In Global
ชี้ผลสำรวจออนไลน์80%ชาวเน็ตทั่วโลก เชื่ออเมริกาล้มเหลวในอัฟกานิสถาน
จีน-CGTN Think Tank เผยผลสำรวจออนไลน์ “80% ของชาวเน็ตทั่วโลก เชื่อว่า อเมริกาล้มเหลวในการก่อสงครามอัฟกานิสถาน”
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 CGTN Think Tank ทีมวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล สื่อภาคภาษาอังกฤษ ภายใต้ China Media Group (CMG) เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของชาวเน็ตทั่วโลกที่มีต่อ “การตัดสินใจถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานของอเมริกา” ใน 6 ภาษา ได้แก่ จีน อังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส อาราบิก และภาษารัสเซีย บนแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ Twitter Facebook YouTube Weibo และ WeChat โดยทำการสำรวจเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564 เวลา 23.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศจีน (เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) ผลปรากฏว่า มีผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากกว่า 140,000 ความคิดเห็น
สำหรับคำถามแรกของการสำรวจความคิดเห็นในครั้งนี้ คือ “ประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มตั้งฐานทัพในอัฟกานิสถานในปี ค.ศ.2001 โดยให้เหตุผลต่อต้านก่อการร้าย และถอนกองทัพอย่างเร่งรีบในปีนี้ ค.ศ.2021 คุณคิดว่าอเมริกาล้มเหลวในการทำสงครามต่อต้านก่อการร้ายในอัฟกานิสถานหรือไม่?” 84.6% ของผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นคิดว่า “รัฐบาลอเมริกาล้มเหลว”
โดยชาวเน็ตบางส่วนถึงกับบอกว่า “เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ของอเมริกาและชาติตะวันตก” ซึ่งชาวเน็ตคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นด้วยภาษาอังกฤษ คอมเมนต์ถึงประเด็นนี้ “เพื่อสนองความต้องการของตนเอง อเมริกาได้ทำลายอิรัก ลิเบีย ซีเรีย และอัฟกานิสถาน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลจากนโยบายที่ล้มเหลวของอเมริกา ขอให้ชีวิตผู้บริสุทธิ์จงไปสู่สุคติ”
ด้านชาวเน็ตที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสในการแสดงความคิดเห็น กล่าวว่า “การถอยกองทัพออกจากอัฟกานิสถานในครั้งนี้ เป็นหลักฐานชี้ แรงจูงใจของสงครามที่อเมริกาสร้างขึ้นไม่มีอยู่จริง”
ขณะที่ชาวเน็ตผู้ใช้ภาษาสเปน มากกว่า 80% บนแพลตฟอร์ม YouTube มีความเห็น “สหรัฐอเมริกาเป็นผู้แพ้ในสงครามอัฟกานิสถาน โดยบางคนยกให้อเมริกาเป็นภัยคุกคามต่อความสันติสุขของโลก โดยชี้ว่า “สงครามทั้งหมดของอเมริกาต่างเป็นเช่นนี้ พวกเขาบุกเข้าประเทศ ทำลาย และละทิ้ง ปล่อยให้พันธมิตรในประเทศนั้นต่อสู้ดิ้นรนกันเองต่อไป”
การถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานด้วยท่าทีเร่งรีบ ทำให้ชาวเน็ตพากันเปรียบเทียบถึง “ช่วงเหตุการณ์ล่มสลายไซ่ง่อน ประเทศเวียดนาม” ที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากเมื่อ 46 ปีก่อน เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518 กองทัพสหรัฐได้อพยพนักการทูตออกจากสถานเอกอัครราชทูตเวียดนามใต้ ชาวเน็ตชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งให้ความเห็นว่า “มันแย่กว่าเวียดนามเสียอีก สหรัฐฯ ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ หนีอีกครั้ง”
ชาวเน็ตหลายคนสงสัยตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงในการเข้าไปก่อสงครามของอเมริกา และเชื่อว่าจุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้ายหรือเพื่อช่วยเหลือคนในท้องถิ่น แต่เป็นสงครามอาณานิคมที่สหรัฐริเริ่มขึ้นเพื่อเป้าหมายของตนเอง จากการสำรวจของสหประชาชาติ ระหว่างปีพ.ศ. 2552 ถึง พ.ศ. 2562 จำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตในอัฟกานิสถานเกิน 100,000 คน
ชาวเน็ตชาวอาหรับบางคนฝากข้อความว่า “สหรัฐฯ ไม่ได้ต่อสู้กับการก่อการร้าย แต่สร้างการก่อการร้ายและทำลายประเทศอื่นในนามของการปกป้องสิทธิมนุษยชน ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อประเทศกำลังพัฒนา คือสหรัฐอเมริกานั่นเอง”
สำหรับคำถามที่สองของ CGTN think tank “หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาได้ทำสงครามอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม สงครามอิรัก มาจนถึงสงครามอัฟกานิสถาน คุณคิดเห็นอย่างไรกับสิ่งที่สงครามีต่อประเทศเหล่านี้“
81.9% ของความคิดเห็นจากชาวเน็ตทั่วโลก ระบุ “สงครามก่อให้เกิดผลในทางลบ“ โดยจากการวิเคราะห์ความถี่ของคำที่ปรากฎในความคิดเห็นที่มีต่อคำถามข้อนี้ พบคำที่ปรากฏบ่อยสุด ได้แก่คำที่มีความหมาย “การทำลาย” “ความวุ่นวาย” “ความแตกแยก” “ความตาย” “ความสิ้นหวัง” “ความเจ็บปวด“ และ “ความเกลียดชัง”
ชาวเน็ตจำนวนมากกล่าวหากองทัพสหรัฐฯ ในเรื่องความโหดร้ายของการทำสงคราม โดยเชื่อว่าเหตุผลที่อเมริกาอ้างขึ้นมาในการทำสงคราม เรื่อง “ประชาธิปไตย” และ “สิทธิมนุษยชน” เป็นเพียงสิ่งบังหน้า เพื่อเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นๆ และเป็นสาเหตุสำคัญในการสร้างความเสียหายที่เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน โดยความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับความคิดเห็นที่มีต่อคำถามข้อแรกข้างต้น
-----------------------------------------------------
แหล่งข้อมูล:
http://m.news.cctv.com/2021/08/26/ARTIyz7KhNDTxAheiOtF1Zm9210826.shtml?fbclid=IwAR0bGe9KXXBlVFhcTEAmm8u15EDmfmXbhCYIlV6KXxkxKk7SJH7iP4BULz4
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=327548315780389&id=117547923447097
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=6767566423284120&id=565225540184937