Biz news

NITMXชี้ยอดธุรกรรมพร้อมเพย์ต.ค.68 อยู่ที่2.23พันล้านรายการรวม4.41ลลบ.



กรุงเทพฯ-บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (NITMX) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินระดับประเทศ เปิดเผยข้อมูลการใช้งานระบบ “พร้อมเพย์” (PromptPay) ประจำเดือนตุลาคม 2568 พบว่าปริมาณธุรกรรมยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้เป็นช่วงปลายไตรมาส ซึ่งโดยปกติการจับจ่ายใช้สอยของครัวเรือนจะเริ่มชะลอก่อนเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปี แต่ยอดธุรกรรมพร้อมเพย์ยังเติบโตได้ดี สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของระบบการชำระเงินดิจิทัลไทยที่ได้รับความเชื่อมั่นอย่างกว้างขวางจากผู้ใช้ทุกกลุ่ม

ยอดธุรกรรมเติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องพฤติกรรมโอนจ่ายของผู้บริโภค

เดือนตุลาคม 2568 มียอดธุรกรรมรวมทั้งสิ้น 2.23 พันล้านรายการ เพิ่มขึ้นจาก 2.02 พันล้านรายการ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราการเติบโต 11% เมื่อเทียบรายปี (YoY) ด้านมูลค่าธุรกรรมรวมอยู่ที่ 4.41 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 4.22 ล้านล้านบาท ในปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นการเติบโต 5% YoY ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าพฤติกรรมผู้บริโภคยังคงพึ่งพาธุรกรรมดิจิทัลมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกรรมระหว่างบุคคล (P2P) และธุรกรรมของผู้ค้าออนไลน์รายย่อย ที่ใช้พร้อมเพย์เป็นช่องทางหลักในการรับชำระเงินและบริหารสภาพคล่องในชีวิตประจำวัน

ยอดการลงทะเบียนแตะ 81.77 ล้านเลขหมาย

ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2568 ยอดการลงทะเบียนพร้อมเพย์รวมอยู่ที่ 81.77 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็น

  • ภาคประชาชน: 81.39 ล้านเลขหมาย
  • ภาคธุรกิจ: 0.38 ล้านเลขหมาย

ตัวเลขยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องทุกเดือน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ แรงงานอิสระ และธุรกิจรายย่อย ที่มองว่าพร้อมเพย์เป็นเครื่องมือสำคัญในการโอน–รับเงินแบบเรียลไทม์ที่ปลอดภัย ใช้ง่าย และต้นทุนต่ำ

วันที่มียอดธุรกรรมสูงสุดของเดือนตุลาคม 2568

เดือนตุลาคม 2568 มียอดธุรกรรมสูงสุดอยู่ที่ 80.18 ล้านรายการ ในวัน ศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นวันสิ้นเดือนและอยู่ในช่วงรอบการจ่ายเงินเดือนของหลายองค์กร ทำให้มีธุรกรรมเพิ่มสูงขึ้น ทั้งการโอนเงินเดือน การจ่ายบิลต่าง ๆ การชำระค่าบริการออนไลน์ และยอดการซื้อขายของผู้ค้าออนไลน์ที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปิดรอบบัญชีรายเดือน พฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า “พร้อมเพย์” ยังคงเป็นระบบชำระเงินหลักของผู้ใช้ชาวไทยในทุกสถานการณ์ ทั้งการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ

Cross-Border QR Payment เติบโตต่อเนื่อง

บริการ Cross-Border QR Payment ขาเข้า (Inbound) ของเดือนตุลาคม 2568 ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีมูลค่าธุรกรรมรวม 375.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 237.04 ล้านบาท ในเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 58% YoY ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมใช้การชำระเงินผ่าน QR ข้ามพรมแดน ด้วยเหตุผลด้านความสะดวก ความปลอดภัย และอัตราแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่ากว่าการใช้เงินสดหรือบัตรเครดิตแบบดั้งเดิม

ประเทศที่ทำธุรกรรมสูงสุด 3 อันดับแรกของเดือนตุลาคม 2568 ได้แก่

  1. มาเลเซีย – 210.64 ล้านบาท
  2. ลาว – 57.92 ล้านบาท
  3. อินโดนีเซีย – 41.42 ล้านบาท

กลุ่มประเทศใกล้เคียงในอาเซียนยังคงเป็นผู้ใช้หลักของบริการนี้ โดยเฉพาะมาเลเซียที่มีสัดส่วนธุรกรรมมากเป็นอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความนิยมของนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เดินทางเข้าไทยมากขึ้นในช่วงปลายปี รวมถึงความพร้อมของร้านค้าและธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยที่รองรับการชำระเงิน QR ได้ครบวงจร มูลค่าธุรกรรมที่เติบโตต่อเนื่องนี้ยังเป็นสัญญาณสำคัญของบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางระบบการชำระเงินดิจิทัลของภูมิภาค ซึ่ง NITMX ยังคงมุ่งพัฒนาระบบให้ทันสมัย ปลอดภัย และสอดคล้องกับการขยายตัวของธุรกรรมข้ามพรมแดนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง