Authority & Harm

ตร.ร่วมป่าไม้จับแก๊งขนไม้เถื่อนล่องน้ำยม ขยายผลยึดรง.-ไม้สักเพียบ



แพร่-ตำรวจ ร่วมป่าไม้ รวบขบวนการลักลอบขนไม้เถื่อนล่องไปตามแม่น้ำยม ก่อนนำขึ้นมาใส่รถอีแต๋น เจ้าหน้าที่เข้าไปเจอหนีกระเจิง ก่อนตามรวบได้ทั้งขบวนการ ขยายผลเข้ายึดโรงงานพร้อมไม้สักเพียบ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม 2564 พ.ต.อ.บำรุง น้อมเศียร ผกก.สภ.สอง อ.สอง จ.แพร่ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้ลักลอบขนไม้สักล่องมาตามแม่น้ำยม ที่บริเวณลำน้ำยม หมู่ 8 ต.บ้านกลาง อ.สอง จ.แพร่ จึงประสาน พ.ต.ท.จิตรภณ  สมหมาย หัวหน้าชุดปฎิบัติการ ศปทส.ภาค 5 และนายสักรินทร์  ปัญญาใจ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ, นายนันทพงษ์  คำปิน  เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ, ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ร้อย ตชด.323 กก.ตชด.32 (พะเยา), เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.1 แม่ตรปุง , พร.2 แม่สอง และ พร.3 ดอยหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สอง จ.แพร่, เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก4, บก.ปทส. และฝ่ายปกครองอำเภอสอง เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบชาย 3 คน ทราบชื่อคือ นายพิชิต สุวรรณจิตร นายบุญธรรม หลงฤทธิ์ และนายธีระยุทธ บุญยืน กำลังช่วยกันขนไม้สักท่อนขึ้นฝั่ง มีไม้สักทั้งที่อยู่ในรถอีแต๋นและกำลังลากขึ้นฝั่ง รวม ไม้สัก ทั้งหมด 53 ท่อน พอเห็นเจ้าหน้าที่ ทั้ง 3 คนก็แตกกระเจิงหลบหนีกันไปโดยใช้รถอีแต๋น และเรือยนต์หนีไปตามลำน้ำยม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการไล่ล่าจนสามารถตามมาเจอนายพิชิต สุวรรณจิตร ที่บ้านเลขที่  14/3 หมู่ 8 ต.บ้านกลาง อ.สอง จ.แพร่ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ตรวจสอบพบเสื้อผ้าที่ใส่ขณะก่อเหตุถูกถอดอยู่ในบ้าน

ซึ่งนายพิชิตฯ ยอมรับว่าเป็นของตนเองที่ใช้สวมใส่ขณะไปขนไม้ที่ริมแม่น้ำยมก่อนหลบหนีมา จากนั้นจึงได้ตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงเลขที่ 14/1 หมู่ 8 ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน พบนายแดง สุวรรณจิตร อายุ 66 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวและเป็นพ่อของนายพิชิตฯ พบมีไม้สักกระจัดกระจายในพื้นที่ รวมไม้สักท่อนทั้งหมด 12 ท่อน และไม้สักแปรรูป 36 แผ่น และเครื่องยนต์ต้นกำลังพร้อมติดตั้งใบเลื่อยวงเดือนพร้อมใช้งานอีก 2 เครื่อง นายแดงฯ รับสารภาพว่าเป็นเจ้าของโรงเรือนพร้อมอุปกรณ์ทั้งหมด ส่วนไม้สัก เป็นของนายบุญธรรม หลงฤทธิ์ อายุ 43 ปี นำมาฝากไว้ ซึ่งบ้านของนายบุญธรรมฯ นั้นอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 125 หมู่ 8 ต.บ้านกลาง อ.สอง จ.แพร่ ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญธรรมฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ขณะเข้าตรวจสอบนายบุญธรรมฯ ยังหลบหนีอยู่ จึงให้ญาติประสานให้เข้ามอบตัว ซึ่งไม่นานนายบุญธรรมฯ ก็กลับมาที่บ้านหลังดังกล่าว และรับว่าไม้แปรรูปที่พบในบ้านเป็นของตนทั้งหมด และรับว่าเป็นคนเดียวกันที่พบในที่เกิดเหตุและขับรถอีแต๋นหลบหนีไป ตรวจสอบโดยรอบบ้าน พบไม้สักท่อน จำนวน 3 ท่อน และไม้สักแปรรูป จำนวน  91 แผ่น และไม้ประดู่แปรรูปจำนวน 39 แผ่น เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด และนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด นำส่ง พ.ต.ท.วรวิทย์ จันปวงเสน พนักงานสอบสวน สภ. สอง จ.แพร่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

โดยตั้งข้อกล่าวหา นายบุญธรรมฯ นายพิชิตฯ และนายธีระยุทธฯ ว่า ร่วมกันมีไม้สักอันยังไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งข้อกล่าวหา นายแดงฯ ว่า ทำการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ตั้งโรงงานแปรรูปโดยใช้เครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม นายบุญธรรมฯ ว่า มีไม้สักอันยังไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไม้กระยาเลยแปรรูปไว้ในครอบครองปริมาตรเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยผิดกฎหมาย