Health & Beauty
Bophieฟุ้ง!ยอดขาย100ล.แพลตฟอร์ม Amazon.com
กรุงเทพฯ-Bophie บริษัทผู้จำหน่ายแบรนด์สินค้าความงามและสุขภาพจากประเทศไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2561 เป็นผู้ส่งออกสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั่วโลก โดยเฉพาะ Amazon.com ที่เปิดตัวเพียงไม่นานก็ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 500 อันดับสินค้าขายดี หมวดสินค้าความงามและสุขภาพในปี พ.ศ. 2562
ประกาศเป้าหมายเพื่อกลายเป็นบริษัทมหาชนโดยมียอดขาย 1,000 ล้านบาทและมีแบรนด์สินค้ากว่า 30 แบรนด์ภายในปี พ.ศ. 2571 จึงเตรียมเฟ้นหาทีมงานคุณภาพจัดทัพทำงานแบบ Hybrid Working พร้อมรุกตลาดออนไลน์ทั่วโลก โดย Bophie เป็นผู้คิดค้นและสร้างสรรค์แบรนด์สินค้าความงาม และส่งออกไปยังต่างประเทศ นับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Koji White” บนแพลตฟอร์มออนไลน์อีคอมเมิร์ซต่างประเทศก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอดใน 4 ปีที่ผ่านมา โดยในสองปีแรกสามารถสร้างรายได้กว่า 16 ล้านบาท และในปีที่ 3 เพิ่มขึ้นมาเป็น 50 ล้าน และในปีที่ 4 นี้เองก็สามารถทำยอดขายได้ถึง 100 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาแบรนด์ก็ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นส่งผลให้สินค้าสามารถเติบโตได้อย่างดี
โดยแผนการเติบโตของบริษัทได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า ภายใน 7 ปีข้างหน้า จะพัฒนาสินค้าให้สามารถสร้างรายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า และเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อการเป็นบริษัทมหาชนต่อไป
สร้างทีมคุณภาพด้วยการทำงานแบบ Hybrid Working เพื่อการจัดทัพเตรียมพร้อมกับแผนการขยายตัวของบริษัทในอนาคต Bophie ประกาศสร้างทีม
รับสมัครบุคลากรเข้าทำงาน เพื่อเตรียมรุกตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลก โดยเน้นการทำงานแบบ
1. Flexibility มีความยืดหยุ่นในการทำงาน เพื่อส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
2. Hybrid Working จัดสรรเวลาทำงานที่ตอบโจทย์ในยุคดิจิทัล โดยสามารถเลือกเข้าทำงานที่ออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์ และทำงานที่บ้าน 2 วันต่อสัปดาห์
3. Sharing Ideas & Feedback เปิดให้ทุกคนสามารถแชร์ไอเดีย และการให้-รับความคิดเห็นได้อย่างตรงไปตรงมา
โดย คุณ ทรัพย์ เกียรติฐิตินันท์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงความตั้งใจที่จะเฟ้นหาบุคลากรคุณภาพเพื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตในครั้งนี้ว่า “ที่ผ่านมา 4 ปีเราเน้นการบริหารงานด้วย outsource เป็นหลัก แต่ตอนนี้สำหรับเป้าหมายที่จะทำให้บริษัทเติบโตขึ้นให้ได้ 10 เท่า เราจึงได้วางแผนกระบวนการทำงาน, การวางระบบและการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ผมพบว่าปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เราไปสู่เป้าหมายได้ คือ การสร้างทีมงานที่เข้มแข็งในแบบฉบับของเราเอง ซึ่งก็คือ BOPHIE Value เราให้คุณค่าหลักทั้ง 6 ประการ ดังนี้ Beyond, Ownership, Profitability, Harmony, Innovation และ Effectiveness ซึ่งปัจจุบันเรายังต้องการบุคลากรที่มีศักยภาพจำนวนมากเพื่อเข้ามาเสริมทีมให้แข็งแกร่งและพร้อมที่จะรองรับการเติบโตของบริษัทในอนาคต ปัจจุบันเรากำลังมองหาทีมงานที่เป็นคนรุ่นใหม่และมีทักษะทางด้านดิจิทัลรวมถึงคนที่มีประสบการณ์การทำงานเพื่อสร้างองค์กรที่มีความหลากหลายทางความคิด โดยให้ความสำคัญกับความเสมอภาคและการยอมรับความแตกต่างทางเพศ เพราะเราอยากให้ทุกคนได้ทำงานกับเราอย่างอิสระ จึงสร้างระบบการทำงานในแบบ Hybrid Working ที่สามารถเข้าออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์ ที่เหลือเป็น Work from Home และไม่ได้เข้มงวดเรื่องของเวลาทำงาน แต่จะมองในเรื่องของผลงานที่พนักงานทำได้เป็นหลักมากกว่า ซึ่งนอกจากจะเป็นเทรนด์ของการทำงานในอนาคตแล้ว เรายังเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นเมื่อให้เวลาและให้โอกาสพนักงานของเราได้ทำงานอย่างเต็มที่ และเป็นแรงจูงใจให้ทุกคนทำงานอย่างมีความสุขไปพร้อมๆกับการเติบโตของ Bophie และแม้ว่าจะผ่านพ้นวิกฤติ Covid-19 ไปแล้ว ความตั้งใจทั้งหมดนี้ก็จะยังคงเป็นนโยบายหลักของเราต่อไป”
เปิดออฟฟิศ Bophie บนพื้นที่ Co-working space ใจกลางเมืองกับบรรยากาศที่เอื้อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ด้วยวิสัยทัศน์ที่เล็งเห็นถึงความสาคัญของการสร้างคนทำงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี Bophie จึงเลือกพื้นที่ Co-working space ของ Justco @สามย่านมิดทาวน์ ที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ การเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT และยังมีสไตล์ตอบโจทย์ในการทำงานและสร้างสรรค์ เป็นพื้นที่สำหรับการทำงาน พร้อมข้อเสนอที่มอบให้พนักงานอย่างคุ้มค่า อาทิ
1. สปาประจำเดือน เพราะเราอยากให้ทีมงานของเราทุกคนมีช่วงเวลาในการผ่อนคลายการทำงาน และเป็นการดูแลสุขภาพกายและใจ
2. ประกันสุขภาพ, ประกันชีวิต, บริการทันตกรรม เพราะเราเล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพนับเป็นหัวใจหลักที่จะทำให้ทีมงาน สามารถทำงานได้อย่างคลายกังวล
3. ค่าตอบแทนที่คุ้มค่าต่อตำแหน่งงาน พร้อมด้วยโบนัสประจำปีตามผลประกอบการ
นอกจากนั้น Bophie ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพผลิตภัณฑ์สูงสุดเพื่อส่งมอบภูมิปัญญาแห่งนวัตกรรมความงามรวมถึงสุขภาพสู่ผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ภายใต้ของบริษัท Koji White เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้ทั้งกับใบหน้าและผิวกาย โดยเน้นผลลัพธ์ในเรื่องความกระจ่างใสเป็นหลัก ผลิตภัณฑ์ของเราทุกชิ้นจะไม่มีการทดลองกับสัตว์ ลดการใช้วัตถุดิบที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้บริโภค และใช้พืชเป็นส่วนผสมหลักในการผลิตสินค้า ในปีที่ผ่านเราได้เปิดตัวสินค้าใหม่ที่บรรจุภัณฑ์เป็นกระดาษลูกฟูกเพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพันธกิจของ Bophie ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
สำหรับด้านการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม CSR ที่ผ่านมา บริษัทได้บริจาคปัจจัยเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสภากาชาดไทย โรงพยาบาลจุฬาฯ ในการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 300,000 บาท และในปี 2561 ได้บริจาคเงินให้กับโรงเรียนบ้านวัดกกตาก จ.สุพรรณบุรี เพื่อสนับสนุนกิจกรรมด้านการศึกษาให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นจำนวน 100,000 บาท และเตรียมที่จะสานต่อแคมเปญ CSR ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในทุกๆ ปี ส่วนเรื่องของธรรมาภิบาล บริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างวัฒนธรรมองค์กรบนพื้นฐานของหลักบรรษัทภิบาลโดยให้ความสำคัญเรื่องการเปิดเผยและโปร่งใส โดยเฉพาะความถูกต้องของข้อมูลทางบัญชีและการเงิน ด้วยการนำโปรแกรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในทุกขั้นตอนการทำงาน ดังนั้นจึงมีความมั่นใจว่าบริษัทมีธรรมาภิบาลที่ดีและจะสามารถสร้างองค์กรที่แข็งแรงให้เติบโตต่อไปอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต
โดย คุณทรัพย์ เกียรติฐิตินันท์ กรรมการผู้จัดการ ได้ทิ้งท้ายถึงภาพรวมของการพัฒนาบริษัทในอนาคตต่อไปนับจากวันนี้ว่า “ถึงแม้บริษัทของเราเป็นบิวตี้โปรดักส์ก็จริง แต่ภายในการทำงานของเราจะเน้นการใช้เทคโนโลยีโดยเฉพาะการใช้แอปพลิเคชันต่างๆ ที่จะช่วยลดเวลาในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคนทำงาน ถึงแม้ตอนนี้บริษัทจะเน้นตลาดต่างประเทศเป็นหลัก แต่เราคาดการณ์ว่าในอีกประมาณ 3 ปีข้างหน้า เราอาจจะกลับมาเปิดตลาดในประเทศไทยด้วย
ทั้งนี้ Bophie เติบโตมาจากออนไลน์ จึงเน้นไปที่ตลาดออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งช่องทางการขายของเราในตอนนี้เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างชาติ โดยตลาดหลักตอนนี้เป็นอเมริกาและอังกฤษ และเราคิดว่ายังมีช่องทางในต่างประเทศที่ยังมีกลุ่มลูกค้าอยู่ซึ่งก็มีหลายประเทศที่ติดต่อเข้ามาเป็นตัวแทนในการเสนอช่องทางขาย เช่น กลุ่มสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เวียดนาม และในส่วนภาคยุโรปก็มีความสนใจในสินค้าของเรามากขึ้น จึงคิดว่าด้วยเทรนด์ตลาดต่อไปในอนาคต ช่องทางนี้ยังสามารถไปได้อีกไกล ที่เราจะเน้นการขยายตลาดให้ครอบคลุม marketplace ต่างๆ ทั่วโลกมากขึ้น และหลังจากการสร้างทีมให้พร้อมสรรพ เราก็จะสามารถให้ทีมงานเข้าดูแลช่องทางใหม่ๆ เพิ่มขึ้นได้ เพราะตอนนี้แม้เรามี 5 แบรนด์และช่องทางหลักเพียงไม่กี่ช่องทาง ก็ยังสามารถสร้างยอดขายได้ดี เราจึงเล็งเห็นถึงศักยภาพที่จะสามารถเติบโตได้อีกในอนาคตอีกมาก”