Travel Sport & Soft Power
กทม.ชวนเที่ยวงานลอยกระทงวิถีใหม่ สะพานพระราม8-คลองโอ่งอ่าง-50เขต
กรุงเทพฯ-กทม.ชวนเที่ยวงานลอยกระทงวิถีใหม่ สไตล์ New Normal พื้นที่หลักของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ 1.บริเวณสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เขตบางพลัด 2.บริเวณคลองโอ่งอ่าง ช่วงสะพานหันถึงสะพานภาณุ เขตสัมพันธวงศ์และเขตพระนคร 3.งานเทศกาลลอยกระทงในพื้นที่ทั้ง 50 เขต นอกจากนี้ยังมีการเปิดสวนสาธารณะ 30 แห่ง ของกรุงเทพมหานคร
(27 ต.ค. 63) เวลา 10.30 น. นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าว การจัดงานเทศกาลลอยกระทงกรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ.2563 โดยมี นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ฉัตรามนตรี มหาพชราอรุณใหม่ ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมงานแถลงข่าว ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้กำหนดจัดงานเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด “ลอยกระทงวิถีใหม่ สไตล์ New Normal” ในพื้นที่หลักของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ 1.บริเวณสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เขตบางพลัด 2.บริเวณคลองโอ่งอ่าง ช่วงสะพานหันถึงสะพานภาณุ เขตสัมพันธวงศ์และเขตพระนคร 3.งานเทศกาลลอยกระทงในพื้นที่ทั้ง 50 เขต นอกจากนี้ยังมีการเปิดสวนสาธารณะ 30 แห่ง ของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปลอยกระทงด้วย ในปีนี้จะเพิ่มเติมเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยมีการตั้งจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิร่างกาย รณรงค์ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย รณรงค์เว้นระยะห่างเท่าที่จะสามารถทำได้ และจัดเตรียมแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือให้กับประชาชน ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนที่มาร่วมงานลอยกระทงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกันใช้กระทงที่ทำจากวัสดุจากธรรมชาติ หรือใช้กระทงที่ทำจากน้ำแข็ง และหลีกเลี่ยงกระทงที่ทำจากขนมปัง เนื่องจากเมื่อมีกระทงขนมปังจำนวนมาก ปลาและสัตว์น้ำกินไม่ทัน จะทำให้เกิดน้ำเน่าเสียได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์ให้ใช้ 1 กระทง ต่อ 1 ครอบครัว เพื่อร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม และเป็นการลดปริมาณขยะอีกด้วย
สำหรับเทศกาลลอยกระทง ถือเป็นประเพณีสำคัญที่กรุงเทพมหานครได้จัดสืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ และส่งเสริมประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชุมชนที่ดีงามของชาวไทยให้คงอยู่และสืบทอดต่อไป ซึ่งการจัดงานเทศกาลลอยกระทงในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติออกมาร่วมลอยกระทง และทำกิจกรรมร่วมกันตามริมฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา และตามลำคลองต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก จึงถือเป็นภารกิจสำคัญที่กรุงเทพมหานครจะต้องรับผิดชอบต่อการจัดงาน จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลพื้นที่ทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร ทั้งก่อนและหลังการจัดงานให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเน้นย้ำถึงภารกิจหลักที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ 1.การจัดกิจกรรมตามประเพณีที่ดีงาม ในทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร 2.การร่วมกันสอดส่องดูแล ร่วมรณรงค์ การป้องกันความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน 3.การรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม และการรักษาความสะอาด และ 4.การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
ลอยกระทงปีนี้ เน้นการจัดงานตามประเพณีนิยม
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครกำหนดจัดงานเทศกาลลอยกระทงในพื้นที่หลัก ณ บริเวณสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เขตบางพลัด ในวันเสาร์ที่ 31 ต.ค. 63 ตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น. โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การจัดการแสดงบนเวทีโดยศิลปิน ดารา นักร้องที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยม การจำลองตลาดโบราณ การจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน 50 เขต และการจัดงานบริเวณคลองโอ่งอ่าง ช่วงสะพานหันถึงสะพานภาณุ เขตสัมพันธวงศ์และเขตพระนคร จัดงานระหว่างวันที่ 30 ต.ค. - 1 พ.ย. 63 ภายในงานมีกิจกรรมการประกวดหนูน้อยนพมาศ การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงดนตรีไทยและดนตรีร่วมสมัย และการสาธิตประดิษฐ์กระทง และดื่มด่ำกับบรรยากาศ ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง Street Art และ Street Performance อีกมากมาย รวมทั้งได้เน้นย้ำให้พื้นที่ที่มีการจัดงานทั่วทั้ง 50 เขต จัดกิจกรรมตามประเพณีนิยม เพื่ออนุรักษ์ สืบสาน ส่งเสริม และรณรงค์การลอยกระทงตามประเพณีไทย อาทิ การจัดประกวดกระทงโดยใช้วัสดุธรรมชาติ การสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชนของชาติให้มีจิตสำนึก มีความภาคภูมิใจ ความเข้าใจที่แท้จริงของงานเทศกาลประเพณีที่ดีงามของไทย
สำหรับมาตรการเรื่องความปลอดภัย การป้องกันอุบัติเหตุและอุบัติภัย การควบคุมการจำหน่ายและการเล่นพลุ ดอกไม้เพลิง โคมลอย การดูแลความปลอดภัยบริเวณท่าเทียบเรือ โป๊ะ ท่าริมน้ำตามวัดวาอาราม บริเวณใต้สะพานต่าง ๆ และริมตลิ่งที่ประชาชนจะไปลอยกระทงให้มีความแข็งแรงและปลอดภัย ได้กำชับให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยในทุกสถานที่ มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด (CCTV) ของกรุงเทพมหานคร บริเวณสถานที่จัดงานและสวนสาธารณะให้สามารถใช้งานได้ทุกกล้อง รวมถึงการตักเตือนและห้ามจำหน่าย ห้ามเล่นพลุ ดอกไม้เพลิง โคมลอย ที่อาจเป็นอันตราย โดยกรุงเทพมหานครร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจน้ำ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ เตรียมหน่วยแพทย์กู้ชีวิตทางน้ำ หน่วยลาดตระเวนทางน้ำ เจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอปพร. อาสาสมัครภาคประชาชน ร่วมดูแลทุกพื้นที่ตลอดการจัดงาน
กรุงเทพมหานครขอเชิญชวนประชาชน พ่อค้าแม่ค้า ใช้วัสดุการทำกระทงที่มาจากธรรมชาติ ย่อยสลายได้ง่าย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้กรุงเทพมหานครสามารถดำเนินการจัดเก็บ และคัดแยกกระทงได้อย่างเป็นระบบ รวดเร็ว รวมทั้งขอให้ผู้เข้าร่วมงานปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด