Travel Sport & Soft Power

วิสาหกิจชุมชนปันบุญอุ้มแรงงานคืนถิ่น เปิดพื้นที่ให้ปลูกผักออแกนิคหารายได้



กาฬสินธุ์-เจ้าของสวนปันบุญต้นแบบ“เกษตรอินทรีย์วิถีสุขภาพ”  ภายใต้แบรนด์เนม “ปันบุญ” อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดพื้นที่และให้โอกาสช่วยกับแรงงานคืนถิ่น ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 กลับภูมิลำเนา เข้าร่วมเป็นสมาชิกและปลูกพืชผักออแกนิค สร้างความมั่นคงทางอาหาร และสร้างงาน สร้างรายได้ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2564 ที่สวนปันบุญ หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปันบุญ บ้านดอนแคน ต.ฆ้องชัยพัฒนา อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ แหล่งผลิตผักต้นแบบออแกนิคหรือผักอินทรีย์ขึ้นชื่อของ จ.กาฬสินธุ์  นางสุจารี ธนสิริธนากร เจ้าของสวนและประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปันบุญ พร้อมสมาชิก ช่วยกันเก็บผลผลิตและล้างทำความสะอาดผักออแกนิค ก่อนทำการบรรจุภัณฑ์ เพื่อนำส่งลูกค้าตามจุดต่างๆ ในพื้นที่และในตัว จ.กาฬสินธุ์ โดยระบุว่าบรรยากาศการซื้อขายผักออกแกนิคในสวนปันบุญ ยังไปได้เรื่อยๆ มีออร์เดอร์เข้ามาทุกวัน จนผลผลิตโตไม่ทันและไม่พอจำหน่าย เป็นการการันตีคุณภาพว่า ถึงแม้จะประสบสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่การตลาดของผักออแกนิคไม่กระทบและเกิดการสะดุดเลย อีกทั้งสวนปันบุญแห่งนี้ยังเปิดให้โอกาสกับแรงงานคืนถิ่นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 กลับภูมิลำเนา เข้าร่วมเป็นสมาชิกและปลูกพืชผักออแกนิค สร้างความมั่นคงทางอาหาร และสร้างงาน สร้างรายได้ยั่งยืนอีกด้วย

นางสุจารี ธนสิริธนากร เจ้าของสวนและประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปันบุญ กล่าวว่า ตามแนวทางการผลิตพืชผักปลอดภัย งดการใช้สารเคมี หรือการผลิตผักออแกนิคเพื่อสุขภาพของสวนปันบุญนั้น ดำเนินการมาอย่างจริงจังและจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปันบุญมาตั้งแต่ปี 2555 สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับสมาชิกกลุ่มตลอดทั้งปี ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เครือข่ายสหกรณ์  และศูนย์วิจัยต่างๆ เข้ามาให้การสนับสนุนด้านองค์ความรู้ การตลาด ถือเป็นต้นแบบเกษตรอินทรีย์วิถีสุขภาพ จึงสามารถดำเนินการมาได้อย่างมั่นคง มีตลาดรองรับผลผลิตจากสวนตลอดฤดูกาล 

สำหรับประเภทพืชผักออแกนิคที่ทำการปลูกในสวนปันบุญ ประกอบด้วยสลัดชนิดต่างๆ ได้แก่  กรีนโอ๊ค, เรดโอ็ค, กรีนคอส, แก้ว, บัตเตอร์เฮด, ฟิเลย์,  เรดปัตตาเวีย,  กรีนปัตตาเวีย, เบบี้คอส, กวางตุ้งฮ่องเต้,  กวางตุ้งใบ, ผักกาดขาว, กะกล่ำปลี, บล็อคโคลี่, กะหล่ำดอก, มะเขือเปาะ, ถั่วฝักยาว, แตงกวา, คะน้า, ต้นหอม, ผักชีหอม, ขึ้นฉ่าย, มะเขือเทศเชอรี่, บัตเตอร์นัท และมันเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถเพาะปลูกได้ตลอดปี มีออร์เดอร์เข้ามาทุกวัน

นางสุจารี กล่าวอีกว่า ในช่วงเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19  พบว่ามีแรงงานคืนถิ่นกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ในส่วนนี้สวนปันบุญได้เปิดพื้นที่ให้ลูกหลานสมาชิก ที่มีใจรักด้านการเกษตรอินทรีย์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในสวนปันบุญด้วย โดยจัดพื้นที่ให้ปลูกผักออกแกนิค ดูแลและเก็บผลผลิตเอง จำหน่ายนำรายได้เข้ากลุ่ม นอกจากนี้ยังสามารถนำหลักการไปปลูกเองในพื้นที่ส่วนตัวได้อีกด้วย เฉลี่ยมีรายได้คนละไม่น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว     

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ เพื่อขยายพื้นที่ปลูกผักออแกนิค และรองรับความต้องการของตลาด แรงงานคืนถิ่นที่เข้ามาเป็นสมาชิกในสวนปันบุญ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิก 40 คน ทั้งนี้กลุ่มได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการแปลงใหญ่ สร้างโรงเรือนปลูกผักเพิ่ม ให้สมาชิกครัวเรือนละ 1 โรงเรือน รวมเป็น 40 โรงเรือน เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ และได้ผลผลิตเพียงต่อความต้องการของลูกค้า

ด้านนายนิรันดร วิชาชัย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 หมู่ 4 บ้านโนนเขวา ต.ฆ้องชัยพัฒนา อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เดิมตนทำงานในโรงงานตัดเย็บรองเท้าที่กรุงเทพฯ พอเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อคิด-19  จึงกลับบ้านเกิด พอดีพ่อแม่เป็นสมาชิกของสวนปันบุญอยู่แล้ว จึงได้เข้ามาเป็นสมาชิกอีกคน โดยเป็นทั้งคนสวน คนเก็บผัก และฝ่ายตลาด ซึ่งผลผลิตส่วนมากจะจัดส่งตามห้างสรรพสินค้าในจังหวัด นอกจากนี้ยังมีลูกค้าทั้งขาประจำ ขาจร มารับซื้อถึงสวนอีกด้วย

นายนิรันดร กล่าวอีกว่า สวนปันบุญยังเป็นแหล่งผลิตเกษตรอินทรีย์วิถีสุขภาพ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร  ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์พืชอินทรีย์มาตรฐานประเทศไทย (Organic Thailand) จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะเป็นแหล่งสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับแรงงานคืนถิ่น และชุมชนได้เป็นอย่างดี สำคัญที่สุดคือเป็นแหล่งผลิตผักออแกนิค เพื่อสุขภาพของผู้บริโภค ได้รับประทานอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหาร และสร้างงาน สร้างรายได้ยั่งยืน