In News
แจงปมดราม่า!เสื้อผ้ามือ2คนอาข่าแม่สาย ได้นำไปใช้จริง-ไม่ได้นับถือผี
เชียงราย-ผู้นำชุมชนอาข่า บ้านสันเกล็ดทอง และ แอดมินเพจ อาข่าในประเทศไทย ชี้แจงปม ดราม่า กรณีที่มีการบริจาคเสื้อผ้ามือสองให้ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยว่า มีการนำไปใส่จริง แต่เสื้อผ้ามีมากจนเหลือ จึงต้องนำไปเก็บใส่ถุงรอการแจกจ่ายไปยังผู้ที่เดือดร้อนอื่นๆ และชาวอาข่านับถือบรรพบุรุษไม่ได้นับถือผี
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 26 ส.ค.64 นายอาโล๊ะ ผู้นำชุมชนอาข่าบ้านสันเกล็ดทอง ม.7 ต.โป่งงาม อ.แม่สาย และ น.ส.หมี่แอ ชื่อมื่อ หรือ ฟาง แอดมินเพจ อาข่าในประเทศไทย และตัวแทนเยาวชน และชาวบ้าน ร่วมด้วย นายพลากร วงค์ ประเสริฐ หรือ แมกซ์ คณะทำงานพรรคก้าวไกล จ.เชียงราย ได้แถลงการณ์ที่ โบสถ์คาทอลิกนักบุญยอห์นปอล ที่ 2 บ้านสันเกล็ดทอง ถึงประเด็น ที่มีผู้ใจบุญจำนวนมากได้บริจาคเสื้อผ้ามือสองให้กับชาวบ้านสันเกล็ดทองที่ประสบอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
นายอาโล๊ะ และ น.ส.หมี่แอ หรือ ฟาง ยืนยันว่า เสื้อผ้ามือสองเหล่านี้มีการนำมามอบให้ชาวบ้านโดยตรงไม่ได้ผ่านทางหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะเสื้อผ้ามือสอง ที่ได้รับมามากมาย จนมากกว่าความต้องการของชุมชน ต่อมามีการนำไปบรรจุถุงดำกองรวมกันไว้ในที่สาธารณะของหมู่บ้าน เนื่องจากรอแจกจ่ายไปยังชาวบ้านที่เดือดร้อนอื่นๆ ต่อไป ไม่ได้นำไปทิ้งอย่างที่มีคนตั้งข้อสังเกต ทั้งนี้ชาวบ้านที่มาร่วมแถลงข่าวหลายคนยังยืนยันว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่เป็นเสื้อผ้าที่ได้รับการบริจาคมา
ส่วนเรื่องที่มีการบอกว่า ความเชื่อของพี่น้องอาข่านับถือผี แล้วไม่ให้สวมใส่เสื้อผ้ามือสองนั้น ก็เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะในหมู่บ้านนี้มีผู้สูงอายุที่ชาวบ้านนับถือ และเป็นผู้นำทางความคิดและประเพณี หรือที่เรียกว่า อาพียิผะ เพียง 1 คน ที่จะไม่มีการสวมเสื้อผ้ามือสองเท่านั้น แต่ประชาชนคนอื่นๆทั่วไปสวมใส่ได้ปกติ และอีกประการคือ ชาวอาข่าไม่เคยนับถือผี แต่นับถือ บรรพบุรุษ ที่เรียกว่า อ่าเผ่วอ่าผี่ ซึ่งไม่ได้หมายถึงผีเลย การเซ่นไหว้บูชาในแต่ละปีไม่ได้เซ่นไหว้ผี (แหนะ) แต่เซ่นไหว้บรรพบุรุษคือ อ่าเผ่วอ่าผี่ และชาวอาข่า มีประเพณีไล่ผีด้วย จึงไม่ได้นับถือผีแน่นอน
นอกจากนี้ ที่ว่า ชาวอาข่าที่นับถือบรรพบุรุษไม่เอาเสื้อมือสองนั้น ก็ไม่เป็นความจริง ชาวอ่าข่าถือว่าถ้าเป็นเสื้อผ้าที่ซื้อมาหรือได้มาจากทางพื้นราบ ไม่ว่ามือหนึ่งหรือมือสอง เมื่อได้มาแล้วนำเอาเสื้อนั้นไปวางบนตัวสุนัขพอเป็นพิธี ไม่ใช่ให้สุนัขใส่ ด้วยความเชื่อที่ว่าหากมีสิ่งไม่ดีไม่งามที่ไม่พึงประสงค์ติดมากับเสื้อก็จะเป็นการแก้เคล็ดด้วยสุนัข และยังมีการเอาเสื้อไปลนที่ไฟด้วยความเชื่อที่ว่าทุกอย่างที่ติดมากับเสื้อก็ขอให้เผาให้ตายซึ่งเป็นการทำเพื่อความสบายใจตามความเชื่อเท่านั้น จริงๆไม่ทำก็ได้
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชาวบ้านยังขอขอบคุณผู้ใจบุญ ที่ยังมีการบริจาคสิ่งของต่างๆมาช่วยเหลือชาวบ้านสันเกล็ดทองต่อเนื่อง ต่อไปอาจจะต้องจัดการเรื่องการบริหารจัดระบบการจัดเก็บและแจกจ่ายสิ่งของที่ได้รับมาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ส่วนที่ชาวบ้านบางราย เช่น นางนก ปัญญาดี อายุ 51 ปี ชาวบ้านสันเกล็ดทอง ยังรอการช่วยเหลือด้านการซ่อมแซมบ้านที่พังเสียหายแทบทั้งหลัง ขาดแคลนที่นอน และห้องน้ำที่ไม่มีใช้ ยังคงรอคอยงบประมาณจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องที่จะนำมาเยียวยาช่วยเหลือต่อไป
ธีรวัฒน์ คำธิตา/เชียงราย