Authority & Harm
ไล่ล่ากลางเมืองหนุ่มค้ายาส่งของหอพัก เผยประวัติเพิ่งพ้นโทษยาเมื่อ7เดือน
แพร่-ไล่ล่ากลางเมือง หนุ่มค้ายานัดส่งยาเสพติดตามหอพักในเขตเมืองแพร่ ชุดสืบตามรอยจนรู้จุดขณะเข้าแสดงตัวผู้ต้องสงสัยขับรถถอยหนีชนสนั่น ประวัติเพิ่งออกจากคุกมาได้เพียง 7 เดือน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 7 กันยายน 2564 พ.ต.อ.มนัส เกิดสุโข ผกก.สส.ภ.จว.แพร่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบจังหวัดแพร่ รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีการนัดรับส่งยาเสพติดกันที่หอพักในเขตเมืองแพร่ โดยใช้รถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน ทะเบียน บย 5063 แพร่ โดยมีการนัดรับส่งยาเสพติดกันที่บริเวณหอพักแห่งหนึ่ง หมู่ 7 ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ จึงได้สั่งการให้พ.ต.ท ปิยะศักดิ์ ศรีเรือน หน.ชุด ปส.ภ.จว.แพร่นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดักรอ ในบริเวณดังกล่าว จนถึงเวลา 14.00 น. ก็พบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาที่จุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง มีรถจอดหลายคันและมีผู้คนสัญจรไปมา ขณะรถจอดเจ้าหน้าที่เข้าแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นแต่คนขับรถคันดังกล่าว ทราบชื่อคือนายปิยะพงษ์ วังกาษร อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 124 หมู่ 2 ต.วังหลวง อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ไม่ยอมลงจากรถกลับถอยรถเพื่อหลบหนี และไปชนกับรถที่สัญจรไปมาอีกหลายคัน
เจ้าหน้าที่จึงขับรถติดตามไล่ล่า จนรถคันดังกล่าวยางแตกเพราะไปชนกับรถคันอื่นจนรถไม่สามารถไปต่อได้เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุม พบในรถมีนางแสงเดือน วังกาษร อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 124 ม.2 ต.วังหลวง อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ภรรยานายปิยะพงษ์ฯ นั่งมาในแคป และนายจิรกร ทองติ๊บ อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 104 ม.1 ต.เวียงต้า อ.ลอง จ.แพร่ นั่งมากับคนขับ เจ้าหน้าที่จึงให้ทั้งหมดลงจากรถ ก่อนทำการจับกุมและตรวจค้นรถคันดังกล่าวจนพบกล่องพลาสติกสีขาวยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ด้านในมียาเสพติดลักษณะคล้ายยาบ้า บรรจุอยู่โดยมีกระดาษฟรอยห่อไว้หลายห่อ คาดว่ามียาเสพติดบรรจุอยู่ไม่ต่ำกว่า 100 เม็ด จึงได้นำตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน เข้าสอบสวนขยายผลต่อไป ก่อนแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งมีรถยนต์ถูกชนได้รับความเสียหายหลายคัน จากนั้นจึงนำตัวนายปิยะพงษ์ฯ ไปตรวจค้นที่บ้านพักในตำบลวังหลวง เพื่อขยายผลแต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายพบเพียงอุปกรณ์ที่ใช้ในการเสพเท่านั้นก่อนส่งมอบให้ ร.ต.อ.ณรงค์ ซ่อนกลิ่น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นตรวจปัสสาวะ นายปิยะพงษ์ฯ คนขับ และนายจิรกรฯ คนนั่งมาด้วย พบมีสารเสพติดในร่างกาย โดยนายจิรกรฯ รับว่า เสพยาบ้า มา 3 เม็ด เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ไม่รู้เรื่องการส่งยาของนายปิยะพงษ์ฯ แต่อย่างใด เพียงติดรถมาด้วยเฉยๆ เพราะรู้จักกัน สนิทกัน มาทางเดียวกันเพราะตนจะมาจ่ายค่างวดรถให้หลานอยู่แล้ว
ทางด้านนางแสงเดือนฯ เล่าว่า ตนกับสามีเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ในคดียาเสพติด หลังออกมาก็มาทำการค้าขายส่วนสามีรับจ้างขับรถและทำงานก่อสร้างทั่วไป จนวันนี้สามีชวนออกมาดูเครื่องสักยันต์เพราะสามีมีความสามารถ เรื่องนี้จึงตามออกมาดูด้วย จนมาเกิดเหตุดังกล่าว
ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนขายของอยู่ในร้าน แล้วได้ยินเสียงบีบแตรดังมาตลอดทาง ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จนมาถึงหน้าร้าน รถคันสีน้ำเงินนั้นขับถอยหลังมาตลอด รถของตำรวจก็ขับไล่ล่ามาข้างหน้า เหมือนในหนังเลย ลูกค้าในร้านก็ตกใจออกมาดูกัน แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นตนไม่ทราบ ได้ยินแต่เสียงแตรที่บีบดังมาตลอดทาง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
โดยเจ้าหน้าที่ได้ฝากถึงผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ หากผู้ใดได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว หรือรถได้รับความเสียหาย สามารถเข้าแจ้งความได้ ที่ สภ.เมืองแพร่