In News

คืบ!ยักยอกเงินรร.ดังชัยภูมิตัวเลขไม่นิ่ง จนท.การเงินยันถ้ายอดเกิน3-4ล.ไม่รับ



ชัยภูมิ-คืบหน้าลูกจ้างการเงินโรงเรียนขนาดใหญ่ยักยอกเงินหลวงกว่า 6 ล้านบาท ลูกจ้างการเงินยืนยันการตรวจสอบยังตัวเลขไม่นิ่ง ยันยอดเงินยักยอกจริงแค่ 3-4 ล้านบาท ไม่ใช้ 6 ล้าน ยันไม่หนีพร้อมชดใช้ทุกบาททุกสตางค์

หลังจากได้นำเสนอข่าวไปแล้วลูกจ้างการเงินโรงเรียนขนาดใหญ่ แห่งหนึ่งในตัวเมืองชัยภูมิ สังกัด สพป.ชย.เขต 1 ยักยอกเงินจากบัญชีของโรงเรียนหายไปร่วม   6 ล้านบาท ทำให้ทางโรงเรียนไม่สามารถบริหารงานต่อไปได้ และในช่วงนี้ทางโรงเรียนจะต้องทำการเบิกจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อจ่ายค่าน้ำค่าไฟฟ้า เงินเดือนของลูกจ้างและเงินเดือนจ้างครูต่างประเทศ เป็นเงินจำนวนหลายแสนบาท    จากบัญชีของโรงเรียน หลังการตรวจสอบพบว่าที่หายไปเกิดจาก ลูกจ้างการเงิน ได้มีการเบิกเงินจากบัญชีของโรงเรียนไปตั้งแต่ประมาณกลางปี 63 จนถึงปัจจุบัน ที่ทำให้ลูกจ้างรายนี้สามารถเบิกจากบัญชีของโรงเรียนได้ เกิดจากที่ทางผู้บริหารเกิดความไว้วางใจเพราะลูกจ้างรายนี้ทำหน้าที่มานานแล้วทางโรงเรียนได้ให้เป็นคนไปเบิกให้เป็นประจำ และผู้บริหารไว้ใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น\

วันนี้ผู้สื่อข่าวได้พบกับลูกจ้างเจ้าหน้าที่การเงินที่ได้ยักยอกเงินของโรงเรียนไปได้เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่ตนยักยอกเงินของทางโรงเรียนเพราะตนได้เล่นการพนันออนไลน์พอเล่นไปเล่นมาเกิดช็อตขึ้นมาไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้เอาเงินของโรงเรียนมาใช้โดยทางโรงเรียนให้เบิกเงินเพื่อนำไปจ่ายร้านค้า  ตนเองก็ตีเช็ดเป็นชื่อของตนและก็ไปเบิกเงินออกมาพอได้เงินออกมาตนก็ไม่นำเงินไปจ่ายให้ทางร้านค้า หรือบางครั้งที่จะเบิกเงินจำนวนมากๆเช่นเบิกเป็นจำนวนหลักแสน บ้างทีผู้บริหารไม่อยู่ ผู้บริหารก็จะเช็นเช็คไว้ให้ก่อนครั้งละ 3-4 ใบโดยไม่มีการเขียนจำนวนตัวเลขตัวหนังสือลงบนเช็คเพราะด้วยความไว้ใจ ตนเองเวลาต้องการที่ต้องการเงินตนก็พิมพ์หรือเขียนจำนวนเงินตามที่ตนต้องการ ไปเบิกเงินออกมา โดยที่ทางธนาคารไม่มีการสอบถามเนื่องทางธนาคารเคยเห็นไปเบิกเงินเป็นประจำเลยไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการเบิกเงินเลยเพราะตนทำงานมานานแล้ว ส่วนในเรื่องของการควบคุมบัญชีเงินของโรงเรียนโดยปกติเมื่อก่อนจะมีหัวหน้าฝ่ายการเงิน จะต้องมีการตรวจสอบบัญชีการเงินของโรงเรียนเป็นประจำทุกวัน ในช่วงนี้หัวหน้าฝ่ายการเงินได้ไปสอบเป็นรองผู้อำนวยการได้ตำแหน่งนี้จึงว่างลงนานมากแล้ว และได้มีการแต่งตั้งขึ้นมาใหม่แล้วแต่หัวหน้าฝ่ายคนใหม่ยังไม่ได้ทำงานเลย ขณะเวลานี้ตนยังยืนยันว่าเงินส่วนที่ตนเอาไปใช้เองประมาณ 3- 4 ล้านบาท ตนยอมรับได้ แต่จะให้ตนรับ 6 ล้านตนยังไม่ยอมรับและตนก็มีการจ่ายไปบ้างแล้วบางส่วน ทางโรงเรียนได้แจ้งตัวเลขมายังไม่แน่นอน บ้างครั้งก็บอกว่า 6ล้าน 3และหักออกเป็นบางส่วนเหลือ 5ล้าน 7 พอมาอีกวันก็แจ้งมาว่า 5ล้าน 2 พออีกสามสี่วันก็บอกมาอีก 5 ล้าน 4 ตัวเลขไม่แน่นอนเลย แล้วจะให้ตนมาเซ็นรับสภาพหนี้ตนเลยไม่ยอมเซ็นรับสภาพหนี้

 และลูกจ้างการเงินรายนี้ยังเล่าต่อว่าตนจะไม่หนีไปไหนและยินดีที่จะชดใช้อยู่แต่ขอหลักฐานที่ชัดเจนว่าตนเอาไปเท่านั้นจะให้ตนรับสภาพหนีทั้งหมดเลยไม่ได้ ส่วนในเรื่องของมีข้าราชการเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือมาบังคับให้ตนเองทำในเรื่องนี้หรือเปล่านั้น ลูกจ้างการเงินโรงเรียน แจ้งว่าไม่มีใครมาบังคับให้ทำได้ทำเองทั้งนั้นไม่มีใครมายุ่งเกี่ยวแต่อย่างใดแต่ขอยอมรับในยอด 3-4 ล้านบาทเท่านั้น

 ส่วนทาง  สพป.ชัยภูมิ เขต.1 หลังจากที่มีข่าวนำเสนอไปแล้วนั้น  นายนิวัตน์ แก้วเพชร ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1 ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วตั้งแต่วันที่  23 สิงหาคม  โดยจะเร่งรัดสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้โดยเร็วต่อไป