In News
ชาวไทยภูเขาสันเกล็ดทอง-แม่สายร้อง! ขอความช่วยเหลือถูกน้ำป่าพัดถล่ม
เชียงราย-ชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า บ้านสันเกล็ดทอง ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังมีการร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูกน้ำป่าพัดถล่มเมื่อ 4 วันก่อน ขาดแคลนที่นอน และของใช้ที่จำเป็น ในการดำรงชีวิต และของใช้สำหรับเด็ก และชาวบ้านเป็นโรคน้ำกัดเท้า ทาง อสม.ใช้สมุนไพรเข้าไปช่วยแก้ปัญหา
เมื่อวันที่ 15 ส.ค.64 การดำเนินการช่วยเหลือหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า ที่ถูกน้ำป่าไหลหลากจากดอยนางนอน ไหลลงมาที่คลองห้วยแล้ง จนท่วมบ้านเรือนเสียหายอย่างหนัก ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ยังมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง ที่บ้านสันเกล็ดทอง ม.7 ตำบลโป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถึงแม้น้ำป่าจะลดแล้วแต่ ชาวบ้านยังคงได้รับความเดือดร้อน วันนี้ อสม.ตำบลโป่งงาม ได้นำสมุนไพรไทย ประเภท กระชาย มะกรูด มาปรุงต้มแล้วนำมาให้ชาวบ้านได้แช่เท้า บำบัดอาการโรคน้ำกัดเท้า นอกจากนี้ยังมีการนำอาหาร และข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้าจากผู้ใจบุญมาแจกจ่ายในพื้นที่ แต่ชาวบ้านยังขาดแคลน ของใช้ประเภท ที่นอน ผ้าห่ม มุ้ง เตาอั้งโล่ ไฟฉาย กระทะ หม้อ เนื่องจากถูกน้ำป่าพัดเสียหายแทบทั้งหมด 43 หลังคาเรือน จาก 80 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังรอคอยหน่วยราชการที่จะเปิดทำการวันจันทร์ที่ 16 ส.ค. นำเครื่องจักรเข้ามาปรับเกรดเอาเศษดินในหมู่บ้านออกไป พร้อมขอรถน้ำนำน้ำสะอาดในใส่ในถังของชาวบ้านที่รองน้ำเก็บไว้ใช้ เพราะระบบประปาภูเขาถูกน้ำป่าพัดเสียหายหมด
ด.ญ.อรสา เชอมื่อ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 กับ น.ส.นีรา เชอหมื่อ อายุ 16 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านที่ถูกน้ำท่วม กล่าวว่า ที่นอน ผ้าห่ม ได้รับความเสียหายทั้งหมด ทำให้ไม่มีที่นอน และที่บ้านไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ทำให้ยากลำบากในการดำรงชีวิตช่วงนี้ และยังมีฝนตกอยู่ชาวบ้านจึงต้องเฝ้าระวังน้ำป่าในพื้นที่อยู่
นายสมศักดิ์ อินต๊ะไมย ผู้ดูแลหมู่บ้าน สันเกล็ดทอง กล่าวว่า ชาวบ้านยังคงต้องการข้าวของเครื่องใช้ที่ทำเป็นในการดำรงชีวิตหลังน้ำท่วม และของใช้สำหรับเด็กเล็ก และนม ซึ่งมีการบริจาคมาแจกจ่ายในระดับหนึ่งแต่ยังไม่พอ หากจะมีผู้บริจาคเพิ่มสามารถติดต่อได้ที่จุดประสานงานกลางหมู่บ้านสันเกล็ดทอง ซึ่งมีการกางเต๊นท์ไว้ ซึ่งหมู่บ้านนี้ มีประชากรกว่า 300 คน แยกเป็นเด็กประมาณ 100 คน ส่วนมากเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า และหมู่บ้านนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ บางบ้านที่มีไฟฟ้าเพราะใช้แผงโซลาเซลล์ ความเดือดร้อนในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบนับสิบปี
ธีรวัฒน์ คำธิตา/เชียงราย