In News

ขรก.-ปชช.5จังหวัดออกมาแสดงพลัง ร่วมป้องกันสถาบันชาติ-ศาสน์-กษัตริย์



เหล่าข้าราชการ วิสาหกิจ ประชาชนในหลายจังหวัด อาทิ พังงา ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร อุดรธานีและพัทลุง ต่างออกมาแสดงออกถึงจุดยืนคือปกป้องสถานบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ใส่เสื้อเหลืองแสดงสัญญาลักษณ์แสดงความถึงความจงรักภักดี

พังงา-กลุ่มปกป้องสถาบันฯอำเภอทับปุด ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ดำเนินการต่อกลุ่มจาบจ้วงสถาบัน ผ่านนายอำเภอทับปุด

กลุ่มปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อำเภอทับปุด จ.พังงา นำโดย นายวิสุทธิ์ ทองเจิม กำนันตำบลบางเหรียง อ.ทับปุด พร้อม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่อำเภอทับปุด ที่เทิดทูลสถาบัน ร่วมกลุ่มกันบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอทับปุด จำนวนกว่า 500 คน พร้อมใจใส่เสื้อเหลือง และ ถือพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 9 พระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 10 ธงชาติไทย ธงตราสัญลักษณ์ในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมโบกธงถวายความจงรักภักดี

ซึ่งทางนายวิสุทธิ์ ทองเจิม กำนันตำบลบางเหรียง อ.ทับปุด จ.พังงา ยื่นหนังสือเรียกร้องดำเนินการแก่กลุ่มคณะจาบจ้วงเบื้องสูง เป็นการไม่เหมาะสม ต่อ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทาง นายมนต์วิทย์ โชติอัษฏายุธ นายอำเภอทับปุด โดยทางกลุ่มปกป้องสถาบัน ได้ร่วมเข้าแถวร้องเพลงชาติไทย ก่อนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และถวายสัตย์ปฏิญาณปกป้องสถาบันกษัตริย์ เป็นการแสดงออกถึงความเคารพและจงรักภักดีต่อ สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ได้ติดแอดแทค เชิญชวน ประชาชน สวมใส่เสื้อเหลือง รวมตัวแสดงพลังในการปกป้องสถาบันตามวันและเวลาที่กำหนดทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดพังงา

ต่อมา เมื่อเวลา17.30 น. ที่บริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ศาลากลางจังหวัดพังงาหลังเก่า มีประชาชนทุกวัยรวมถึงคนพิการสวมใส่เสื้อสีเหลืองกว่า700 คน เดินทางมาร่วมประกาศเจตนารมณ์ปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยเลือดเนื้อและชีวิต โดยร่วมกันร้องเพลงชาติในเวลา 18.00 น.และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีมหาราชา ซึ่งมีนางกันตวรรณ ตันเถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพังงา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาเข้าร่วมในการประกาศปกป้องสถาบันในครั้งนี้ด้วย และทั้งหมดมีการประกาศว่าจะยกระดับการแสดงพลังครั้งต่อไปที่ศูนย์ราชการจังหวัดพังงา เพราะทุกคนรับไม่ได้กับพฤติกรรมของกลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองและจาบจ้วงสถาบัน

     ขณะที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอทับปุด หน้าที่ว่าการอำเภอท้ายเหมือง และที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า ได้มีประชาชนเป็นจำนวนมากออกมาร่วมแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีพร้อมประกาศปกป้องสถาบัน และนัดรวมตัวอีกครั้งในช่วงเย็น ของวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ที่บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดพังงา

ประจวบคีรัขันธ์-ชาวอำเภอสามร้อยยอด กว่า 1,500  คน ร่วมแสดงพลังปกป้องสถาบัน 

วันที่ 23 ตุลาคม 2563  ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าที่ว่าการอำเภอสามร้อยยอด  ตำบลศิลาลอย  อำเภอสามร้อยยอด  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์   ชาวอำเภอสามร้อยยอด กว่า 1,500  คน  ทั้งข้าราชการ  กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  พ่อค้า  ประชาชน  ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ 

โดยประชาชนทั่งไปต่างพร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลือง  แสดงเจตนารฒณ์ของประชาชนในการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์  ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมราชบพิตร  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร  มหาวชิราลงกรณ  พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา  พัชรสุธาพิมลลักษณ  พระบรมราชินี  และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์  ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า

โดยผู้ร่วมกิจกรรมทั้งหมดได้ร่วมกันร้องเพลงชาติ  เพลงสรรเสริญพระบารมี  เพลงอยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี  และร่วมกันโบกธงชาติ  พร้อมตะโกนคำว่า “ทรงพระเจริญ”  และยังได้ชูป้ายพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9   และ 10  ด้วย

จากนั้นนายสิทธิศักดิ์  น้อยผลเพชร  ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสามร้อยยอด  ได้เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์  ว่าด้วยสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันกำลังประสบปัญหาวิกฤติด้านความมั่นคง  การเมือง  เศรษฐกิจ  สังคม  และที่สำคัญมีการเคลื่อนไหวที่พยายามเผยแพร่ข้อมูล แนวคิดที่ไม่ถูกต้อง  เพื่อยุยง  ปลุกปั่น ก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์   ทั้งการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์  การปราศรัยกล่าวให้ร้าย  สื่อโซเชี่ยวมีเดียมีการส่งต่อข้อมูลเชิงลบ  โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ที่มีการส่งต่อกันอย่างรวดเร็ว  จนเกิดความคลาดเคลื่อน และเข้าใจผิด  ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ

ดังนั้นชมรมกำนัน ผู้ใหญ่ อำเภอสามร้อยยอด จึงขอแสดงจุดยืนตามสถานการณ์ปัจจุบันของบ้านเมือง

1.ขอให้ยุติการแสดงกริยาจาบจ้วง ดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ประมุขของไทย และบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และไม่ปรารถนาให้บุคคลใดกระทำกริยาดูหมิ่น ฉุดสถาบันลงมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง

2. ขอให้การชุมนุมดำเนินการซึ่งเป็นไปตามสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่ไม่เคารพกฎหมายและสิทธิ เสรีภาพของบุคคลอื่น รวมถึงสร้างความแตกแยกภายในชาติ

3. ชาวอำเภอสามร้อยยอดขอแสดงจุดยืนจะปกป้องสถาบันหลักของประเทศ ได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยเลือดเนื้อและชีวิต และขอให้สถาบันหลักของชาติ คงอยู่กับประเทศชาติต่อไป

จากนั้นนายสิทธิศักดิ์ และตัวแทนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้ยื่นหนังสือแถลงการณ์ของชาวสามร้อยยอด ต่อนายพิทักษ์ พิศสิริวัฒนสุทธิ์ นายอำเภอสามร้อยยอด และยุติการชุมนุม โดยแยกย้ายกันเดินทางกลับโดยเหตุการณ์เป็นไปด้วยความสงบ และเรียบร้อย

สมุทรสาคร-ชมรมเพื่อน 4 ภาคจังหวัดสมุทรสาครแสดงพลังปกป้องสถาบันกษัตริย์

 วันนี้ (23 ตุลาคม 2563)  เวลา 17.45 น.  ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านมหาชัยเมืองใหม่ ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร  ชมรมเพื่อน 4 ภาคจังหวัดสมุทรสาคร และกลุ่มประชาชน  จำนวน 200   คน  ได้สวมใส่เสื้อสีเหลือง พร้อมนำธงชาติไทย,ธงตราสัญลักษณ์ ว.ป.ร อักษรพระปรมาภิไธย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร, พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร, พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันสําคัญของชาติ  โดยในเวลา 18.00 น. ได้ร่วมกันร้องเพลงชาติ  ผู้แทนจาก 4 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ กลาง ใต้ อีสาน ขึ้นพูดแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันบนเวที จากนั้นอ่านแถลงการณ์ และ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี  เป็นอันจบกิจกรรม 

          แถลงการณ์มีว่า  ชมรมเพื่อน 4 ภาค และคณะพี่น้องทุกคนที่มาร่วมชุมนุมในวันนี้ เรามีความรู้สึกปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่เราได้เกิดบนแผ่นดินไทย อันสงบสุขร่มเย็นมานับหลายร้อยปี โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งประเทศ ในอดีตการปกป้องเป็นผู้นำทัพรบศึก ยอมเสียเลือดเสียเนื้อเพื่อรักษาแผ่นดินไว้ให้พวกเราได้ยืนได้อยู่จนทุกวันนี้ มาถึงวันนี้ ประเทศไทยของเรา 200 กว่าปีของกรุงรัตนโกสินทร์มีพระมหากษัตริย์สืบทอดราชบังลังถึง 10 รัชกาล พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ทรงมีความห่วงใยต่อพสกนิกรของพระองค์ท่าน ทรงดูแลทุกข์สุขทั่วทุกหย่อมหญ้า เพื่อให้อาณาประชาราษฎร์ได้อยู่ดีกินดี มีความสุขความอบอุ่นโดยทั่วกันและยังทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองด้วยดีมาโดยตลอด  กรุงรัตนโกสินทร์ 9 รัชสมัยแห่งความผาสุขร่มเย็นของชาวไทยภายใต้พระบรมโพธิสมภารของทุกพระองค์ มาถึงรัชสมันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 เราได้เห็นพฤติกรรมของกลุ่มคนบางกลุ่มที่คุกคามละเมิด จาบจวง ต่อพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เราขอประมาณการกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้ที่กระทำความไม่ดีงามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

อุดรธานี-ชาวอุดรฯออกมาแสดงพลังปกป้องสถาบันคนรุ่นใหม่ เผย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะตั้งแต่เกิดมา 3 สิ่งนี้จะอยู่กับประเทศไทย

วันที่ 23 ตุลาคม 2563 เวลา 16.00 น.  กลุ่มคนรักสถาบัน ได้ใช้ช่องทางการสื่อสารทางสื่อโซเชียล ชื่อเพจ “คนอุดรรักในหลวง” นัดกันสวมเสื้อเหลือง สวมหน้ากากอนามัย  รวมตัวกันเพื่อแสดงพลังปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่ลานน้ำพุ สนามทุ่งศรีเมือง เขตเทศบาลนครอุดรธานี  มีนายดนุช ตันเทอดทิตย์ อดีตแกนนำคนเสื้อเหลืองอุดรธานี เป็นแกนนำ มีตำรวจ ปกครอง หน่วยข่าวกรอง มารักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กลุ่มผู้ชุมนุม

โดยผู้ร่วมชุมนุม ได้ลงชื่อแสดงความจงรักภักดีและปกป้องสถาบัน ทุกคนได้ถือธงชาติ พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงทุกรัชกาล และธงธงสีเหลือง ตราพระปรมาภิไธยประจำรัชกาลที่ 10   โดยมีผู้ขึ้นกล่าวกับผู้ชุมนุม ว่าถึงเวลาที่จะต้องออกมาปกป้องสถาบัน โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ถูกเยาวชน นักเรียน นักศึกษา บางกลุ่มออกมาจาบจ้วง แต่ผู้ใหญ่อย่างคนรักสถาบันจะไม่โกรธ ไม่ถือสา แต่จะออกมาแสดงพลังปกป้องสถาบันหลักของชาติ ด้วยความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

นายดนุช ตันเทิดทิตย์  อดีตแกนนำคนเสื้อเหลืองอุดรธานี เปิดเผยว่า กลุ่มนี้ใช้ชื่อว่า “กลุ่มอุดรธานีรักในหลวง” ไม่ได้มาสร้างความขัดแย้ง แต่มาแสดงความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่มีการใช้คำรุนแรง ไม่มีคำหยาบ ไม่มีการแบ่งข้าง เรามาแสดงความรัก ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะวันนี้เป็นวันปิยะมหาราช ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงมีบุญคุณต่อประเทศชาติ มีการเลิกทาสอย่างสงบ เราได้กุศลผลบุญตรงนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่จะมาแสดงพลัง เพื่อไม่เพิกเฉยต่อสถานการณ์ 

น.ส.หมูทอง  อายุ 25 ปี ชาวอุดรธานี  ในฐานะคนรุ่นใหม่  บอกว่า วันนี้ตนมาแสดงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะตั้งแต่เกิดมา 3 สิ่งนี้จะอยู่กับประเทศไทย และอยู่คู่บ้านคู่เมืองมาตลอด ตนเกิดมาในแผ่นดินรัชกาลที่ 9 และ 10  เห็นพระองค์ทรงงานมาตลอด สถาบันกษัตริย์ค้ำชู ชาติ ศาสนา ถ้าไม่มี 3 สิ่งนี้ชาติไทยอาจจะล่มสลาย เหมือนหลวงตามหาบัวบอกว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะทำให้ประเทศไทยอยู่ต่อไปได้  ส่วนการที่มีกลุ่มที่ออกมาเรียกร้อง 3 ข้อ ถือเป็นสิทธิ ซึ่งในความคิดส่วนตัว เป็นการออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย เพราะอาจจะไม่ชอบรัฐบาล อยากได้รัฐธรรมนูญใหม่ ส่วนการปฏิรูปสถาบัน ตนไม่เห็นด้วย เพราะไม่สมควรจะดึงสถาบันลงมา เพราะทุกพระองค์ทรงงานเหนื่อย พระองค์คงจะเสียพระทัยมาก ตนอยากให้คนไทยรักกัน

ทั้งนี้ผู้ชุมนุมได้ร่วมกันร้องเพลง “คำสัญญาต้นกล้าของแผ่นดิน” และร้องเพลงชาติในเวลา 18.00 น. พร้อมกับส่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ก่อนยุติการชุมนุม

นายกฤษดา  จันทร์ดวง/อุดรธานี

พัทลุง-ประชาชนจังหวัดพัทลุงทุกอำเภอใส่เสื้อเหลืองร่วมแสดงพลังปกป้องสถาบัน จากกลุ่มจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงรวมทั้งอ่านแถลงการณ์แสดงถึงจุดยืนไม่ให้มีการจาบจ้วงให้ร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

 ที่บริเวณหน้าสนามศาลากลางจังหวัดพัทลุง ได้มีมวลชนจากทุกอำเภอของจังหวัดพัทลุงใส่เสื้อเหลืองเดินทางมารวมตัวกันรวมพลังปกป้องสถาบัน จำนวน  10,000 กว่าคน โดยทั้งหมดมาด้วยหัวใจไม่มีใครเป็นแกนนำด้วยการถือ พระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และที่ 10 และสมเด็จพระบรมราชินี ร่วมกันเดินขบวนจากบริเวณสามแยกท่ามิหรำ ถนนราเมศวร์ว่า ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง  มารวมตัวกันที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่อแสดงพลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ถูกกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งได้ออกมาจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีนายปฏิวัติ มนตรี กำนันตำบลนาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ได้อ่านคำแถลงการณ์ ว่าตามที่มีกลุ่มคนพยายามจาบจ้วง บ่อนทำลาย และล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เทิดทูนและรักยิ่งของปวงชนชาวไทย ซึ่งเป็นการเหยียบย่ำหัวใจของประชาชนผู้จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงพยายามในการสร้างความแตกแยกในสังคมไทยพวกเราประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงในฐานะราษฎรภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ขอยืนหยัดและแสดงพลังเพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์พวกเราขอแสดงจุดยืนในการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและยึดมั่นที่จะปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์เพื่อธำรงไว้ซึ่งความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ

และขอเรียกร้องให้ยุติกรกระทำอันไม่เหมาะสมดังกล่าวและ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์  จากนั้นได้ยื่นหนังถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง โดยมีนายนพสิทธิ์  อุดมสุวรรณกุล ปลัดจังหวัดพัทลุงเป็นตัวแทนได้เดินทางมารับหนังสือจากผู้ชุมนุมต่างพร้อมใจชูพระบรมฉายาลักษณ์และโบกธงชาติไทย และผู้ร่วมชุมนุมได้ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมทั้งได้กล่าวปฏิญาณตนว่า จะรักษา ชาติ ศาสน์  กษัตริย์  ด้วยชีวิต จากนั้นจึงได้สลายตัว