In Bangkok
กทม.ชู'สุขุมวิทโมเดล'เพิ่มความปลอดภัย จัดระเบียบ'ผู้ค้า-คนจร-ขอทานต่างด้าว
กรุงเทพฯ-กทม. เดินหน้า "สุขุมวิทโมเดล" จัดระเบียบผู้ค้า-คนไร้บ้าน-ขอทานต่างด้าว เพิ่มความปลอดภัยประชาชน-นักท่องเที่ยว
นางสาวกาญจนา ภูพิพัฒน์ผล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม (สพส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนโครงการ "สุขุมวิทโมเดล" โดยเฉพาะการแก้ปัญหาคนไร้บ้านและขอทานต่างชาติในย่านสุขุมวิทว่า สพส. ได้บูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจัดระเบียบคนไร้บ้านในพื้นที่สาธารณะของ กทม. อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย สำนักเทศกิจ สำนักงานเขต กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ศูนย์คุ้มครองและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) สถานีตำรวจนครบาล (สน.) มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย มูลนิธิกระจกเงา และมูลนิธิอิสรชน เป็นต้น ซึ่งได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สาธารณะที่มีคนไร้บ้านอาศัย รวมถึงบริเวณอโศกมนตรี นานา พร้อมพงษ์ ทองหล่อ และเอกมัย โดยบันทึกประวัติ ให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพ อาชีพและส่งกลับภูมิลำเนา

ขณะเดียวกันได้เปิดจุดบริการสวัสดิการสังคมสำหรับคนไร้บ้าน (Drop In) บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เพื่อให้คนไร้บ้านได้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการในด้านต่าง ๆ และในต้นปี 2569 กทม. จะเปิดให้บริการบ้านอิ่มใจเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว (Emergency shelters) โดยฝึกอาชีพและช่วยเหลือหางาน หรือส่งกลับภูมิลำเนา เพื่อให้คนไร้บ้านกลับสู่สังคมได้ ส่วนการแก้ไขปัญหาขอทานต่างด้าว ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงาน กทม. ได้แก่ สำนักเทศกิจ สำนักงานเขต และหน่วยงานภายนอก เช่น พม. กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และ บก.ปคม. เป็นต้น โดยเจ้าพนักงานเทศกิจ ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 ซึ่งจะบันทึกถ่ายภาพ อุปกรณ์ขณะขอทาน พร้อมชี้แจงว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายและนำส่งผู้ทำการขอทานดังกล่าวไปที่ สน.ในพื้นที่ เพื่อสอบสวน บันทึกการจับกุม เปรียบเทียบปรับ และเมื่อดำเนินการตามกระบวนการข้างต้นแล้ว หากเป็นขอทานต่างด้าว จะส่งตัวไปยัง สตม. เพื่อผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีแนวทางเพิ่มความเข้มงวดและบังคับใช้มาตรการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบขอทานต่างด้าวและคนไร้บ้านในพื้นที่กรุงเทพฯ ในส่วนที่ กทม. รับผิดชอบดำเนินการ โดยได้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติในย่านแหล่งท่องเที่ยว แหล่งวัฒนธรรม ย่านธุรกิจการค้า หน้าห้างสรรพสินค้า แหล่งชุมชนสถานีรถไฟฟ้า สะพานลอยคนข้าม งดการให้เงินขอทาน ตามแนวคิด “หยุดให้ = หยุดขอทาน“ และให้ทราบว่า การขอทานเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559
นางสาวพิมพ์จุฑา สกุนสิทธิ์ธาดา ผู้อำนวยการเขตวัฒนา กทม. กล่าวถึงการจัดระเบียบผู้ค้าในพื้นที่ว่า สำนักงานเขตฯ ได้สำรวจและจัดทำฐานข้อมูลผู้ค้าหาบเร่แผงลอยจำนวน 67 ราย บริเวณถนนสุขุมวิทซอย 1 - 21 (แยกนานา - แยกอโศก) โดยให้ตั้งวางจำหน่ายและขายสินค้าชิดแนวด้านในขอบหน้าอาคาร หรือบริเวณขั้นบันไดของอาคาร ส่วนใหญ่ในช่วงเวลากลางคืนจำหน่ายสินค้าประเภทเสื้อผ้าและของใช้เบ็ดเตล็ดทั่วไป โดยกำหนดเงื่อนไขไม่ให้ตั้งวางรุกล้ำทางเท้า ทำให้กีดขวางทางสัญจรของประชาชนและจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนจะพิจารณาให้ยกเลิกการทำการค้าทันที
ขณะเดียวกันสำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่กวดขันคนไร้บ้านและขอทานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ทั้งหมด 96 ครั้ง (ลงพื้นที่เดือนละ 8 ครั้ง ทุกวันจันทร์และศุกร์) พบคนไร้บ้านและขอทานรวม 200 คนซึ่งจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ พ.ศ.2569 และหากพบคนไร้บ้านและคนขอทานที่เป็นผู้สูงอายุ คนพิการ สำนักงานเขตฯ จะสอบถามความต้องการให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือและประสาน พม. เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบและให้การช่วยเหลือต่อไป ส่วนกรณีผู้ค้าต่างด้าวลักลอบเร่ขายสินค้า ซึ่งเป็นอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่เทศกิจได้ตรวจตรากวดขันพื้นที่บริเวณตั้งแต่ซอยสุขุมวิท 1-21 มาตลอดต่อเนื่องและจับกุม 35 ราย โดยนำตัวส่งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและกล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินีและ สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจออกตรวจตรา กวดขันและเฝ้าตรึงพื้นที่ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนออกเป็น 3 รอบ ได้แก่ ช่วงกลางวันระหว่างเวลา 06.00 -17.00 น. 5 นาย ช่วงกลางคืนระหว่าง 17.00 – 24.00 น. 4 นาย และระหว่างเวลา 24.00 – 06.00 น.(วันรุ่งขึ้น) 2 นาย พร้อมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) 5 จุด ประกอบด้วยบริเวณปากซอยสุขุมวิท 5 บริเวณปากซอยสุขุมวิท 7 บริเวณปากซอยสุขุมวิท 7/1 บริเวณปากซอยสุขุมวิท 11/1 และบริเวณปากซอยสุขุมวิท 13 เพื่อสอดส่องและดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากภาคเอกชนผู้ประกอบการบริเวณสุขุมวิทในการติดตั้ง
นายบำรุง สำเนียงงาม ผู้อำนวยการเขตคลองเตย กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการโครงการสุขุมวิทโมเดล โดยบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ กทม. กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พม. และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายและกวดขัน เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรม การจราจร หาบเร่แผงลอย คนต่างด้าวผิดกฎหมาย และการจำหน่ายสิ่งของผิดกฎหมาย เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวบริเวณถนนสุขุมวิท ตั้งแต่แยกเพลินจิตถึงพร้อมพงษ์
นอกจากนี้ สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ พม.ออกตรวจสอบและกวดขันจับกุมตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 โดยดำเนินการร่วมกัน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง พร้อมทั้งจัดชุดสายตรวจเทศกิจร่วมกับ สนท. โดยออกตรวจตราตรวจสอบกวดขันผู้ค้า โดยเฉพาะต่างด้าวที่ลักลอบนำรถเข็นมาจำหน่ายสินค้าเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง วันละอย่างน้อย 4 รอบ หากพบผู้ค้าที่ลักลอบจะดำเนินการจับกุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ในพื้นที่ เพื่อส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และยึดอายัดสิ่งของที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 รวมทั้งได้ดำเนินการร่วมกับสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมระบบ AI เพื่อตรวจจับผู้กระทำความผิดฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าในพื้นที่ 2 จุด ได้แก่ สุขุมวิทซอย 20 และสุขุมวิทซอย 30 และจะติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มบริเวณถนนพระรามที่ 4 และจัดชุดสายตรวจเทศกิจดำเนินการกวดขันอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันอย่างน้อยวันละ 4 รอบ
