ตร.ภาค7รวบตัว'นิด ไร่สะท้อน'มือปืนโหด ยิงเพื่อนบ้านดับปมเลี้ยงวัวลานแต่ไม่รอด

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 - 01:46 น.

เพชรบุรี-ตำรวจภาค7 รวบ “นิด ไร่สะท้อน” มือปืนโหด ยิงเพื่อนบ้านดับ ปมเลี้ยงวัวลาน – หนีคดี 1 เดือนจนมุมคาคอกวัวกุยบุรี ตร.ภาค 7 บูรณาการไล่ล่า!

ตร.ภาค 7 แถลงผลงานจับกุมคดีฆ่าโหด มือปืนยิงเพื่อนบ้านดับกลางหมู่บ้าน ปมขัดแย้งเรื่องวัวลาน–รถพ่วงข้างเฉี่ยวกัน พบมีประวัติคดีฆ่าตั้งแต่ปี 2550ตามนโยบายของรัฐบาลในการเร่งปราบปรามอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดยพล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.พร้อมด้วย
พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์, พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง, พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร และ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร.ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 7 ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7พร้อมชุดสืบสวนหลายหน่วยงาน ร่วมแถลงผลการจับกุมนายพัฒนะ หรือ “นิด” นิลสุข อายุ 45 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ 451/2568 ข้อหา1.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน2.พาอาวุธปืนเข้าพื้นที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและ3.ยิงปืนในที่ชุมชนโดยไม่มีเหตุอันควร

จับกุมได้เมื่อ 12 พ.ย. 2568 เวลา 13.30 น. ที่คอกวัวไม่มีเลขที่ ม.5 ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี จ.เพชรบุรี พร้อมของกลาง1.ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม.2.ซองกระสุนและ3.รถจักรยานยนต์ Honda Wave 125 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

พฤติการณ์คดี – ยิงเพื่อนบ้านดับกลางหมู่บ้าน ปมวัวลาน–รถพ่วงข้างเฉี่ยวกันเหตุเกิดเมื่อ 4 ต.ค. 2568 เวลา 17.00 น. ซอย 5 บ้านไร่กร่าง ม.5 ต.ไร่สะท้อน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรีผู้เสียชีวิตคือนายรุ่งอรุณ หรือ “เขียด” เทียนขำ อายุ 45 ปี การสืบสวนของ สภ.ไร่สะท้อน พบว่า ทั้งคู่มีปัญหาขัดแย้งกันยาวนานเรื่องการเลี้ยงวัวลาน อีกทั้งเคยมีปากเสียงหลังรถพ่วงข้างเฉี่ยวกัน จนปมสะสมกลายเป็นเหตุสังหารโหดกลางหมู่บ้านหลังเกิดเหตุ ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานจนออกหมายจับ และบูรณาการกำลังกว่า 3 หน่วย ทั้ง
สืบสวนภาค 7สืบสวนจังหวัดเพชรบุรีสืบสวน สภ.ไร่สะท้อน

จนสืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนอยู่ในคอกวัว ก่อนเข้าปิดล้อมจับกุม ตรวจยึดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้ครบถ้วนประวัติอาชญากรรม – เคยฆ่าคนมาแล้ว!ตรวจประวัติพบว่าปี 2550 ต้องคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และคดี พ.ร.บ.อาวุธปืน (คดีอาญาที่ 46/2550 สภ.ไร่สะท้อน)พ้นโทษจากเรือนจำกลางราชบุรีเมื่อ 1 พ.ย. 2564

ตำรวจเตรียมนำตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้ประชาชน ตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ