Authority & Harm

กรมราชทัณฑ์ร่วมกรมทบ.-ทน.และกปน. จัดทำเอ็มโอยูพัฒนาด้านน้ำปลอดภัย



นนทบุรี-กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำ และการประปานครหลวงจัดทำ MOU เพื่อพัฒนาการดำเนินงานด้านน้ำปลอดภัยตามมาตรฐานสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตสำหรับผู้ต้องขัง

วันจันทร์ที่ 18สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. นายยุทธนานาคเรืองศรีรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์พร้อมด้วยนายปริญญาคุ้มสระพรมรองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล(ทบ.) นายพงศ์พัฒน์เสมอคำรองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ(ทน.) นายปริพรรห์พิณสุรงค์รองผู้ว่าการการประปานครหลวง(กปน.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงเพื่อพัฒนาการดำเนินงานด้านน้ำปลอดภัยตามมาตรฐานสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตสำหรับผู้ต้องขัง โดยมีนางสาววรดา วสันต์นันทสิริ ผู้ตรวจราชการกรม รักษาการแทนผู้อำนวยการกองบริการทางการแพทย์ ให้การต้อนรับและกล่าวถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวฯ ณ ห้องสัมมนากรมราชทัณฑ์ ชั้น 3 อาคารกรมราชทัณฑ์ จังหวัดนนทบุรี

ภายใต้นโยบายการบริหารงานราชทัณฑ์ “รวมพลังขับเคลื่อน 8 มิติ ยกกำลัง 2 ยกระดับสร้างความเปลี่ยนแปลง” ของนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์โดยมิติที่ 1 ขับเคลื่อนโครงการพระราชทาน “โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง รวมถึงการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในเรือนจำ การเฝ้าระวังคุณภาพน้ำอุปโภค บริโภคอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ต้องขังมีน้ำอุปโภค บริโภคที่สะอาด ปลอดภัยและเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งถือเป็นความจำเป็นขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องขังพึงได้รับตามหลักสิทธิมนุษยชน และมิติที่ 2 ยกระดับความมั่นคงปลอดภัยในเรือนจำและสถานที่ควบคุม และบำรุงรักษาด้านระบบงานโครงสร้างพื้นฐานของเรือนจำให้มีความมั่นคงปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาระบบการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังให้เป็นไปตามมมาตรฐานสากลและหลักทัณฑวิทยา ด้านการดูแลสุขอนามัยของผู้ต้องขัง การดูแลรักษาสุขภาพและการเฝ้าระวัง ป้องกันเชื้อโรคให้แก่ผู้ต้องขังทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

ผลจากการสำรวจการใช้น้ำอุปโภค บริโภคของเรือนจำทั่วประเทศ พบว่า มีการใช้น้ำจากหลายแหล่ง เช่น น้ำประปานครหลวง น้ำประปาส่วนภูมิภาค น้ำประปาเทศบาล น้ำบาดาล และน้ำประปาที่เรือนจำผลิตขึ้นเองจากแหล่งน้ำผิวดินและน้ำบาดาลโดยมีข้อจำกัดด้านความสะดวกของแต่ละพื้นที่ และจากผลการตรวจเฝ้าระวังคุณภาพน้ำเบื้องต้นผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำอุปโภค บริโภค เรือนจำหลายแห่ง ยังมีประเด็นปัญหาในเรื่องของคุณภาพน้ำ เช่น ค่าคลอรีนอิสระคงเหลือต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ค่าโคลิฟอร์มแบคทีเรียเกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าหากพบโคลิฟอร์มแบคทีเรียในน้ำดื่มมีโอกาสที่จะเกิดโรคระบบทางเดินอาหารได้ เช่น อหิวาตกโรค บิด ไทฟอยด์ และในหลายพื้นที่ยังพบโลหะหนักที่เป็นพิษต่อร่างกายปะปนอยู่ในน้ำ ซึ่งส่งผลให้ผู้อุปโภค บริโภค ได้รับผลกระทบต่อร่างกายโดยตรงและโดยอ้อม กรมราชทัณฑ์ ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญในด้านความสะอาด ความปลอดภัย และการรับรองมาตรฐานด้านการจัดการคุณภาพน้ำ จึงได้ประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานภาคเครือข่ายซึ่งประกอบด้วย กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำ และการประปานครหลวงจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนาการดำเนินงานด้านน้ำปลอดภัยตามมาตรฐานสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตสำหรับผู้ต้องขัง เพื่อให้เข้าถึงน้ำที่สะอาดเพียงพอต่อความต้องการอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ตลอดจนการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำอุปโภคพัฒนาระบบและแนวทางการดำเนินงานการจัดการคุณภาพน้ำ เช่น การตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำอุปโภค บริโภคทางห้องปฏิบัติการ แนวทางหรือคำแนะนำในการปรับปรุงคุณภาพน้ำในกรณีที่พบค่าความผิดปกติ และการสนับสนุนให้ความรู้ด้านการจัดการคุณภาพน้ำในเรือนจำต่อไป