Authority & Harm
ป่าไม้ผนึกบุกโรงเลื่อยเถื่อนในบ้านผญบ. เมียผญบ.ยืดอกรับแทนผัวแต่โดนทั้งคู่
แพร่-ป่าไม้ร่วมศปทส.ภาค5-ฝ่ายปกครองเมืองแพร่ เข้าตรวจบ้านที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน พบโรงงานแปรรูปไม้และไม้สักอีกเพียง เมียผู้ใหญ่ยืดอกรับเป็นเจ้าของแทนผัว แต่สุดท้ายถูกตำรวจตั้งข้อหาทั้งคู่
นายสักรินทร์ ปัญญาใจ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ, นายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผอ.สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ ร่วมกับ พ.ต.ท.จิตรภณ สมหมาย หัวหน้าชุดปฎิบัติการ ศปทส.ภาค 5 , พิษณุพันธ์ วงศ์ขันธ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ สจป.ที่ 3 สาชาแพร่, นายนันทพงษ์ คำปิน เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ, สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ร้อย ตชด.323 กก.ตชด.32 (พะเยา), เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.9 (ช่อแฮ) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยม้า จ.แพร่, เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก4, บก.ปทส. และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองแพร่ ฝ่ายปกครองตำบลบ้านถิ่น เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 119 หมู่ 7 ต.บ้านถิ่น อ.เมืองแพร่ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการตั้งโรงงานแปรรูปไม้ผิดกฎหมายขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงยังบ้านหลังดังกล่าวหน้าบ้าน มีป้ายข้อความว่า “ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านถิ่น อำเภอเมืองแพร่” เข้าตรวจสอบพบว่า บริเวณหลังบ้านกำลังทำการแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร มีไม้สักท่อน และไม้สักแปรรูปวางกองอยู่ในพื้นที่ เจ้าของบ้านแสดงตัว ทราบชื่อ คือนายเมธี ธรรมวิชัยพันธ์ ทำหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบล
จากการสอบถาม นายเมธีฯ ให้การว่า โรงงานแปรรูปไม้ดังกล่าวเป็นของนางรัชฎาภรณ์ ธรรมวิชัยพันธ์ ซึ่งเป็นภรรยาของตนเอง ซึ่ง นางรัชฎาภรณ์ฯ ยอมรับว่าโรงงานแปรรูปไม้ดังกล่าวเป็นของตนเอง และตนเองเป็นผู้ดำเนินการ โดยได้ยื่นขอใบอนุญาตกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ พร้อมแสดงใบอนุญาตฉบับดังกล่าวให้ตรวจสอบ แต่ไม่มีใบอนุญาตขอตั้งโรงงานแปรรูปไม้ตาม พรบ.ป่าไม้ และไม่ได้ขออนุญาตแต่อย่างใด
ตรวจสอบภายในบริเวณโรงงาน มีการตั้งเสาปูน 2 ต้น และเสาไม้ 2 ต้น หลังคามุงด้วยสังกะสีลักษณะเปิดโล่ง ภายในบริเวณโรงงานตรวจพบไม้สักท่อน 7 ท่อน และไม้สักแปรรูปจำนวน 108 แผ่น แท่นเลื่อย จำนวน 1 แท่น สภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน และมีการเดินสายไฟฟ้าเพื่อใช้ในการแปรรูปไม้ มีคนงานกำลังทำการแปรรูปไม้ 2 คน ทราบชื่อคือ นายสุเทพ วงเวียน อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 72/3 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านถิ่น อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ (ทำหน้าที่เลื่อยไม้) และนายมานัส ฝาเรือนดี อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 108 หมู่ที่ 14 ตำบลบ้านเวียง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ (ทำหน้าที่รับหางไม้) ซึ่งรับว่าได้รับจ้างแปรรูปจากนางรัชฏาภรณ์ฯ ได้ค่าจ้างเลื่อยไม้วันละ 700 บาท ค่าจ้างรับหางไม้วันละ 500 บาท
เบื้องต้นพบไม่มีเอกสารการได้มาของไม้สักทั้งหมด และไม่มีการขึ้นทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยึดไม้สัก พร้อมอุปกรณ์ทั้งหมด นำส่ง ร.ต.อ.นาวิน สมหมาย พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยม้า อ.เมืองแพร่ พร้อมตั้งข้อกล่าวหา นางรัชฎาภรณ์ฯ ว่า ตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, และมีเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายสุเทพ และนายมานัส ตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต