Authority & Harm

จัดนิ่มแต่เชือดหนักตร.ภ.7แถลงปิดจ๊อบ แจ้งข้อหา4กลุ่มคดีคานปูนพระราม2ถล่ม 



นครปฐม-รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำผู้บังคับการรองผู้บังคับการและผู้กำกับการ แถลงปิดคดีเหตุคานปูนถนนยกระดับพระราม 2 ถล่มทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยวันนี้ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาหนัก ในสี่กลุ่ม ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐพวกควบคุมงาน โดนคดี 157 ไปด้วย ส่วนเอกชนและผู้ถือคู่สัญญาก็โดนคดีอีกหลายหลายคน โดย ย้ำว่านี่คือครั้งแรกในการดำเนินคดีของผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในความเข้มงวดและจริงจังในการก่อสร้างหากเกิดเหตุอีกจะใช้คดีนี้เป็นตัวอย่างในการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป ส่วนทางญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหากยังไม่พอใจการชดเชยสามารถยื่นฟ้องทางแพ่งเอาผิดได้อีกหนึ่งช่องทางอีกด้วย 

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม 2568 เวลา 14.30 น. ณ ห้องโถงอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 7 ชั้น 1 อ.เมืองนครปฐม จว.นครปฐม พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รับผิดชอบฝ่ายกฎหมายและสอบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร , พ.ต.อ.ภคิน ศิวเมธากุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร และ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร แถลงข่าวความคืบหน้าและปิดคดี คานปูนและเครนก่อสร้างถนนยกระดับบนถนนพระราม 2 ถล่มทำให้มีผู้เสียชิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา 

พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เผยว่า จากเหตุการณดังกล่าว ได้เกิดเหตุคานปูนและเครนก่อสร้างถนนยกระดับบนถนนพระราม 2  ของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน -บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย - บ้านแพ้ว ตอน 1 ช่วง กม.21+600 เขตพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 2 ตำบลคอกกระบือ  อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครหล่นจากที่ติดตั้งลงมาเป็นเหตุให้มีคนงานรับบาดเจ็บและเสียชีวิต จำนวน  6  ราย  ประกอบด้วย 1.นายอภิวัฒน์ พะพันทาง อายุ 30 ปี สัญชาติไทย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ  2. นายเอหรือAYAR อายุ 37 ปี เสียชีวิตที่ รพ.สมุทรสาคร 3.นายสุทัศน์ บุญเรื่อง อายุ 31 ปี สัญชาติไทย เสียชีวิตที่ รพ.มหาชัย 1 4.นายชิต โกโก เมียนมา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 5.นายเพียว โก โก เมียนมา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 6.นายอ่อง เทียน เท เมียนมา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีผู้บาดเจ็บ    รักษาตัวอยู่ใน รพ.สมุทรสาคร จำนวน 4ราย ประกอบด้วย 1.นายนัน โกโก อายุ 24 ปี เมียนมา 2.นายเบ ดา อายุ 34 ปี เมียนมา 3.นายวรยศ ศรีรีเวช อายุ 25 ปี 4.นายพสิน ผิวทน อายุ 19 ปี และรักษาที่ รพ.เอกชัย จำนวน 1 ราย คือนายพงษ์ศักดิ์ นรสาร อายุ 35 ปี รักษาที่ รพ.วิชัยเวชสมุทรสาคร จำนวน 1ราย คือนายทรงวุฒิ พุทธเสน อายุ 18 ปีเศษ ผู้บาดเจ็บที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย  1.นายสอย โกโก อายุ 20 ปี ถลอกที่ศีรษะ  2.นางสาวเมตู มิน อายุ 32 ปี เป็นลม 3.นายอองซอ นิน อายุ 31 ปี ถลอกร่างกายสรุป เสียชีวิต 6 (คนไทย 2 ต่างด้าว 4) บาดเจ็บ 9 (คนไทย 4 ต่างด้าว 5)   
 
โดยเหตุการณ์ ดังกล่าว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาส่งเสริม สนับสนุน และแก้ไขปัญหางานสอบสวนอันเป็นอำนวยความยุติธรรมทางอาญา ให้ตำรวจเป็นที่พึ่งพิงของประชาชนอย่างแท้จริง ตำรวจภูธรภาค 7 โดยการนำของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีความเห็นว่า เหตุดังกล่าวนี้ได้เกิดขึ้นซ้ำมาหลายครั้งแล้วและ มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน ต่อเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้าง จึงได้เร่งรัด กำชับ การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลโดยมีผลสรุป ผลการสอบสวนได้ ได้แยกดำเนินคดีแบ่ง เป็น 4 กลุ่ม คือ 

กลุ่มที่ 1 กลุ่มอาญา บุคคลธรรมดา ส่งพนักงานอัยการดำเนินคดี
ฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ,มาตรา 300 , มาตรา 390ฐาน เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบวิชาชีพ เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227, มาตรา 238ดำเนินคดีกับ 
1. วิศวกรผู้ควบคุมงานของบริษัท อุดมศักดิ์ เชียงใหม่ จำกัด
2. นายช่างฯผู้ควบคุมงานของกรมทางหลวง 
3. หัวหน้าคนงาน บริษัท พีเอซีไอ คอนสตรัคชั่นจำกัด 

กลุ่มที่ 2 กลุ่มอาญานิติบุคคล บริษัท ฯ ผู้รับเหมาที่เป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นคู่สัญญากับรัฐ และบริษัท ฯ ผู้รับจ้างช่วง ฐานเป็นผู้กระทำความผิดในทางอาญา  ส่งพนักงานอัยการดำเนินคดีฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ,มาตรา 300 , มาตรา 390ฐาน เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบวิชาชีพ เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227, มาตรา 238 
พระราชบัญญัติอาชีวอนามัย ฯ พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ฯดำเนินคดีกับ 
1. บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด ผู้รับจ้างหลัก  
2. บริษัท พี เอส ซี ไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ผู้รับจ้างช่วง

กลุ่มที่ 3 กลุ่มความผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าพนักงาน(เจ้าหน้าที่ของรัฐ)   ส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ดำเนินการในอำนาจหน้าที่ ต่อไป
ฐาน ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปี ถึงสิบปีหรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐาน เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบวิชาชีพ เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227, มาตรา 238 
ดำเนินคดีกับ หัวหน้าผู้รับผิดชอบควบคุมโครงการที่เกิดเหตุของ กรมทางหลวง

กลุ่มที่ 4 กลุ่มผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด คือ บริษัท ฯ ผู้รับเหมาที่เป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นคู่สัญญากับรัฐ และบริษัท ฯ ผู้รับจ้างช่วง ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานให้กระทำความผิด ส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ดำเนินการในอำนาจหน้าที่ ต่อไป

โดยแจ้งข้อหาฐาน ผู้ใดเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปี ถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบ มาตรา 86 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำ ความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวก นั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น
ดำเนินคดีกับ 
1. บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด ผู้รับจ้างหลัก  
2. บริษัท พี เอส ซี ไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ผู้รับจ้างช่วง
 
พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวอีกว่า ในส่วนของญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหากยังไม่พึงพอใจในการเยียวยาและชดใช้ก็สามารถฟ้องร้องเอาผิดในคดีทางแพ่งได้ซึ่งตอนนี้ก็รอการสรุปสำนวนจากเราก็คือคดีทางอาญาต้นทางซึ่งได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกที่มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเนื่องจากส่วนใหญ่พบว่าย้อนกลับไปดูสำนวนจากเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจะมีการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดและเสียชีวิต และอ้างว่าเป็นความประมาทของผู้ตายก็ทำให้คดีนั้นจบลง แต่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมีความละเลยและเพิกเฉยในกรณีดังกล่าวไปด้วย ซึ่งเราได้มีการดำเนินคดีมาตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ เพื่อที่จะหาข้อเท็จจริงโดยมีการรวบรวมข้อมูลจากหลายหน่วยงานทั้งวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการดำเนินการทางด้านวิชาการเป็นหลักเพื่อที่จะไม่ให้เกิดกรณีการปล่อยประละเลยจนกระทั่งเกิดเหตุน่าสนใจเช่นนี้อีก 

"ผมเชื่อว่าการดำเนินคดีครั้งนี้จะเป็นมาตรฐานใหม่ในการกำหนดบทบาทหน้าที่ของผู้มีส่วนรับผิดชอบในโครงการทั้งภาครัฐเอกชนซึ่งเรายังพบว่า คู่สัญญาได้มีการส่งงานไปให้ผู้รับเหมารายอื่นต่อเนื่องซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้กระบวนการเหล่านี้จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังซึ่งขอ ให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการเข้มงวดกับมาตรการต่างๆในการก่อสร้างถนนและทางยกระดับในเส้นทาง พระราม 2 โดยคดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างที่จะต้องนำมาใช้เป็นต้นแบบในการดำเนินคดีกับความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอน" รองผู้จัดการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวปิดท้าย