Authority & Harm
ปปช.ปราจีนชี้มูลความผิดผู้บริหารท้องถิ่น รองนายกฯเมืองกับพวก6คนทำผิดกม.
ปราจีนบุรี-คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดรองนายกเทศบาลเมืองปราจีนบุรีกับพวกรวม6คนฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยควบคุมอาคาร
เมื่อเวลา16.50 น.วันที่ 9 ธ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี พบเพจสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดปราจีนบุรีระบุว่า ... นางสาวน้ำฝน ศาสตร์พิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี แถลงข่าวว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเรื่องที่มอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจังหวัดปราจีนบุรีดำเนินการ ดังนี้

คณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวนกรณีกล่าวหานาย บ. รองนายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี และรักษาราชการแทนนายกเทศมนตรี เมืองปราจีนบุรี กับพวกรวม 6 คน ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม โดยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลที่ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานให้ระงับการก่อสร้าง ระงับการใช้อาคาร โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ผู้อื่นเสียหาย
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนได้ความว่า รองนายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี รักษาราชการ แทนนายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี มีคำสั่งแจ้งไปยังนาง ฉ. ให้ระงับการดัดแปลงอาคาร ตามมาตรา 40 (1) (กรณีที่กระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต) จนกว่าจะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และมีคำสั่งให้ นาง ฉ. ยื่นคำขอรับใบอนุญาตดัดแปลงอาคาร ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง เมื่อครบระยะเวลา ตามที่กำหนดไว้ในคำสั่ง นาง ฉ. ก็ไม่ได้มายื่นคำขอรับใบอนุญาตดัดแปลงอาคารต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ให้ถูกต้องครบถ้วน และยังได้ดำเนินการดัดแปลงอาคารเพิ่มเติมหลังจากที่ได้ระงับไปชั่วคราว
แต่เทศบาลเมืองปราจีนบุรีกลับไม่ดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลที่ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ให้ระงับการก่อสร้างถือเป็นการละเว้นไม่ดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ตามมาตรา 39 ทวิ มาตรา 40 (1) (2) มาตรา 41 มาตรา 42 ซึ่งได้กำหนดโทษไว้ตามมาตรา 67 และมาตรา 73 กำหนดให้ต้องมีการดำเนินคดีกับบุคคลผู้ขออนุญาตฯ ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ผู้กล่าวหา
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
1. การกระทำของนาย บ. ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๑ ในฐานะรองนายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี รักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี จากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและ พยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่าได้กระทำความผิดทางอาญาตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่มีมูลความผิดทางวินัย ฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือ สวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่หรือ มีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.๒๔๙๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73
2. การกระทำของนาย ส. ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๒ ในฐานะปลัดเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ไม่มี มูลความผิดทางอาญา ไม่มีเจตนาในการกระทำความผิดทางอาญาโดยไม่ปรากฏว่ามีการปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต แต่มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐาน ไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือ นโยบายของรัฐบาล ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดปราจีนบุรี เรื่อง หลักเกณฑ์และ เงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย พ.ศ.2558 ลงวันที่ 11 มกราคม 2559 ข้อ 10 วรรคหนึ่ง 3. การกระทำของนาย ส. ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๓ ในฐานะรองปลัดเทศบาลเมือง นาย ว.
ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๔ ในฐานะผู้อำนวยการกองช่าง นาย ณ. ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๕ ในฐานะวิศวกรโยธาชำนาญการ และนาย ป. ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 ในฐานะนายช่างโยธาชำนาญงาน ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติ ตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้ เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดปราจีนบุรี เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย พ.ศ. 2558 ลงวันที่ 11 มกราคม 2559 ข้อ 10 วรรคสอง
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับผู้ถูกกล่าวหา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (2) มาตรา 98 และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้ง ทราบ
จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน “การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด …
มานิตย์ สนับบุญ -ข่าว /ณัฐนันท์- ภาพ/ ปราจีนบุรี
