In Thailand
เส้นทางการเมืองที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ 'ดร.ฉลาด ขามช่วง'

กาฬสินธุ์-สัมภาษณ์พิเศษ-ดร.ฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด เขต 2 พรรคเพื่อไทย อดีตทนายชาวบ้าน ก่อนก้าวสู่ถนนการเมืองอย่างเต็มตัว ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน 9 สมัยติดต่อกัน เป็น “สส.น้ำดีมีคุณภาพ” ได้รับการแต่งตั้งทำหน้าที่สำคัญๆหลายบทบาท เช่น เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประธานกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ สภาผู้แทนฯ ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนฯ โดยนำพาคณะกมธ.ป.ป.ช.สร้างผลงานที่โดดเด่น เป็นรูปธรรมหลายเรื่อง ผดุงความยุติธรรมให้กับภาครัฐ เอกชน และพิทักษ์งบประมาณแผ่นดินได้เป็นอย่างดียิ่ง กระทั่งล่าสุดได้รับการเสนอชื่อ เป็นรองผู้ประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2
ดร.ฉลาด ขามช่วง กล่าวว่าการทำหน้าที่นักการเมืองของตนที่ผ่านมา ถึงแม้เวลาส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปที่การทำหน้าที่ผู้แทนในสภา แต่หน้าที่ประจำคือยังอยู่ติดพื้นที่ไม่หนีปัญหา ยังให้คำปรึกษาแก่พี่น้องประชาชน ที่ต้องการความช่วยเหลือด้านคดีความ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านต่างๆ เพื่อนำไปสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย เป็นการเติมเต็มความสุขให้กับพี่น้องประชาชน และนำความเจริญก้าวหน้าให้กับสังคมในทุกมิติ ควบคู่กับทำหน้าที่ กมธ.ป.ป.ช.ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีได้รับการร้องเรียนเรื่องต่างๆ เพื่อติดตาม ตรวจสอบ อย่างเช่น กรณี 8 โครงการ 7 โคตร ผู้รับจ้างทิ้งงานที่ จ.กาฬสินธุ์, กรณีพนังป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชีทรุดตัว เขต ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด และกรณีตึก สตง.ถล่ม ที่กรุงเทพฯ เป็นต้น ซึ่งทุกกรณีที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ได้สรุปสำนวนส่งภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และเข้าสู่กระบวนการแก้ไขแล้วในระดับหนึ่ง
ดร.ฉลาดกล่าวอีกว่า พื้นที่ร้อยเอ็ด เขต 2 ประกอบด้วย อ.จังหาร อ.โพธิ์ชัย อ.เชียงขวัญ อ.โพนทอง (บางส่วน) และ อ.ธวัชบุรี (บางส่วน) หลายตำบลยังมีปัญหาและความต้องการพัฒนาด้านต่างๆ เช่น ได้ผลักดันงบประมาณกรมทางหลวง ได้ดำเนินการขยายช่องทางจราจรหลายสายและติดตั้งไฟจราจร ไฟส่องสว่างหลายจุด เพื่ออำนวยความสะดวก ลดการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ในส่วนพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งเป็นประจำทุกปีนั้น ได้ประสานกรมชลประทาน และกรมโยธาธิการฯ ผลักดันงบประมาณดำเนินการ หลายจุดอยู่ในระหว่างก่อสร้างประตูปิด-เปิดน้ำ และการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง บางจุดอยู่ระหว่างรองบประมาณสนับสนุน รวมทั้งประสานกับกระทรวงพาณิชย์ ในส่วนของการจำหน่ายผลผลิตภาคการเกษตรที่สำคัญ คือข้าวหอมมะลิ อ้อย มันสำปะหลัง และประสานกับกระทรวงเกษตร ในด้านการลดทุน เพิ่มผลผลิตภาคการเกษตร ในภาวะต้นทุนการผลิตสูง และราคารับซื้อผลผลิตที่ตกต่ำ รายได้ไม่คุ้มทุน
ดร.ฉลาดอธิบายต่อว่า สำหรับภาคการเกษตร หัวใจสำคัญคือลดทุน เพิ่มผลผลิต ขายได้กำไร พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา โดยปลูกข้าวหอมมะลิ เป็นหลักรองลงมามีข้าวเหนียว อ้อย มันสำปะหลัง ที่ผ่านมาประสบปัญหาน้ำท่วม ผลผลิตเสียหาย ได้ผลผลิตไม่คุ้มทุน วิธีการแก้ไขที่มองไว้คือ กำลังเจรจากับทางกระทรวงเกษตร ในการคัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวอายุสั้น คุณภาพดี สามารถย่นระยะเวลาเพาะปลูกได้ปีละ 3 ครั้ง ขณะที่กระบวนการผลิต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตร ก็ต้องมาควบคุมต้นทุนการผลิต ดูราคารับซื้อผลผลิต เช่น ปุ๋ยราคาถูก คุณภาพดี ให้ผลผลิตสูง เพื่อพี่น้องเกษตรกรลงทุนน้อย ทำงานน้อย แต่ได้ผลตอบแทนมาก ในส่วนพี่น้องเกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธกส.ที่มีมูลค่าหนี้สูงกว่า 3 แสนบาท ที่ยังไม่อยู่ในเงื่อนไขได้รับสิทธิ์พักชำระหนี้ ก็มีแนวทางที่จะให้ความช่วยเหลือให้เข้าถึงสิทธิ์นั้น เช่นเดียวกันลูกหนี้รายย่อยของ ธกส.ที่มีมูลค่าหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาท ก็จะพยามยามผลักดันให้สำเร็จ เพื่อความเสมอภาคของพี่น้องประชาชนทุกสาขาอาชีพ
“ตนได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชาว จ.ร้อยเอ็ด เขต 2 มา 9 สมัย ช่วงชีวิตที่ผ่านมาทำหน้าที่เพื่อสังคม ด้วยความทุ่มเท เสียสละ โดยยึดพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางมาตลอด ขณะที่การทำหน้าที่ประธาน กมธ.ป.ป.ช.ฯ ก็ปฏิบัติตามกรอบอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อตรวจสอบและแสวงหาความกระจ่าง และนำไปสู่การแก้ไข ทั้งนี้ เพื่อผดุงความยุติธรรมให้กับภาครัฐ เอกชน พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์ ตลอดทั้งเพื่อพิทักษ์งบประมาณแผ่นดิน ให้มีการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนสมาชิก สส. ที่ได้เสนอชื่อเป็นรองประธานสภาคนที่ 2 ในครั้งนี้ ตนจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ทั้งในสภาและนอกสภา และที่สำคัญจะทำตัวเป็นกลางทางการเมือง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสภาฯ และประโยชน์ของพี่น้องประชาชน รวมทั้งเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน โดยจะทำหน้าที่จนสุดความสามารถ” ดร.ฉลาดกล่าวในที่สุด
สำหรับประวัติของ ดร.ฉลาด ขามช่วง เกิดเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2499 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง จบปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (วิศวกรรมอุตสาหการ) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร หลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.2) สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรการเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่น 7 (4ส7) สถาบันพระปกเกล้า 2559
เคยเป็นทนายความ เจ้าของโปรไฟล์ “ทนายชาวบ้าน” ก่อนจะลงเล่นการเมืองท้องถิ่นในระดับท้องถิ่น โดยได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา จ.ร้อยเอ็ด เขตอำเภอโพธิ์ชัย 3 สมัย และยังเป็นรองประธานสภา อบจ.ร้อยเอ็ด 3 ปีซ้อน ต่อมาในปี 2535 ได้รับการเลือกตั้งครั้งแรกเป็น ต่อเนื่องปี 2538, 2539 และ 2544 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาในปี 2548 ดร.ฉลาดได้ย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย และได้รับการเลือกตั้ง เมื่อพรรคถูกยุบ ได้ย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชาชน ได้เป็น สส.ร้อยเอ็ดอีกสมัย ก่อนที่พรรคจะถูกยุบอีกครั้ง และย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทย และได้รับการเลือกตั้งเรื่อยมาทุกสมัย ตั้งแต่ปี 2554, 2562 และ 2566 รวมเป็น สส.จังหวัดร้อยเอ็ด รวม 9 สมัย
ทั้งนี้ เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (2540-2544) เป็นประธานคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร (2554-2556) เป็นประธาน กมธ.ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร ต่อจาก รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และล่าสุดได้รับเลือกให้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทั้งนี้ ก็ด้วยคุณสมบัติและศักยภาพ“สส.น้ำดี” เดินบนถนนการเมืองมาถึง 9 สมัยโดยไม่สะดุด เปรียบทุกก้าวย่างที่ทำหน้าที่ “ผู้แทน” เพื่อประชาชน เพื่อแผ่นดินเกิดและเพื่อประเทศชาติ โรยด้วยกลีบกุหลาบ เหมาะสมยิ่งแล้วกับเก้าอี้ทรงเกียรติ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2