เขมรยกธงขาวส่งหนังสือถึงกลาโหมไทย ขอเจรจาหยุดยิงแล้วตามกลไกGBC

วันที่ 24 ธันวาคม 2568 - 20:37 น.

กรุงเทพฯ-กลาโหมกัมพูชา ส่งหนังสือถึงกลาโหมไทย ขอเจรจาหยุดยิงแล้ว ตามกลไก GBC ไทยย้ำต้องพิสูจน์ความจริงใจตาม 3 เงื่อนไข และ“รมว.กห.” ชี้ชัด 5 พฤติกรรมกัมพูชาละเมิดกติกาโลก วางทุ่นหลังเซ็นสัญญา ใช้พลเรือนเป็นโล่ ยิง BM-21 ใส่ไม่หยุด

เมื่อเวลา 18.33 น. วันที่ 24 ธ.ค. 2568 กองบัญชาการกองทัพไทย ได้เผยแพร่เอกสารจากกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กัมพูชาส่งหนังสือทางการขอเจรจาหยุดยิงตามกลไก GBC ไทยย้ำต้องพิสูจน์ความจริงใจตาม 3 เงื่อนไขหลัก

ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้แถลงจุดยืนต่อเงื่อนไขการหยุดยิง บริเวณพื้นที่ชายแดน โดยระบุให้ฝ่ายกัมพูชาต้องแสดงเจตจำนงผ่านการปฏิบัติ 3 ประการ ได้แก่ การประกาศหยุดยิงก่อน การยุติการใช้กำลังอย่างต่อเนื่อง และความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างเป็นรูปธรรมนั้น

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้มีหนังสืออย่างเป็นทางการถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย เพื่อแสดงความประสงค์ในการเจรจาหยุดยิง ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญภายใต้กรอบเงื่อนไขที่ไทยกำหนด

ทั้งนี้ จากการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา นำไปสู่การจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ตามข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 ธันวาคม 2568 ณ จังหวัดจันทบุรี

โดยฝ่ายไทยมี พลเอก ณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร และฝ่ายกัมพูชา มี Major General Nhem Boraden เป็นหัวหน้าคณะการประชุมฯ

“รมว.กห.” ชี้ชัด 5 พฤติกรรมกัมพูชาละเมิดกติกาโลก

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยก่อนการประชุม GBC ไทย–กัมพูชา วันที่ 24 ธ.ค. ที่ จันทบุรี ย้ำชัดการประชุมครั้งนี้เป็นระดับฝ่ายเลขานุการ หากการหารือไม่เป็นไปตามกรอบของไทย จะไม่ลงนามใด ๆ พร้อมชี้ว่า กัมพูชา ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

5 พฤติกรรมละเมิดกติกาโลกที่พบชัด

1. วางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่ หลังลงนามปฏิญญาร่วม ผิดอนุสัญญาออตตาวา

2. ใช้โบราณสถานเป็นที่มั่นทางทหาร

3. ใช้ชุมชนเป็นฐานยิงอาวุธหนัก BM-21

4. ใช้อาคารพลเรือนและแหล่งอาชญากรรมเป็นฐานทหาร

5. ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์

รมว.กลาโหม ระบุ ไทยดำเนินการเป็นขั้นตอน เจรจา → หยุดยิง → ตอบโต้ตามความจำเป็น ขณะนี้เข้าสู่ระยะที่ 3 หลังพิสูจน์แล้วว่าฝ่ายกัมพูชา ขาดความจริงใจ ยังยิงเข้ามาหลายพื้นที่ แม้ฝ่ายการเมืองจะอ้างพร้อมหยุดยิง แต่ผู้นำระดับสูงกลับประกาศ พร้อมรบยืดเยื้อ

ไทยยืนยันยึดหลัก กฎหมายระหว่างประเทศ และ สิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ มาตรา 51 แม้ประชาคมโลกไม่ยืนข้างอย่างชัดเจน แต่ก็ ไม่มีประเทศใดปฏิเสธข้อเท็จจริง เรื่องการวางทุ่นระเบิดในเขตไทย กฎหมายคือที่พึ่งเดียวของไทย

การประชุม GBC ที่จันทบุรีเลือกจัดในพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากบางแนวชายแดนยังมีการปะทะ ขอประชาชนร่วมสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่คณะเจรจา แยกแยะ การรบ ออกจาก การเจรจา และเชื่อมั่นว่าคณะ GBC จะ ปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ชาติอย่างถึงที่สุด

ถก GBC ไทย-กัมพูชา วันแรกระดับเลขาฯ จบไวใน 35 นาที นัดคุยต่อ 25- 27 ธ.ค.© Thansettakij

บรรยากาศชายแดนไทย-กัมพูชา มีการประชุม GBC ระดับเลขานุการตามนัดหมาย ณ ด่านถาวรบ้านผักกาด จ.จันทบุรี เมื่อช่วงเย็นวันนี้(24 ธันวาคม 2568) โดยการหารือรอบแรกจบลงอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 35 นาที

เมื่อเวลาประมาณ 16.25 น. คณะผู้แทนกัมพูชานำโดย พลตรีแญม โบราเดน รองหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้เดินทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ระดับเลขานุการโดยมี พลเอกณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร ในฐานะเลขานุการ GBC ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุม

ไทยยื่น3ประเด็นหลัก

การประชุมครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากใช้เวลาในการหารือเพียง 35 นาที ก็เสร็จสิ้นลงในเวลา 17.00 น. โดยฝ่ายไทยยึดถือแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนว่าจะ ไม่ลงนามในข้อตกลงที่คลุมเครือ

และคาดว่ามีการหารือใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่:

• ฝ่ายกัมพูชาต้องยุติการยิงโดยทันทีและต่อเนื่อง
• การหยุดยิงต้องเกิดขึ้นจริงและมีผู้สังเกตการณ์ยืนยันการปฏิบัติ
• ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน,

นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังมีประเด็นสำคัญเรื่องการขอให้กัมพูชาเลิกใช้โบราณสถานและอาคารของประชาชน รวมถึงอาคารของแก๊งสแกมเมอร์เป็นฐานที่ตั้งทางทหาร

จับตาท่าที"กัมพูชา" 

แม้การประชุมจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่มีรายงานว่าบรรยากาศในช่วงเริ่มต้นมีการเล่นแง่ทางการทูตเล็กน้อย โดยฝ่ายกัมพูชารอให้ฝ่ายไทยเดินไปหาที่บริเวณกลางสะพานข้ามพรมแดนก่อน จึงจะยอมเดินทางเข้ามาสู่พื้นที่ประชุม

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม คณะเลขานุการฝ่ายไทยได้เดินทางต่อไปยังชาเทรียม กอล์ฟ รีสอร์ท สอยดาว เพื่อแถลงผลการหารือและเตรียมการสำหรับการประชุมในวันที่ 25-26 ธันวาคมต่อไป

หากการเจรจาในระดับเลขานุการลุล่วงด้วยดีและทั้งสองฝ่ายมีความจริงใจต่อกัน คาดว่าจะมีการลงนามใน ข้อตกลงหยุดยิงร่วมกัน ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศในวันที่ 27 ธันวาคม 2568 นี้

สำหรับบรรยากาศและสถานการณ์บริเวณด่านบ้านผักกาดล่าสุดยังคงเป็นไปด้วยความสงบ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ทหารพรานนาวิกโยธิน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ชายแดน