Travel Sport & Soft Power
ใช้งานดี!!ชมฝีมือเด็กช่างเทคนิคแปดริ้ว ผลิตรถเข็นไฟฟ้าช่วยรพ.พุทธโสธร
ฉะเชิงเทรา-ใช้งานดี ชื่นชมฝีมือเด็กนักเรียนช่าง วท.แปดริ้ว ผลิตรถเข็นขนส่งอาหารภายในสถานพยาบาลขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า แบ่งเบาภาระงานหนักช่วยบุคลากรทางการแพทย์ทำงานได้อย่างคล่องตัว หลังรถเข็นคันแรกต้นแบบถูกนำไปใช้งานได้ผลดีจริง ในวันนี้ยังมีการส่งมอบเพิ่มเติมอีก 4 คัน ด้านวิทยาลัยผู้ประดิษฐ์ยังเปิดศูนย์ Fix it จิตอาสาไว้คอยให้บริการแก่บุคลากรด่านหน้าเข้ามาใช้บริการได้ฟรีท่ามกลางภาวะวิกฤตของโรคระบาดโควิด 19
วันที่ 7 ก.ย.64 เวลา 09.30 น. ที่หอประชุมพุทธโสธร ภายในวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา พ.ญ.หญิงสมบัติ ชุติมานุกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธโสธร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและบุคลากรกลุ่มงานโภชนาการ รพ.พุทธโสธร ได้เดินทางมารับมอบรถเข็นเสิร์ฟอาหารสำหรับผู้ป่วยขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ถูกจัดทำขึ้นโดยแผนกเทคนิคการผลิตวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา เพิ่มเติมอีกจำนวน 4 คัน
จากเดิมที่เคยได้รับการส่งมอบรถเข็นขนส่งอาหารด้วยระบบไฟฟ้าคันต้นแบบ ให้นำไปใช้งานแล้วก่อนหน้า เมื่อวันที่ 28 เม.ย.64 จำนวน 1 คัน โดยมี นายตั้ง อสิพงษ์ ศึกษาธิการจังหวัด เดินทางมาเป็นตัวแทนในการส่งมอบร่วมกับ นายธวัช ถ้วยทองคำ รอง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา จากนั้นยังได้ร่วมกันเปิดศูนย์บริการซ่อมสร้าง (Fix it) จิตอาสาไว้คอยให้บริการแก่บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ปฏิบัติหน้าที่ในด่านหน้า หรือผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคโควิด 19
รวมถึงประชาชนทั่วไปสามารถนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาใช้บริการตรวจสอบและซ่อมได้ฟรี ท่ามกลางภาวะวิกฤตจากการระบาดของโรค โดยจะเปิดให้บริการระหว่างวันที่ 7-10 ก.ย.64 ในเวลา 09.00-15.00 น. ขณะที่ พ.ญ.หญิงสมบัติ ได้กล่าวชื่นชมถึงความสามารถของเด็กนักเรียนช่างสายอาชีวะ พร้อมระบุว่าถือเป็นผู้มีพระคุณต่อบุคลากรในสถานพยาบาล จากผลงานและฝีมือในการดัดแปลงและติดตั้งระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าให้แก่รถขนส่งอาหารภายในตึกผู้ป่วยในระหว่างพิธีรับมอบ
พร้อมให้ข้อมูลว่า โดยปกติ รพ.พุทธโสธร ซึ่งเป็น รพ.ประจำ จ.ฉะเชิงเทรา มีผู้ป่วยในเฉลี่ยต่อวันประมาณ 500 ราย เดิมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานโภชนาการต้องเข็นอาหารด้วยแรงคน ในการนำส่งอาหารไปยังผู้ป่วยภายในตึกต่างๆ ทั้งตึกที่มีความสูง และเส้นทางลาดชันคล้ายกับเข็นของขึ้นภูเขา จึงก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของนักโภชนาการ ที่ทำงานจนถึงวัยเกษียณและชราภาพ ทำให้บางรายเกิดอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับโรคกระดูกและปวดหลัง
ทาง รพ.พุทธโสธร จึงได้ทำหนังสื่อขอความอนุเคราะห์มายังวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา ให้ช่วยทำการประดิษฐ์หรือติดตั้งระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าให้แก่รถเข็นขนส่งอาหารของทาง รพ.ที่มีอยู่เดิม ให้สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้ และทางวิทยาลัยฯ ได้ทำการประดิษฐ์จนสามารถใช้งานได้ดี พร้อมส่งมอบให้นำไปทดสอบการใช้งานแล้วคันแรก เมื่อช่วงเดือน เม.ย.64 ที่ผ่านมา
โดยพบว่ารถคันแรก ซึ่งเป็นต้นแบบนั้นสามารถใช้งานได้ดีจริงๆ สามารถช่วยผ่อนแรงให้แก่นักโภชนาการลงได้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะขึ้นเนินหรือตึกสูง จนแทบจะไม่ต้องออกแรงเข็นในการเข็นรถเลย ทั้งที่คันแรกที่นำมาติดตั้งระบบไฟฟ้านั้น เป็นรถเข็นอาหารขนาดใหญ่ แต่ยังสามารถใช้งานได้ดีและคล่องตัว ล่าสุดในวันนี้ยังได้มารับมอบรถเข็นอาหารขนาดคันที่เล็กลงมาอีก จำนวน 4 คัน รวมเป็น 5 คันแล้วในการนำไปใช้งานจริง
ซึ่งจะเป็นการช่วยผ่อนเบาภาระงานหนักของนักโภชนาการลงได้มากยิ่งขึ้นไปอีก จากเดิมที่รถบางคันที่มีขนาดใหญ่ต้องใช้เจ้าหน้าที่เข็นถึง 2 คน แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่เพียงคนเดียวก็ยังสามารถนำพาอาหารไปส่งให้แก่ผู้ป่วยตามตึกต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และตรงเวลามากยิ่งขึ้น โดยในอนาคตทาง รพ.พุทธโสธร จะได้ทยอยนำรถเข็นอาหารมาให้ทางวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา ทำการติดตั้งระบบไฟฟ้าให้ทั้งหมดจนเพียงพอต่อการใช้งานต่อไป พ.ญ.หญิงสมบัติ กล่าว
ส่วนด้าน นายธวัช กล่าวถึง ศูนย์ซ่อมสร้าง “Fix it Center” ว่า เป็นนโยบายของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่ต้องการให้วิทยาลัยเทคนิคทั่วประเทศดำเนินตามโครงการนี้เพื่อเป็นการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและให้บริการแก่สังคม โดยในปีนี้ทางวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญทางด้านบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ในการควบคุมและป้องการการระบาดของโรคโควิด 19 ตลอดจนการดูแลรักษาผู้ป่วย เป็นลำดับแรก
จึงได้จัดทำโครงการศูนย์ซ่อมสร้างจิตอาสาขึ้นมา เพื่อช่วยบริการแบ่งเบาภาระให้แก่บุคลากรด่านหน้า และเป็นการสนับสนุนการทำงาน เป็นขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากรที่ต้องเสียสละในการดูแลรักษาผู้ป่วย โดยจะมีการเปิดศูนย์ให้บริการเป็นเวลา 4 วัน ภายในอาคารโดมเอนกประสงค์ของทางวิทยาลัย เพื่อให้บุคคลาการด่านหน้า สามารถนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เข้ามาตรวจเช็คเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ซ่อมแซมอุปกรณ์ส่วนควบ เช่น เปลี่ยนหลอดไฟ น้ำมันเบรก เพื่อให้ยานพาหนะในการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานโดยสมบูรณ์ต่อไป นายธวัช กล่าว
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา