In Global

จีนมุ่งปรับสมดุลอุปสงค์-อุปทานปลดล็อก ศักยภาพการบริโภค



ปักกิ่ง, 4  ธ.ค. (ซินหัว) - จีนเปิดตัวแผนงานเชิงรุกเพื่อปรับสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมุ่งปลดปล่อยศักยภาพของตลาดขนาดใหญ่พิเศษของประเทศและรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก

แผนงานดังกล่าว จัดทำโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ร่วมกับอีก 5 หน่วยงาน มุ่งเน้นการส่งเสริมภาคการบริโภคใหม่ การยกระดับพื้นที่ชนบท และการเพิ่มปริมาณสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่อุปกรณ์กีฬาฤดูหนาวไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและผู้สูงอายุ

แผนงานดังกล่าว เน้นการประสานการขยายอุปสงค์ภายในประเทศควบคู่กับการปฏิรูปโครงสร้างด้านอุปทาน โดยคาดว่าการบริโภคจะมีส่วนสนับสนุนต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงภายในปี 2030 

เซี่ยหยวนเซิง รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ระบุว่าปัจจุบัน สินค้าคุณภาพสูงมีราคาสูงขึ้น และการสร้างความสมดุลให้อุปสงค์และอุปทานเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพการบริโภค

จีนคาดว่า ภาคการบริโภคจะมีมูลค่า 3 ล้านล้านหยวน (ราว 13.5 ล้านลานบาท) ภายในปี 2027 ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ ยานยนต์เชื่อมต่ออัจฉริยะ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ขณะเดียวกัน จะมีกลุ่มสินค้าร้อนแรงมูลค่า 1 แสนล้านหยวน (ราว 4.5 แสนล้านบาท) ถึง 10 กลุ่ม อาทิ ผลิตภัณฑ์เด็ก อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ เครื่องสำอาง อุปกรณ์ออกกำลังกาย และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง

หลิวเซี่ยงตงจากศูนย์แลกเปลี่ยนเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีน (CCIEE) ระบุว่า การปรับปรุงความสอดคล้องระหว่างอุปสงค์กับอุปทานจะช่วยขับเคลื่อนการยกระดับอุตสาหกรรม สร้างวัฏจักรเชิงบวกที่อุปสงค์ใหม่ก่อให้เกิดอุปทานใหม่ และทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างการบริโภค การลงทุน และการผลิต

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระยะ 5 ปี (2026-2030)  ระบุว่า การกระตุ้นการบริโภคกลายเป็นนโยบายสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับปี 2025 และปีต่อๆ ไป โดยจีนมุ่งมั่นเพิ่มสัดส่วนการบริโภคของครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และเสริมสร้างอุปสงค์ภายในประเทศให้เป็นกลไกหลักของการเติบโต

การบริโภคยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจจีน ในช่วงสามไตรมาสแรก (มกราคม-กันยายน) ของปี 2025 นี้ รายจ่ายเพื่อการบริโภคขั้นสุดท้ายมีสัดส่วนในการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนร้อยละ 53.5 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 44.5 ในปี 2024 

ขณะที่รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาตรการต่างๆ ทั้งการขยายโครงการแลกเปลี่ยนทางการค้า การเพิ่มสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค และการสนับสนุนการจ้างงานที่เข้มแข็งขึ้นเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย เป็นต้น

ความพยายามเหล่ามีผลเป็นที่ประจักษ์ เห็นได้จาก โครงการเก่าแลกใหม่ได้กระตุ้นยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า และรถยนต์พลังงานใหม่ จนมียอดรวมกว่า 2.4 ล้านล้านหยวน (ราว 10.8 ล้านล้านบาท) ในช่วงสิบเดือนแรกของปี ส่วนยอดขายปลีกระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคม ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบปีต่อปี 

(ที่มา: https://www.xinhuathai.com/silkroad/546270_20251204 , https://en.imsilkroad.com/p/348524.html)

ภาพประกอบข่าว
(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้คนจับจ่ายซื้อของที่ถนนจงโหลว เมืองไท่หยวน มณฑลซานซีทางตอนเหนือของจีน วันที่ 29 ต.ค. 2025)