Biz news

สนง.คปภ.ออกมาตรการผ่อนผันเงื่อนไข กรมธรรม์จากพายุ-ความไม่สงบชายแดน



กรุงเทพฯ-สำนักงาน คปภ. ออกมาตรการผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย   จากอิทธิพลพายุ และในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ตระหนักถึงความเดือดร้อนที่ได้รับจากสถานการณ์อันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุที่สร้างความเสียหายต่อหลายพื้นที่ทั่วประเทศ และเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชา ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ และทรัพย์สิน รวมถึงกระทบต่อการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพในวงกว้าง ดังนั้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เอาประกันภัยที่อยู่ในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยจากอิทธิพลของพายุ และในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชา สำนักงาน คปภ. ได้ออกมาตรการเพื่อให้ความคุ้มครองอย่างต่อเนื่องและบรรเทาภาระทางการเงินแก่ผู้เอาประกันภัย โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

มาตรการผ่อนผันเงื่อนไขการชำระเบี้ยประกันภัย การต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย และการคงสิทธิความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัย สำหรับผู้เอาประกันภัยในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยอันเกิดจากอิทธิพลของพายุ

มาตรการนี้เกิดจากการที่สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประชุมหารือกับหน่วยงานและทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินผลกระทบและกำหนดแนวทางช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยในพื้นที่ประสบสาธารณภัยจากอิทธิพลของพายุ   โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ความคุ้มครองต่อเนื่อง บรรเทาภาระทางการเงิน และสนับสนุนการฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุดังกล่าว ให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง สำนักงาน คปภ. จึงได้ออกคำสั่งนายทะเบียน 3 ฉบับ เพื่อกำหนดมาตรการผ่อนผันเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยครอบคลุมทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ได้แก่

1. คำสั่งนายทะเบียนที่ 41/2568 เรื่อง การผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยจากอิทธิพลของพายุ ตามรายงานสถานการณสาธารณภัย กรมปองกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย สำหรับบริษัทประกันชีวิต เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เอาประกันภัย กำหนดให้บริษัทประกันชีวิตผ่อนผันเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 โดยให้บริษัทขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยออกไปอีก 60 วันนับแต่วันครบระยะเวลาผ่อนผันเดิม ผ่อนผันการงดตรวจสุขภาพและยกเว้นดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นสำหรับการต่ออายุ และการกลับคืนสู่สถานะเดิมของกรมธรรม์ประกันภัย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงงวดการชำระเบี้ยประกันภัยหรือกรณีชำระเบี้ยประกันภัยรายงวดที่น้อยกว่า 1 ปี โดยให้บริษัทประกันชีวิตผ่อนผันไม่เรียกเก็บดอกเบี้ยในช่วงเวลาดังกล่าว

2. คำสั่งนายทะเบียนที่ 44/2568 เรื่อง การผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยจากอิทธิพลของพายุ ตามรายงานสถานการณสาธารณภัย กรมปองกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เอาประกันภัย กำหนดให้บริษัทประกันวินาศภัยผ่อนผันเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 โดยให้บริษัทขยายระยะเวลาการเก็บเบี้ยประกันภัยออกไปแต่ไม่เกิน 90 วัน และการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพ กรมธรรม์ประกันภัยโรคร้ายแรง หรือกรมธรรม์ประกันภัยที่มีการคุ้มครองในลักษณะเดียวกันให้ผ่อนผันการงดตรวจสุขภาพสำหรับการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย โดยให้ถือว่าความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยในปีต่ออายุ เป็นความคุ้มครองต่อเนื่องในปีก่อนหน้า และไม่นำเงื่อนไขทั่วไปเรื่องสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัยและเรื่องระยะเวลาที่ไม่คุ้มครองมาเริ่มนับใหม่

3. คำสั่งนายทะเบียนที่ 46/2568 เรื่อง การผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยจากอิทธิพลของพายุ ตามรายงานสถานการณสาธารณภัย กรมปองกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กำหนดให้บริษัทประกันวินาศภัยผ่อนผันเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 โดยให้ครอบคลุมการทำสัญญาประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท (ยกเว้นรถยนต์กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2) ที่กำหนดไว้ในพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 45/2567 เรื่อง ให้ใช้แบบ ข้อความ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า และคำสั่งนายทะเบียนที่ 46/2567 เรื่อง ให้ใช้แบบ ข้อความ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ บริษัทอาจผ่อนผันการเก็บเบี้ยประกันภัยและรับเบี้ยประกันภัยได้จนถึง 180 วัน นับแต่วันที่สัญญาประกันภัยมีผลใช้บังคับ หรือวันที่สัญญาประกันภัยเริ่มต้นมีผลคุ้มครอง

มาตรการผ่อนผันเงื่อนไขการชำระเบี้ยประกันภัย การต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย และการคงสิทธิความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัย สำหรับผู้เอาประกันภัยในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทยและกัมพูชา

มาตรการนี้เป็นผลจากการที่สำนักงาน คปภ. ขานรับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง โดย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสถาบันการเงินของรัฐ รวมถึงสำนักงาน คปภ. ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้เอาประกันภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ความคุ้มครองต่อเนื่อง บรรเทาภาระทางการเงิน และเสริมสภาพคล่องในการดำรงชีวิตจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยได้ออกคำสั่งนายทะเบียน 3 ฉบับ ครอบคลุมทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ได้แก่

1. คำสั่งนายทะเบียนที่ 42/2568 เรื่อง การผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา สำหรับบริษัทประกันชีวิต กำหนดให้บริษัทประกันชีวิตผ่อนผันเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 โดยให้บริษัทขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยออกไปอีก 60 วัน นับแต่วันครบระยะเวลาผ่อนผันเดิม ผ่อนผันการงดตรวจสุขภาพและยกเว้นดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นสำหรับการต่ออายุ และการกลับคืนสู่สถานะเดิมของกรมธรรม์ประกันภัย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงงวดการชำระเบี้ยประกันภัยหรือกรณีชำระเบี้ยประกันภัยรายงวดที่น้อยกว่า 1 ปี โดยให้บริษัทประกันชีวิตผ่อนผันไม่เรียกเก็บดอกเบี้ยในช่วงเวลาดังกล่าว

2. คำสั่งนายทะเบียนที่ 45/2568 เรื่อง การผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย กำหนดให้บริษัทประกันวินาศภัยผ่อนผันเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 โดยให้บริษัทขยายระยะเวลาการเก็บเบี้ยประกันภัยออกไปแต่ไม่เกิน 90 วัน และการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพ กรมธรรม์ประกันภัยโรคร้ายแรง หรือกรมธรรม์ประกันภัยที่มีการคุ้มครองในลักษณะเดียวกันให้ผ่อนผันการงดตรวจสุขภาพสำหรับการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย โดยให้ถือว่าความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยในปีต่ออายุเป็นความคุ้มครองต่อเนื่องในปีก่อนหน้า และไม่นำเงื่อนไขทั่วไปเรื่องสภาพที่เป็นมาก่อน การเอาประกันภัยและเรื่องระยะเวลาที่ไม่คุ้มครองมาเริ่มนับใหม่

3. คำสั่งนายทะเบียนที่ 43/2568 เรื่อง การผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา กำหนดให้บริษัทประกันวินาศภัยผ่อนผันเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 โดยให้ครอบคลุมการทำสัญญาประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท (ยกเว้นรถยนต์กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2) ที่กำหนดไว้ในพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 45/2567 เรื่อง ให้ใช้แบบ ข้อความ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า และคำสั่งนายทะเบียนที่ 46/2567 เรื่อง ให้ใช้แบบ ข้อความ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ บริษัทอาจผ่อนผันการเก็บเบี้ยประกันภัยและรับเบี้ยประกันภัยได้จนถึง 180 วัน นับแต่วันที่สัญญาประกันภัยมีผลใช้บังคับ หรือวันที่สัญญาประกันภัยเริ่มต้นมีผลคุ้มครอง

 “มาตรการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสำนักงาน คปภ. ในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัให้ได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง แม้ในสถานการณ์ไม่ปกติ โดยหลังจากนี้ สำนักงาน คปภ. จะมีการหารือร่วมกับ สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย ภาคธุรกิจประกันภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และกำหนดมาตรการช่วยเหลือด้านการประกันภัยให้ครอบคลุมรอบด้านและทันต่อเหตุการณ์ ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยหรือได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อบริษัทประกันภัยของตนเพื่อใช้สิทธิตามมาตรการได้ทันที หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงาน คปภ. จังหวัด โทรสายด่วน คปภ. 1186 และเว็บไซต์ www.oic.or.th” นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย