In Thailand

ศาลจังหวัดศรีสะเกษจัดอัญเชิญองค์ครุฑ ขึ้นประดิษฐานหน้าอาคารหลังใหม่



ศรีสะเกษ-ศาลจังหวัดศรีสะเกษ จัดพิธีอัญเชิญองค์ครุฑขึ้นประดิษฐานหน้าอาคารหลังใหม่ เตรียมเปิดรองรับภารกิจด้านตุลาการ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 10.19 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดพิธีอัญเชิญองค์ครุฑขึ้นประดิษฐาน ณ หน้าอาคารศาลจังหวัดศรีสะเกษ (หลังใหม่) โดยมี นายสถาพร วงศ์ตระกูลรักษา ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 3 เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายสุริยา บุตรจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 3 อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 3 อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 3 รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 รองเลขานุการศาลอุทธรณ์ภาค 3 ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดศรีสะเกษ คณะผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง 

โดยได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคุณ พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ท่านเจ้าคุณพระวชิรสิทธิธาดา เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ และพระภิกษุสงฆ์ รวม 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ตามศาสนพิธี และพราหมณ์ประกอบพิธีบวงสรวงตามคติความเชื่อ เพื่อความเป็นสิริมงคล สร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานในอาคารหลังใหม่

นายกฤษดา ศรีกัลยา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้กล่าวรายงานถึงความเป็นมาของการก่อสร้างอาคารศาลหลังใหม่ โดยระบุว่า อาคารศาลหลังเดิมก่อสร้างเมื่อปี 2523 เป็นศาลขนาดเล็ก 6 บรรลังก์ ต่อเติมขยายเป็น 11 บรรลังก์ในภายหลัง ไม่เพียงพอต่อการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและภารกิจของศาลในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องจัดสร้างอาคารใหม่ที่มีขนาด 14 บรรลังก์ รองรับภาระงานที่ขยายตัว และยกระดับคุณภาพในการให้บริการประชาชนด้านกระบวนการยุติธรรม

อาคารศาลจังหวัดศรีสะเกษ (หลังใหม่) เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ ใช้งบประมาณก่อสร้างรวมกว่า 214,555,000 บาท พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ อาทิ บ้านพักผู้พิพากษา อาคารชุดพักอาศัยข้าราชการศาลยุติธรรม และปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ เพื่อรองรับประชาชนที่เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากขึ้น การพิธีอัญเชิญองค์ครุฑขึ้นประดิษฐาน เนื่องจากตามคติโบราณเชื่อ “ครุฑ” เป็นพญาแห่งนกทั้งมวลที่ทรงฤทธานุภาพ เป็นเทพพาหนะของพระนารายณ์ ที่ได้รับพรให้เป็นอมตะ มีอานุภาพมากมาย ไม่มีศาสตราวุธใดๆ สามารถทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์มีอานุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง มีสติปัญญาเฉียบแหลม เฉลียวฉลาดอ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ น่าสรรเสริญ ประเทศไทยจึงได้นำ “ครุฑ” มาใช้เป็นสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน และถือเป็นตราประจำแผ่นดิน หรือตราพระราชลัญจกร ซึ่งหมายถึงพระราชบัลลังก์ อีกทั้ง “ตราครุฑ” ยังใช้เป็นตราประจำสถานที่ราชการต่างๆของรัฐบาลอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาศาลยุติธรรรม ในการพิจารมาพิพากษาคดีดำเนินการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ประกอบกับศาลจังหวัดอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินงานทางด้านธุรการของศาลยุติธรรม งานตุลาการและงานวิชาการ

หลังเสร็จสิ้นพิธี ศาลจังหวัดศรีสะเกษเตรียมดำเนินการปรับย้ายหน่วยงานเข้าสู่อาคารหลังใหม่ตามลำดับ เพื่อเพิ่มศักยภาพการอำนวยความยุติธรรม และรองรับภารกิจด้านตุลาการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต

ลักขณา กงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน