Digitel Tech & AI
'ดีป้า'เผยดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯดิจิทัล ไตรมาสที่1/2568ฟื้นสู่ระดับ‘เชื่อมั่น’

กรุงเทพฯ-วันที่10เมษายน2568, กรุงเทพมหานคร - ดีป้าเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล ไตรมาส 1/2568 ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลง และการแข่งขันด้าน AI ระดับโลก ขณะเดียวกัน การประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มาตรการกีดกันทางการค้าต่างประเทศ และการที่ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับเทคโนโลยีเกิดใหม่ถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อระดับความเชื่อมั่นเผยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยคาดหวังให้ภาครัฐเร่งพัฒนากำลังคนดิจิทัลเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้าเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล(Digital Industry Sentiment Index)ไตรมาส 1 ประจำปี 2568 และไตรมาส 4 ประจำปี 2567ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมย่อย ประกอบด้วยกลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ (Hardware and Smart Device) กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software) กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล (Digital Service) กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์(Digital Content) และกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecommunication) โดยดัชนีความเชื่อมั่นฯไตรมาส1ปี2568อยู่ที่ระดับ50.1ปรับตัวดีขึ้นจาก48.8ของไตรมาสก่อนหน้า(ไตรมาส 4/2567)โดยเป็นผลมาจากปัจจัยด้านผลประกอบการ ด้านปริมาณการผลิตฯ ด้านการจ้างงาน และด้านการลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกัน ปัจจัยด้านคำสั่งซื้อฯ และด้านต้นทุนประกอบการปรับลดลง
ผศ.ดร.ณัฐพลนิมมานพัชรินทร์ผู้อำนวยการใหญ่ดีป้า เปิดเผยว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท และ Easy E-Receipt 2.0 ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลง การย้ายฐานการผลิตของบริษัทต่างชาติ และการแข่งขันด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)ระดับโลก ล้วนส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลไตรมาสแรกปีนี้กลับสู่ระดับ‘เชื่อมั่น’ อีกครั้ง หลังตกลงไปสู่ระดับไม่เชื่อมั่นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 แต่อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลยังมีความกังวลต่อการประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลรวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าต่างประเทศ และการที่ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับเทคโนโลยีเกิดใหม่
ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อระดับความเชื่อมั่นหากแยกตามกลุ่มอุตสาหกรรมพบว่า ไตรมาส 1/2568 มี 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีดัชนีความเชื่อมั่นฯ สูงกว่าระดับ 50ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์มีดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ที่ระดับ 51.5กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล อยู่ที่ระดับ 53.5และกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม อยู่ที่ระดับ52.0ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะและกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์มีดัชนีความเชื่อมั่นฯ ต่ำกว่าระดับ 50 โดยอยู่ที่ระดับ 45.8และ46.4ตามลำดับขณะที่ไตรมาส 4/2567มี 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีดัชนีความเชื่อมั่นฯ สูงกว่าระดับ 50 ได้แก่กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อยู่ที่ระดับ 50.3กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล อยู่ที่ระดับ 53.3และกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมอยู่ที่ระดับ50.2ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ที่ระดับ 44.2และกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์อยู่ที่ระดับ 43.7
“ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยคาดหวังให้ภาครัฐเร่งพัฒนากำลังคนดิจิทัลภายในประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมพร้อมส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและเปิดโอกาสต่อยอดนวัตกรรมเทคโนโลยีเกิดใหม่ สนับสนุนการลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำและลดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ”ผู้อำนวยการใหญ่ดีป้า กล่าว
จากนั้นดร.วารินรัชนานุสรณ์ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ถึงทิศทางการส่งเสริมดิจิทัลสตาร์ทอัพซึ่งอาจมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมดิจิทัลโดยกล่าวว่า ปัจจุบัน ดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงแหล่งทุน การขาดที่ปรึกษาเชิงลึก เครือข่ายระดับนานาชาติที่จำกัด และกลไกภาครัฐที่ยังไม่ยืดหยุ่นเพียงพอ นอกจากนี้ ภาคธุรกิจดั้งเดิมยังไม่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ส่งผลให้ดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยขาดโอกาสในการเติบโตและทดลองจริงในประเทศ การพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นโอกาสของไทยคือ การพัฒนาโปรแกรมรูปแบบใหม่ เช่น Venture Building ที่เชื่อมโยงผู้มีไอเดียธุรกิจกับผู้มีทักษะเทคโนโลยี การสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการร่วมมือมากกว่าการแข่งขัน ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพในการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับดิจิทัลสตาร์ทอัพที่เข้มแข็งจากความพร้อมด้านทรัพยากรบุคคล เทคโนโลยี และความร่วมมือจากหลายภาคส่วนที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากทุกภาคส่วนทำงานส่งเสริมกันอย่างเป็นระบบ สตาร์ทอัพไทยจะไม่เพียงช่วยยกระดับเศรษฐกิจ แต่จะสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีให้กับประเทศในระยะยาวและอาจมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลได้
สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล ไตรมาส 1ประจำปี 2568 และไตรมาส 4ประจำปี2567ผ่านช่องทางการสื่อสารของ ดีป้า ไม่ว่าจะเป็นwww.depa.or.th/th/depakm/digital-indicators, LINEOA: depaThailandและเพจเฟซบุ๊ก depa Thailand