพัฒนาสินค้าท้องถิ่นที่สะท้อน อัตลักษณ์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของแต่ละชุมชนทั่วประเทศ พร้อมผนึกกำลังบริษัทในเครือขับเคลื่อนโครงการต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพ มาตรฐาน และศักยภาพของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดสมัยใหม่ โดยกลุ่มเซ็นทรัลเชื่อว่า “รากของความยั่งยืน เริ่มจากรากของชุมชน” การสนับสนุนสินค้าชุมชนถือเป็นหัวใจสำคัญในการต่อยอดภูมิปัญญาไทย นำความรู้และวัตถุดิบเฉพาะถิ่นมาสร้างนวัตกรรมและประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภค ทั้งยังช่วยสร้างรายได้หมุนเวียนกลับสู่ชุมชน เสริมรากฐานเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งและยั่งยืน และชุมชนมีความภาคภูมิใจในถิ่นกำเนิดของตนเอง
ทั้งนี้ ด้วยความมุ่งมั่นของทุกบริษัทในเครือกลุ่มเซ็นทรัล ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN และ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL / เซ็นทารา สนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างและเปิดโอกาส ช่องทางการตลาด การออกแบบ และพัฒนาแพ็กเกจจิ้งให้ได้มาตรฐาน การยกระดับคุณภาพสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึงการส่งเสริมแนวทางการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า “กลุ่มเซ็นทรัลเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า ‘ความยั่งยืนของประเทศเริ่มต้นจากความเข้มแข็งของชุมชน’ เราจึงให้ความสำคัญกับการสร้างระบบเศรษฐกิจที่เติบโตจากฐานราก สนับสนุนให้ภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ท้องถิ่นได้ต่อยอดเป็นพลังสร้างสรรค์ทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
สำหรับเรา การพัฒนาชุมชนไม่ใช่เพียงความรับผิดชอบขององค์กร แต่เป็นหัวใจของวิสัยทัศน์ที่กลุ่มเซ็นทรัลยึดถือมายาวนาน เรามุ่งใช้พลังของธุรกิจเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงคุณค่าของผู้คน ท้องถิ่น และสังคม ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างสมดุล เพื่อให้ความเจริญทางเศรษฐกิจเดินคู่ไปกับความภูมิใจในรากเหง้าความเป็นไทย เราจึงมุ่งมั่นร่วมพัฒนาสินค้าชุมชน (Community Product) ให้มีศักยภาพทางการตลาด ผ่านความร่วมมือกับภาครัฐและเครือข่ายพันธมิตรในระดับพื้นที่ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้หมุนเวียนกลับสู่ชุมชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงบนพื้นฐานของความยั่งยืน”
