Authority & Harm
ชาวบ้านโพธิ์ตรุ ลพบุรีทนความเหม็นขี้หมู มานาน30ปีหน่วยงาน-นอภ.ช่วยที

ลพบุรี-ชาวบ้านตำบลโพธิ์ตรุ ลพบุรี ทนความเหม็นจากเลี้ยงหมู มานานร่วม30ปี หน่วยงานไม่แก้ไข้ไห้ชาวบ้านเลยต้องไปพึ่งนายอำเภอเมืองลพบุรีช่วยที
เมื่อวันที่ 16มิ.ย.68 13 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวบ้านตำบลโพธิ์ตรุ อำเภอเมืองจังหวัดลพบุรี ขอร้องเรียนต่อนายรัชพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อนจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ มานานนับ 10 ปี ชาวบ้านกลุ่มนี้บอกว่าเคยร้องเรียนไปยัง อบต.โพธิ์รุ แล้วแต่ก็ไม่ประสบสำเร็จ
จากนั้นนายรัชพล ธุระพันธุ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้เปิดเผยว่าตนได้ลงพื้นที่ร่วมประชุมและติดตามการแก้ไขปัญหากรณีการเหม็นกลิ่นขี้หมู ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ม.5 ต.โพธิ์ตรุ จากการตรวจสอบในหนังสือร้องเรียนของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ พบว่าสถิติย้อนหลัง ฟาร์มเลี้ยงหมูจำนวน 3 แห่งถูกร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ปีละ 2 - 3 ครั้ง รวม 3 ปี โดนร้องเรียนมาแล้วแห่งละ 5-8 ครั้ง หากนับเฉพาะปีนี้ (2568) ก็โดนร้องเรียนมาไม่น้อยกว่า 2-3 ครั้งแล้ว
นายอำเภอบอกว่า นั่นแสดงว่าหากวิเคราะห์ให้รอบทุกๆด้านแล้ว ก็แปลว่า การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาไม่สำเร็จผล (อาจจะแก้ไม่ตรงจุดตามข้อแนะนำของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง จนท.อบต., ปศุสัตว์อำเภอ, ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด, ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยอยู่บริเวณนั้น เพราะยังอ้างว่ากลิ่นขี้หมู ยังไม่หายไปไหน ยังเหม็นอยู่เหมือนเดิม
นายอำเภอเมืองลพบุรียังกล่าวด้วยว่า อบต.ในพื้นที่ได้ปรึกษาหารือกับผมก่อนหน้านี้ว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรดี ผมแนะนำให้เชิญผู้ประกอบการเลี้ยงหมูทั้งหมดจำนวน 3 ฟาร์ม พร้อมตัวแทนของบริษัท ซีพี มหาชน จำกัด ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุน ส่งเสริมวัสดุ อุปกรณ์การเลี้ยงรวมทั้งพันธุ์หมูมาด้วย ฝ่ายหนึ่ง กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ อีกฝ่ายหนึ่ง โดยมีส่วนราชการ ประกอบด้วย อบต.พื้นที่ ปศุสัตว์อำเภอ, ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด, อำเภอ, รพ.สต.ในพื้นที่ , ร.ร.ในพื้นที่ อีกฝ่ายหนึ่ง โดยมีนายอำเภอเมืองลพบุรี เข้ามาเป็นประธานรับฟังปัญหา แล้วหาทางออกร่วมแก้ไขปัญหาตะได้จบสิ้นซะที
จากการรับฟังการนำเสนอของผู้ประกอบการฟาร์มฯ อ้างว่าได้แก้ไขตามคำแนะนำจาก จนท. หน่วยงานราชการ ให้คำแนะนำแล้ว.. แต่ส่วนพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ก็บอกว่ายังไม่พอใจ ยังมีกลิ่นเหม็นเข้ามาให้สูดดมอยู่ตลอดเวลา ต้องทนทุกข์ อดทนกับกลิ่นเหม็นขี้หมูนี้มาเป็นเวลานานถึง 30 กว่าปีแล้ว จึงได้เสนอให้ฝ่ายผู้ประกอบการ หยุดเลี้ยงอย่างถาวร(จะได้ไหม) ซึ่งผู้ประกอบการก็อธิบายว่า ได้ลงทุนลงแรง ลงงบประมาณไปแล้วมากมาย จำเป็นจะต้องเลี้ยงต่อไปให้คุ้มทุนก่อน โดยก็ได้พยายามแก้ไขปัญหานี้อยู่ตลอดมา แต่สุดท้ายชาวบ้านก็ยังไม่พอใจอยู่ดี
วันนี้ผมจึงหาทางออกในเบื้องต้นก่อนว่า อำเภอจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกัน 3 ฝ่ายประกอบด้วย ฝ่ายข้าราชการ ฝ่ายผู้ประกอบการฟาร์มหมูและฝ่ายตัวแทนพี่น้องประชาชน จัดให้มีหน้าที่ร่วมกันไปศึกษาหาวิธีการ แนวทางที่ประสบความสำเร็จแล้วจากกรณีคล้ายกันที่ฟาร์มหมูตั้งอยู่ในเขตชุมชนที่พักอาศัยเช่นเดียวกับพวกเราที่นี่ แต่เขากลับได้รับการยอมรับจากประชาชนที่พักอาศัย อยู่รอบๆพื้นที่ตรงนั้น และไม่มีการร้องเรียนเลย เขาทำหรือมีเงื่อนไขยังไง แล้วให้นำมาประยุกต์ใช้กับพื้นที่ของพวกเราต่อไป
เมื่อคณะกรรมการฯได้แนวทางแล้วผมจะได้เชิญประชุมพร้อมกันทั้ง 3 ฝ่ายจะเสนอหรือจะแก้ไขอย่างไรก็ให้จบสิ้นกระบวนความกันตรงนั้น ในขณะเดียวกันเมื่อฟาร์มใดจับหมูขายในรอบนี้แล้ว ให้หยุดลงหมูรอบใหม่ไว้ก่อน เพื่อให้นำแนวทางที่จะปรับปรุงแก้ไขตามแนวทางของคณะกรรมการชุดนี้เสียก่อน(ซึ่งทางฟาร์มรับได้/ประชาชนรับได้ เนื่องจากรอการจับหมูอีกแค่ 2 สัปดาห์และ 1 เดือนกว่าเท่านั้น) แล้วต่อไปจะได้มอบแนวทางนั้นๆให้กับผู้ประกอบการฟาร์มหมูนำไปปฏิบัติ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน แนวทางนี้แก้ไขปัญหาได้ผลหรือไม่ อย่างไร หากแก้ปัญหาได้จริงก็แสดงว่านี่คือความสำเร็จของการ “บูรณาการร่วม 3 ฝ่าย ” (โบราณว่า 1 คนหัวหาย 2 คนเพื่อนตาย 2 หัว ดีกว่าหัวเดียวกระเทียมลีบ) แต่หากยังแก้ไขไม่ได้ พวกเราก็จะต้องหาแนวทางใหม่อีกครั้งหนึ่ง จนสุดท้ายแล้ว หากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆได้เลย ก็อาจจะนำไปสู่การยกเลิกใบอนุญาตการจัดทำฟาร์มเลี้ยงหมูในเขตชุมชนที่พักอาศัยของประชาชนผ่านอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อบต.โพธิ์ตรุ)ต่อไป นายอำเภอกล่าว
ทวีศีกดิ์/ลพบุรี