In Thailand

ไม่ทอดทิ้งชาวเชียงแสน!เปิดศูนย์รับกลับ พักคอยผู้ป่วยโควิด50เตียง 



เชียงราย-เปิดศูนย์รับกลับ และพักคอยผู้ป่วยโควิด-19 อำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย แห่งที่ 2 ณ อาคารเอนกประสงค์ สถาบันพัฒนาฝีมือนานาชาติ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ยินดีรับชาวเชียงแสน ที่ป่วยโควิด-19 ตามต่างจังหวัดและ กทม.ที่ยังหาที่รักษาไม่ให้ ให้ติดต่อขอกลับมารักษาในพื้นที่ จะไม่ทอดทิ้งกัน ดูแลดั่งญาติมิตร โดยมี ส่วนราชการ เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน คณะสงฆ์ และ สถาบันพัฒนาฝีมือนานาชาติ ระดมสรรพกำลังจัดเตียงและที่พักให้ 50 เตียง หากไม่พอสามารถเปิดเพิ่มอีก หลังพื้นที่ปลอดโควิด มานาน กว่า 23 วัน จึงคาดว่าควบคุมได้    

 เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 ส.ค.64 ได้มีพิธีเปิดศูนย์รับกลับ และพักคอยผู้ป่วยโควิด-19 อำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย แห่งที่ 2 ณ อาคารเอนกประสงค์ สถาบันพัฒนาฝีมือนานาชาติ ตั้งอยู่ หมู่ 2  ต.เวียง อ.เชียงแสน โดยมี พระพุทธิญาณมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมด้วย นายปกรณ์  สุริวรรณ นายอำเภอเชียงแสน,นางสาวสุกศรี ไล่กสิกรรม ผ.อ.สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติ,นางเกศสุดา สังขกร นายกเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน,นายวสันต์ เทียมตา กำนันตำบลเวียง,ว่าที่ ร.ต.สมบูรณ์ สุภาอิน สาธารณสุข อำเภอเชียงแสน,แพทย์,อสม.,เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี

นายปกรณ์  สุริวรรณ นายอำเภอเชียงแสน กล่าวว่า ศูนย์รับกลับ และพักคอยผู้ป่วยโควิด-19 อำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย แห่งที่ 2 เปิดมาเพื่อรองรับชาวเชียงแสน ที่ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในต่างจังหวัด สามารถติดต่อขอเดินทางกลับมาพักคอยเฝ้าสังเกตอาการที่ศูนย์แห่งนี้ได้ หากป่วยหนักก็จะส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลต่อไป แต่หากไม่รุนแรงแล้วหายก็สามารถกลับบ้านได้ คาดว่าจะมีแรงงานที่ไปทำ งานต่างจังหวัดและ กทม.ที่ทราบข่าวว่าแจ้งความประสงค์เดินทางกลับมา  อีกประมาณ 50-100 คน จากที่มีการตัดตั้งศูนย์พักคอย แห่งแรก ที่ เลมอนเฮ้าส์ รับไป 20 คน  โดยมีเบอร์โทรคอลเซ็นเตอร์ ให้ติดที่โทร 096-7503291 และ  086-1814762 จะมีเจ่าหน้าที่ประสานงานการเดินทางให้โดยที่แห่งนี้มีเตียงที่พักแยกชาย-หญิง ไว้จำนวน 50 เตียง พร้อมห้องสุขา 10 ห้อง ห้องอาบน้ำ 5 ห้อง พร้อมอาหารไว้บริการฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดใด โดยได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการ เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเชียงแสน  และผู้ใจบุญ และคณะสงฆ์จะบิณฑบาตปัจจัยมาดูแลผู้ป่วยโควิด-19  จัดอาหารและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย ไว้พร้อมดูแลผู้ป่วยดั่งญาติมิตร หากยังไม่เพียงพอก็สามารถหาสถานที่เปิดศูนย์ฯแห่งที่ 3 ได้อีก  ซึ่งอำเภอเชียงแสน มีชายแดนติด สปป.ลาว สหภาพเมียนมา และเชื่อมต่อไปจีนตอนใต้  ไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่ มานาน 23 วันแล้ว จึงถือว่าเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างปลอดโรค และสถานที่แห่งนี้ก็ห่างไกลผู้คนจึงมีความเหมาะสมให้ผู้ป่วยมาพัก ส่วนมาตรการป้องกันการลักลอบคนหลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดนมีกำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง คอยดูแลใกล้ชิดจึงมั่นใจว่าจะไม่มีเชื้อเล็ดลอดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้า และควบคุม ได้   

นางเกศสุดา สังขกร นายกเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน กล่าวว่า ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมาส่วนหนึ่ง และภาคเอกชน พร้อมผู้ใจบุญช่วยกันจัดเตรียมเตียงผู้ป่วยและข้าวของใช้สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือชาวเชียงแสน ที่อาจจะป่วยอยู่ในต่างจังหวัด และต้องการกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด จึงพร้อมใจกันระดมร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์แห่งนี้ และหากท่านใดประสงค์จะบริจาคเพื่อการช่วยเหลือผู้ป่วยให้ติดต่อที่ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติ แห่งนี้ได้

     

ว่าที่ ร.ต.สมบูรณ์ สุภาอิน สาธารณสุข อำเภอเชียงแสน กล่าวว่า ศูนย์ฯแห่งนี้จะให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ หรือ ผู้ป่วยสีเขียว มาพักคอย แล้วมีการจัดสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ให้รับประทาน หากอาการดีขึ้นแล้วหายก็กลับบ้านต่อไป แต่หากอาการหนักขึ้นก็จะส่งตัวให้โรงพยาบาลเชียงแสนต่อไป สร้างความอุ่นใจแก่ชาวเชียงแสน ที่อยู่ต่างพื้นที่ว่าเราไม่ทอดทิ้งกัน

นายแพทย์ภูวดล มงคลดี มิสเตอร์โควิด-19 อ.เชียงแสน และผู้แทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงแสน กล่าวว่า ขณะนี้ชาวเชียงแสน มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้วกว่า 3,000 คน และทางแพทย์พร้อมรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทุกราย ขอให้มั่นใจในศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่พร้อมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่จะเดินทางมาเข้าพักคอยในศูนย์แห่งนี้     

นางสาวสุกศรี ไล่กสิกรรม ผ.อ.สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยแรงงาน จึงมีนโยบายให้การช่วยเหลือแรงงานที่ประสบภัยโควิด-19 ขณะนี้ ศูนย์รับกลับ และพักคอยผู้ป่วยโควิด-19 อำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย แห่งที่ 2 เป็นอาคารเอนกประสงค์ที่ใช้สำหรับจัดอบรม แต่ขณะนี้ไม่ได้ใช้งานมากนักเพราะมีสถานการณ์โควิด-19 จึงยินดีปรับปรุงพื้นที่ในอาคาร ประมาณ 1,472 ตารางเมตร ให้มีเตียงที่พัก พร้อมอุปกรณ์ อำนวยความสะดวก มีของใช้ที่จำเป็น ที่นอน ผ้าห่ม พัดลม ห้องสุขา 10 ห้อง ห้องอาบน้ำ 5 ห้อง และเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และมีกล้องวงจรปิด ผู้ป่วยจะอยู่แต่ในอาคารไม่สามารถออกไปไหนได้ และห่างไกลจากชุมชนพอสมควร จึงมั่นใจว่าจะรองรับผู้ป่วย และไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปสู่ชุมชนได้แน่นอน 

ธีรวัฒน์ คำธิตา/เชียงราย