Digitel Tech & AI
'ชไนเดอร์ฯ'เปิดเวที Innovation Talk พลิกโฉมวงการเฮลท์แคร์สู่ความยั่งยืน

กรุงเทพฯ-ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ จัดงานเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น “Innovation Talk : Revolutionizing Healthcare through Sustainability” พร้อมแนะกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ใช้โซลูชั่นจัดการระบบพลังงานเพื่อตัวชี้วัดที่แม่นยำนำองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบรับข้อกำหนดตามพ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่จะมีผลประกาศใช้ในปี 2569
งาน Innovation Talk ในหัวข้อ “Revolutionizing Healthcare through Sustainability” ได้รับความสนใจจากนักวิชาการ ผู้นำองค์กรในวงการแพทย์ชั้นนำ เจ้าหน้าที่รับผิดชอบฝ่ายสิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาลทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ทั่วประเทศ รวมไปถึง กรมอนามัยและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกรุงเทพมหานคร เป็นต้น เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง พร้อมชมบูทแสดงนวัตกรรมโซลูชั่นที่ช่วยให้การจัดการพลังงานมีประสิทธิภาพด้วยตัวชี้วัดที่แม่นยำ
มงคล ตั้งศิริวิช ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า ในฐานะที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกมีความยึดมั่นในการสร้างความยั่งยืนให้กับลูกค้าและคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อทรานส์ฟอร์เมชั่นกลุ่มอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ในครั้งนี้ มุ่งหวังให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับแนวคิดในการบริหารจัดพลังงานเพื่อนำไปปรับใช้ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นรูปธรรม สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับระบบนิเวศ และเป็นความยั่งยืนที่ตอบรับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในระดับสากล
The Importance of Sustainability
สำหรับไฮไลท์ภายในงานนี้คือเวทีเสวนาซึ่งรับได้เกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญหลายมิติ ได้แก่ รศ.ดร.ณัฐนี วรยศ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, รศ.ดร.หาญพล พึ่งรัศมี จากศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านพลังงานเชิงนิเวศเศรษฐกิจ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดร.สานิตย์ แสงขาม ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนการบริการ โรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง และเผดิมศักดิ์ รัตนเรืองศักดิ์ รองประธานฝ่ายธุรกิจ เพาเวอร์ โพรดักส์ และ ดิจิทัล เอนเนอร์จี ดูแลกลุ่มคลัสเตอร์ ไทย ลาว และเมียนมา ร่วมแลกเปลี่ยนความความคิดเห็นในหัวข้อ “The Importance of Sustainability” โดยประเด็นที่น่าสนใจในเวทีเสวนาครั้งนี้คือ ข้อกำหนดของร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้นและคาดว่าจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการในปี 2569 ทำให้ทุกอุตสาหกรรมต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืนในอนาคตมากขึ้น ซึ่งธุรกิจกลุ่มเฮลท์แคร์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ที่ตัวอาคารมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด ทั้งนี้ข้อกำหนดของร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ระบุอย่างชัดเจนว่าได้จัดตั้งระบบกลไกราคาคาร์บอน
(Carbon Pricing Mechanism) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่จูงใจให้ผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรับผิดชอบต้นทุนที่แท้จริงตามหลักการ "ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย" (Polluter Pays Principle) ผ่านการดำเนินการควบคู่กันของระบบซื้อขายสิทธิ์ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Trading Scheme - ETS) และการมก็บภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) นอกจากนี้ยังมีการบังคับใช้กลไกราคาคาคาร์บอนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism - CBAM) เพื่อป้องกันการรั่วไหลของคาร์บอนและรักษาความสามสามารถในการแข่งชันของประเทศไทยในตลาดโลก ดังนั้นการคำนวณที่ชัดเจนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ การใช้นวัตกรรมโซลูชั่นเพื่อบริหารจัดการ ตั้งแต่เริ่มต้นเก็บข้อมูลการใช้พลังงาน การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ การชี้วัดประเมินผลที่แม่นยำ เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงการบริหารจัดการพลังงาน สู่เป้าหมายการกำหนดปริมาณการปล่อยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
Key Priorities for Net-Zero Buildings
เผดิมศักดิ์ รัตนเรืองศักดิ์ รองประธานฝ่ายธุรกิจ เพาเวอร์ โพรดักส์ และ ดิจิทัล เอนเนอร์จี ดูแลกลุ่มคลัสเตอร์ ไทย ลาว และเมียนมา ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า กุญแจสำคัญที่จะทำให้องค์กรเดินไปยังจุดที่เรียกว่าความยั่งยืนมี 3 แกนหลักที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คือ 1.องค์กรต้องมี Strategize ผู้นำองค์กรต้องมีเป้าหมายในการก้าวสู่ความยั่งยืน มีการวางนโยบายและวางแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจน 2.การทำ Digitize โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ ในการติดตามและประเมิณผลการจัดการพลังงาน เพื่อให้มีตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพในการปล่อยปริมาณคาร์บอน และ 3.Decarbonize เป็นการลงมือปฏิบัติ โดยเริ่มจากการปรับปรุงการใช้พลังงานจากเดิมในตัวอาคารให้มีประสิทธิภาพสูงสุด การเลือกใช้พลังงานสะอาดเข้ามาทดแทนและชดเชยในบางพื้นที่ และการเลือกใช้อุปกรณ์ที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ โดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นองค์กร์ที่ได้รับการยกย่องด้านความยั่งยืนที่สุดในโลกมาอย่างต่อเนื่อง ได้พัฒนานวัตกรรมโซลูชั่นที่ตอบรับกับความต้องการของหลายมิติอุตสาหกรรม ซึ่ง EcoStruxure Building Activate เป็นอีกหนึ่งโซลูชั่นที่จะพลิกโฉมอาคารขนาดเล็กและกลางสู่ความยั่งยืนด้วยเทคโนโลยี IoT และ AI ในรูปแบบ SaaS ที่ช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานนอกจากนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก เควิน ฮัง สถาปนิกด้านระบบไฟฟ้าของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ให้คำแนะนำในการนำนวัตกรรมโซลูชั่นเพื่อบริหารจัดการกลุ่มเฮลท์แคร์ ซึ่งอ้างอิงจากรายงานเรื่อง The Rise of the All-Electric Hospital ที่ระบุถึงการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ทรานส์ฟอร์เมชั่นจากโรงพยาบาลแบบเดิมสู่โรงพยาบาลที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแบบครบวงจรของความยั่งยืน
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังคงเดินหน้ามุ่งมั่นสร้างผลกระทบเชิงบวกช่วยให้ทุกคนได้ใช้พลังงานและทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมโยงความก้าวหน้าและความยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของทุกคน และยังคงยึดมั่นในภารกิจการเป็นพันธมิตรที่เชื่อมั่นได้ ทั้งในด้านการสร้างความยั่งยืนและสร้างประสิทธิภาพ