Authority & Harm
ตร.รวบแล้ว!!หนุ่มวงหมอลำวิ่งราวทรัพย์ อ้างเจอพิษโควิดหนี้สินรุงรัง
สกลนคร-รวบแล้วหนุ่มวงหมอลำวิ่งราวทรัพย์ร้านทองกลางเมืองสกลนคร อ้างโควิดหนี้สินรุงรัง
จากกรณีเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 11.10 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจากวิทยุ 191 สภ.เมืองสกลนคร ว่าที่ร้านทองต้นทองเยาวราช ถ.สุขเกษม ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร มีเหตุวิ่งราวทรัพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกไปตรวจสอบเหตุดังกล่าว เมื่อไปถึงพบผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของร้านทอง ได้แจ้งข้อมูลกับตำรวจชุดจับกุมถึงรูปพรรณสันฐานของคนร้ายที่ถูกวิ่งราวทรัพย์ไปคือ สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น จึงขอเข้าไปดูกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 20 ปี ลักษณะการแต่งกาย ใส่เสื้อสีดำแขนยาว/สวมใส่กางเกงยีนส์ขายาวสีกลมท่า/และใส่รองเท้าผ้าใบสีดำขอบขาวพร้อมทั้งใส่แว่นตาใส เมื่อตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดจากสถานประกอบการข้างๆทราบว่า รถยนต์คันที่คนร้ายขับมาใช้ก่อเหตุเป็นรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น City สีน้ำตาล ทะเบียน กก 3276 บึงกาฬ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมรวบรวมหลักฐานจากผู้ครอบครองรถ คาดว่าคนร้ายเมื่อก่อเหตุเสร็จคงขับรถยนต์คันดังกล่าวกลับไปที่พื้นที่เขตอำเภอวาริชภูมิ ต่อมา วันที่ 7 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสกลนคร ออกสืบสวนและติดตามคนร้ายต่อ ทราบว่ารถคันก่อเหตุนั้นเป็นของผู้หญิงรายหนึ่งรับว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของตนจริง แต่ตนได้ขายรถยนต์คันดังกล่าวไปให้กับพระครูรูปหนึ่งต่างหมู่บ้านในราคา 30,000 บาท (ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์กัน) ซึ่งตนได้ขายไปนานกว่า 2 ปีแล้ว และทราบว่ารถคันดังกล่าวมี นายพินิจหรือไมค์ มังคะรัตน์ อายุ 25 ปี ที่อยู่ 38 ม.16 ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ซึ่งปกติรถยนต์คันดังกล่าวมีเพียง นายพินิจหรือไมค์ มังคะรัตน์ ใช้รถคันดังกล่าวเป็นประจำในกิจของวัดแห่งหนึ่งที่ บ.หนองลาด ม.9 ต.หนองลาด อ.วาริชภูมิ
เมื่อทราบดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงออกตรวจสอบบริเวณแถวๆวัดตามที่รับแจ้ง ปรากฏว่าพบ นายพินิจหรือไมค์ มังคะรัตน์ กำลังเดินอยู่บนถนนสาธารณะบ้านหนองลาด เมื่อ นายพินิจหรือไมค์ฯ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นายพินิจหรือไมค์ฯ มีท่าทางตื่นตกใจและกำลังจะเดินหลบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วิ่งไปเข้าควบคุมตัว นายพินิจหรือไมค์ฯ ไว้จากนั้นจึงได้สอบถาม นายพินิจหรือไมค์ฯ รับสารภาพว่า ตนเป็นบุคคลตามภาพและก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์จากร้านทองต้นทองเยาวราชจริง โดยใช้รถยนต์เก๋งเป็นรถคันก่อเหตุ เมื่อก่อเหตุเสร็จนำสร้อยคอทองคำ หนัก 2บาท จำนวน 1 เส้น ขายต่อที่ร้านทองใน อ.พังโคน จ.สกลนคร แล้วนำรถคันดังกล่าวไปจอดทิ้งไว้ภายในวัด เงินจากการขายสร้อยคอทองคำราคา 53,300 บาท นำไปใช้หนี้สินจนหมด สาเหตุเนื่องจากสภาวะเศษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้กิจการหมอลำ ซึ่งตนเป็นเจ้าของอยู่ไม่มีรายรับเข้ามา ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา เมื่อไม่มีทางออกจากเจ้าหนี้มาทวงเงินคืน จึงได้ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัว นายพินิจหรือไมค์ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.